9/27/09

สสอ.เมืองยโสธร รับพระราชทานโล่รางวัล สสอ.ดีเด่นระดับประเทศ





วันที่ 24 กันยายน 2552 ประชุมวิชาการสาธารณสุข ประจำปี 2552 ณ โรงแรม แอมบาสเอดร์ จอมเทียนพัทยา ประธานการประชุม โดย ฯพณฯ มานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอนเช้า มีพิธีการ มอบรางวัล สถานีอนามัยดีเด่น ระดับจังหวัด ระดับ เขต ระดับ ภาค และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ดีเด่น ระดับจังหวัด ระดับ เขต ระดับ ภาค สถานีอนามัยดีเด่น จังหวัดยโสธร ประจำปีนี้คือ สถานีอนามัย นาเวียง ซึ่ง นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นผู้รับมอบโล่รางวัล จาก ฯพณฯ มานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นเกียรติประวัติมากที่สุดในงานวันนี้ คือ พิธีรับโล่พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ให้กับ สถานีอนามัยดีเด่นระดับประเทศ และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ดีเด่น ระดับประเทศ จำนวน 2 รางวัล น่าภูมิใจมาก กับ ท่านไพโรจน์ สุดสงวน หัวหน้าสถานีอนามัย หัวถนน และ ท่าน ชำนาญ มาลัย สาธารณสุขอำเภอเมืองยโสธร ที่ได้รับพระราชทานรางวัลในวันนี้
ตอนเย็น หลังจากเลิกประชุม (วันนี้เลิก 5 โมงเย็น) งานเลี้ยงแสดงมุทิตาจิต ให้กับผู้ที่เกษียณอายุราชการ ในปีนี้ ที่ สนามกรีฑาในร่ม ภาคตะวันออก จัดงานได้ยิ่งใหญ่มาก คนเต็ม ทุกโต๊ะ ... จากนั้น พวกเรา นั่งรถ ชมเมือง อีก 1 รอบ ท่ามกลางสายฝน ...
วันที่ 25 กันยายน 2552 ประชุมเสร็จ ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง นำพวกเรากลับบ้าน ด้วยรถ ป.ทวีทรัพย์ทัวร์ อำเภอค้อวัง (ผู้จัดการน้อย โซเฟอร์มิตร และบริกร อุ้ย ) ซึ่งนำพวกเราเดินทางกลับ โดยสวัสดิภาพ ภายใต้ บรรยากาศ การเดินทาง เป็นไปอย่างสนุกสนาน และ แสนสะดวกสบาย ตลอดการเดินทาง ทั้ง ขาไป และ ขากลับ อาหารเย็นที่ อำเภอปราสาท สุรินทร์ อร่อยดี ถึง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว 5 ทุ่ม

ดูงาน สถานีอนามัยหัวถนน ชลบุรี





วันที่ 23 กันยายน 2552 ดูงาน สถานีอนามัยหัวถนน ชลบุรี : ตี ห้า ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ไปรับ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ที่บ้าน เพื่อเดินทาง ไปขึ้นรถ ที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว พวกเรา ใช้บริการ รถ ป.ทวีทรัพย์ทัวร์ อำเภอค้อวัง (ผู้จัดการน้อย โซเฟอร์มิตร และบริกร อุ้ย )สำหรับเดินทางไป ประชุมวิชาการสาธารณสุข ณ โรงแรม แอมบาสเดอร์ จอมเทียนพัทยา วันพรุ่งนี้ มี คณะ ร่วมเดินทางทั้งหมด 29 คน ภาคบ่ายคณะของเรา แวะศึกษาดูงาน ที่ สถานีอนามัยหัวถนน อำเภอ พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็น สถานีอนามัย ที่ชนะเลิศ สถานีอนามัยดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2552 ความอัศจรรย์ อยู่ที่ เขามี เจ้าหน้าที่ เพียง 2 คน รับผิดชอบ 9 หมู่บ้าน ประชากร 5,000 คน และพื้นที่เป็นหมู่บ้านตามหัวไร่ปลายนา กระจัดกระจาย กัน แต่ เขา สามารถ ชนะเลิศ สถานีอนามัยดีเด่นระดับประเทศได้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ผมมีโอกาสได้ สัมภาษณ์ ท่าน ไพโรจน์ สุดสงวน หัวหน้าสถานีอนามัย เจ้าของรางวัลพระราชทานผู้บริหารการสาธารณสุขดีเด่น ประจำปี 2552 ซึ่งบริหารงานภายใต้คำขวัญ รุก รับ ฉับไว ใจเป็นหนึ่ง สรุปได้ว่า มนต์เสน่ห์สำคัญคือ จิตสำนึกในการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ท่านบอกว่าคำว่าความเป็นข้าราชการ คือแรงบันดาลใจที่สำคัญในการทำงานด้วยความทุ่มเท และเสียสละ ตลอดจนความสามารถในการสร้างทีมงานที่ดี ทำให้ สถานีอนามัยหัวถนนแห่งนี้ มายืนอยู่แถวหน้าสุดของประเทศในวันนี้ สิ่งที่เป็นรูปธรรมในการวัด ประสิทธิภาพกาสร้างทีมงานของท่านคือ วัสดุ อุปกรณ์ ในการบริหารงาน ได้มาจากภาคีเครือข่าย ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง บุคลากร ได้รับการสนับสนุนการจ้าง จาก นายชัยศักดิ์ บูรณะเจริญกิจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน จำนวน 2 อัตรา ให้บุคลากรมาปฏิบัติงานที่ สถานีอนามัยหัวถนน อสม. ทั้ง 90 คน สามารถ บริการด้วยจิต อาสา ที่แท้จริง ส่วน การแพทย์แผนไทย นั้น มีบริการที่ดี ที่เป็นรูปธรรม โดยทีมงานที่จิตอาสา อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดสำนักงาน สวยงามลงตัว....โดยสรุป ชื่นชมทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านครับ ...เหมาะสมแล้ว กับเจ้าของรางวัลพระราชทานผู้บริหารดีเด่น ประจำปี 2552 นายไพโรจน์ สุดสงวน … อาหารเย็น คณะเราวันนี้ ที่ ร้านอาหาร ชายทะเล ณ บ้านทะเล ...หลังจาก ตระเวน ทัวร์ รอบๆ ชายหาด และ ใจกลางเมืองพัทนาแล้ว พวกเรา พักผ่อน สบายๆ บนห้องพัก …

มุทิตาจิต คุณพี่ จันทร์เพ็ญ บุญรมณ์




วันที่ 22 กันยายน 2552 ตอนเย็น ผมพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ไปร่วมงาน แสดงมุทิตาจิต คุณพี่ จันทร์เพ็ญ บุญรมณ์ ที่ หอประชุม อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร งานนี้ ท่านวิระมิตร บุญโถน สาธารณสุขอำเภอมหาชนะชัย ท่านจัดได้ดีมากๆ น้องๆ ในอำเภอมหาชนะชัย ต่างทำหน้าที่ เพื่อพี่จ๋า ของเขา เป็นอย่างดี งานนี้ได้รับเกียรติ จาก นายแพทย์ สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร มาเป็นประธานในงาน นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วและคณะจาก เข้าร่วมงาน อาทิ นายบุญทศ ประจำถิน เจ้าพนักงานสาธารณสุข
สถานีอนามัยดงเจริญ นายบัณดิษฐ สร้อยจักร นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลตำบลดงแคนใหญ่ นายอุตส่าห์ โพธิ์ศรี หัวหน้าสถานีอนามัยกุดกุง และ นายสมร พลทิพย์ เป็นต้น

ยกเสาเอก การก่อสร้าง อาคาร สสอ.คำเขื่อนแก้ว





วันที่ 22 กันยายน 2552 : ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ไปนิมนต์ ท่าน พระครูวิสณฑ์ธรรมาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว ณ วัดบ้านบกน้อย เพื่อให้ท่าน เป็นประธานงาน การยกเสาเอก การก่อสร้าง อาคาร สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว งานนี้นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ทำทีม หัวหน้าสถานีอนามัย หัวหน้างาน เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงกัน มีท่านพระครูเกษมคุณากร เจ้าคณะตำบลกู่จาน และเจ้าอาวาสวัดนาเวียง ร่วมงานด้วย หลังถวายภัตราหารเช้าแล้ว พวกเราทำบุญ รับประทานอาหารร่วมกัน และ เลี้ยงอาหารแก่คณะช่างที่มาทำงานใน size งานด้วย งานนี้ท่านพระครูเกษมคุณากร เจ้าคณะตำบลกู่จาน และเจ้าอาวาสวัดนาเวียง ได้เตรียม อุปกรณ์ สิ่งของ สำหรับใช้ในงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งของบางอย่าง นายอุตส่าห์ โพธิ์ศรีหัวหน้าสถานีอนามัยกุดกุง ต้องเข้าไป จัดหาถึง ยโสธร ซึ่งเตรียมมาตั้งแต่เมื่อวาน เช่น ไหเงิน ไหคำ พร้อมผ้าเจ็ดสี สีละ 5 เมตร เป็นต้น มี คุณพี่ศุภมาส ครองยุทธ หัวหน้างานบริหารทั่วไป โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว เข้าร่วมทำบุญ และร่วมรับประทานอาหารเช้า กับพวกเราด้วย

อบรมการใช้ JHCIS



วันที่ 21 กันยายน 2552 ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว จัดอบรม ความรู้เกี่ยวกับการใช้โปรแกรม ในการปฏิบัติงาน ใน สถานีอนามัย ใหม่ คือ JHCIS มี เจ้าหน้าที่ จาก สถานีอนามัยทุกแห่งเข้ารับการอบรม จนทำให้ ห้องทำงาน ที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว แน่นขนัด แต่พวกเราก็สามารถทนๆกันได้ เพราะอีกไม่นาน ก็จะได้ย้ายไปอยู่ ณ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วแห่งใหม่แล้ว วิทยากร หลักโดย นายอาคม มูลสาร นายประสาน ศรีวะสุทธิ์ นายจักรพงศ์ เสาร์ทอง นายวีระวัฒน์ กำศร นายไมตรี ทองสถิตย์ พวกเรารับรองคณะวิทยากรที่อึ่งเป๊าะ จากนั้น ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง เตรียมงาน การทำบุญกฐิน ที่วัดนาเวียง ออกแบบ ฎีกากฐิน เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชา และเตรียมงาน การ ยกเสาเอก การก่อสร้าง อาคาร สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ในวันพรุ่งนี้ โดย ได้รับคำแนะนำที่ดีมากๆ จาก ท่านพระครูเกษมคุณากร เจ้าคณะตำบลกู่จาน และเจ้าอาวาสวัดนาเวียง

บ้านสีสุกปีนี้ ข้าวปลา อุดมสมบูรณ์

วันที่ 18 กันยายน 2552 ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว จัดอบรม ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยา สำหรับการรักษาโรคที่พบบ่อย วิทยากรหลัก โดย เภสัชกรหญิง กัลศิณี โชติแสง หงษ์สุวรรณ จาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และคณะ วันนี้ ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง และคณะ สรุปงาน การจัดงานเมื่อคืนนี้ ประสานข้อมูล กับ ท่านชำนาญ ชื่นตา ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายปกครองและพัฒนา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเตรียมงานการเกษียณ อายุราชการ ของ ท่าน ผดุงศักดิ์ ไชยอาลา นายอำเภอสุวรรณภูมิ ซึ่งมีกำหนดจัดในตอนเย็นวันที่ 28 กันยายน 2552 นี้
วันที่ 19 กันยายน 2552 ไปปลูก ยางพาราที่ไร่ สัปดาห์นี้ ลูกชาย ภูมิพันธุ์ ขอไม่ไปด้วย เพราะต้องอ่านหนังสือสอบปลายภาค ในวันจันทร์นี้ ตอนเย็นวันนี้ คณะญาติๆ ต้อนรับ พี่มดกลับมาจาก กรุงเทพฯ และ ร่วมดีใจกับ ครอบครัว อาจารย์ คำสิงห์ ทองอุ่น อาจารย์สุภาวดี ทองอุ่น ครูโรงเรียนบ้านบกน้อย ที่ออกรถ Toyota Fortuner คันใหม่ ด้วยเงินสด 1 ล้าน 2 แสนบาท สวยงามมาก ... รัฐบาล ประกาศ ใช้ พรบ.ความมั่นคง สำหรับรับมือ การชุมนุมใหญ่ ครบ 3 ปี การรัฐประหาร คนเสื้อ ร่วมชุมนุมใหญ่ที่ ลานพระบรมรูปทรงม้า ... หลังจากนั้น ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน งานนี้ ทำดีกันทั้ง สองฝ่าย รัฐบาลก็รักษาความสงบเรียบร้อยได้ดี ส่วนคนเสื้อแดงก็ไม่ได้สร้างความวุ่นวายจากการชุมนุม...
วันที่ 20 กันยายน 2552 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง พร้อมภรรยา อริยวรรณ จันทร์สว่าง กลับไปเยี่ยมคาระวะ คุณพ่อ ถวิล จันทร์สว่าง ที่บ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร และร่วมรับประทานอาหาร กับญาติๆ พร้อม หลานๆ ซึ่ง วันนี้อยู่กันพร้อมหน้า คุณพ่อถวิล ปีนี้ อายุ 70 ปีแล้ว ยังไปวัด สานกระบุง กระทอ กระต่า ไซ ลอบ ข้อง ได้ ( ประเพณี บ้านสีสุกคือ ช่วง ก่อนออกพรรษา จะพากันออกไปร่วมกันทำงานที่วัด เพื่อทำ อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ สำหรับใช้ในการจับสลาก ในวันออกพรรษา เพื่อหาทุนทรัพย์ สำหรับใช้ในกิจการส่วนรวมในวัด ) ขากลับ เมี่ยงคำ ตัดขนไม่เสร็จ ต้องฝากร้านเขาเอาไว้ ...บรรยากาศ โดยทั่วไป ญาติๆ ทุกคน มีสีหน้าที่ แววตา ที่มีความสุข เพราะ ปีนี้ น้ำท่า อุดมสมบูรณ์ กบ เขียด ปู ปลา สามารถพอหามาเลี้ยงปากท้องได้ในครอบครัว... สำนักงาน อบต. ตอนนี้ ย้ายไป ตั้งอยู่บริเวณ ถนนสาย โสกผักหวาน- ดู่ลาด การเลือกตั้งที่ผ่านมา นายก อบต. ดูลาด ได้ นายพายัพ แก้วสงค์ เป็นสมัยที่ 2 ส่วน ส.อบต. บ้านสีสุก มี 2 คน คือ นายวิชิต สามาอาพัฒน์ และ นายบุญหลาย สายรัตน์ ( น้าอ๊อด)

9/18/09

ด้วยไมตรี และดวงใจอันบริสุทธิ์ แด่ คุณ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี














วันที่ 17 กันยายน 2552 ด้วยไมตรี และดวงใจอันบริสุทธิ์ แด่ คุณ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี : เช้าทีมงานน้องๆเตรียมงาน มุทิตาจิต คุณอุตส่าห์ โพธิ์ศรี ณ หอประชุมอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประธานในงานได้รับเกียรติจากท่าน นายสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ภายใต้ชื่องาน ด้วยไมตรี และดวงใจอันบริสุทธิ์ แด่ คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี
งานนี้ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว และคณะ เจ้าหน้าที่ สถานีอนามัยทุกแห่ง ในสังกัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นน้องๆ ของคุณพี่อุตส่าห์ มีความตั้งใจที่จะจัดงานมุทิตาจิต ให้เป็นเกียรติแก่ท่าน ที่ร่วมมือกันปฏิบัติงานราชการด้วยกันมา เป็นเวลานาน
ในงานนี้ นอกจากเรามีผู้บริหารที่ดีที่ให้เกียรติมาร่วมงาน ทั้งจาก ผู้บริหารสูงสุดในระดับอำเภอท่านสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง ท่านวิระมิตร บุญโถน นำทีมคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอมหาชนะชัยมาร่วมงานด้วย เป็นที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง บางหน่วยงาน เราเรียนเชิญไป 1 โต๊ะ ท่านบอกว่าด้วยความยินดี ขอเป็น 2 โต๊ะ เช่น ท่าน พ.ต.อ.ชลาวุฒิ ไพรวรรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว และ ท่านประมวล เจนร่วมจิต ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอคำเขื่อนแก้ว หรือ ท่าน เชษฐ์ เลิศเสรี ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาคำเขื่อนแก้ว ท่าน สุดชาดา เศรษฐาพงษ์ ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาคำเขื่อนแก้ว นั้นส่งเงิน ในวันแรกที่ได้รับการประสานงาน และ อบต. และส่วนราชการต่างๆ ส่วนมาก ส่งเงินสมทบค่าโต๊ะ ในวันถัดไปเป็นต้น บรรยากาศเป็นที่ประทับใจ ตั้งแต่ตอนเย็น เริ่มด้วยการสู่ขวัญ ผูกแขน จากนั้นเมื่อแขกเหรื่อ จากส่วนราชการ ทุกส่วน จาก จากชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จาก โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ โรงเรียนคำเขื่อนแก้ว โรงเรียนอนุบาล ลุมพุกวันครู(2503) จากพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นอำเภอ นำทีมโดย ท่านวิชัย พรหมศร หัวหน้าส่วนอื่นๆ เช่น ท่านนพดล หล้าแหล่ง ปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้ว ท่านประมงอำเภอพรพิเชษฐ์ ปัญญา ท่านสัสสดีอำเภอ ร.ท.จรรยา สีลีบสี และมีแขกสำคัญ จากอบต.ทุกแห่ง และจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงาน ซึ่งเป็นที่ประทับใจ ...ชมรมสาธารณสุขนอกประจำการ ที่มาร่วมงาน มี ท่านจอม เสาร์ทอง ท่านทองคำ การุณย์ บุญช่วย เสาร์ทอง รำไพ สำราญจิต สุเมทินี กิจเกียรติ์ และ แม่แต๋ว สะอาด ทานัธยพงศ์
งานนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ร่วมกับ คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี และดูสีหน้าท่าทางแขกที่มา ถือว่ายิ้มแย้มแจ่มใจ ด้วยความปิติยินดี ที่ได้มาร่วมงานเนื่องจากพวกเรา ชาวสาธารณสุขทุกคนถือว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับทุกหน่วยงาน พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและช่วยเหลือกันในการปฏิบัติงาน ตามกำลังความสามารถของพวกเรา ของขวัญ ของที่ระลึก ที่น้องๆ ทุกคนมอบให้ คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรีมากมาย ทั้งของส่วนตัว และของที่ระลึกในนามหน่วยงาน และจากแขกที่มาร่วมงาน เป็นที่ชื่นใจและเป็นภาพที่ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ในงานนี้ ผมมอบ ภาพถ่ายใส่กรอบสวยงามเป็นภาพคณะในงานที่ไปร่วมงานมงคล สำหรับรัชกาลที่9 ในวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที และภาพถ่ายในชุดข้าราชการเต็มยศ สีกากี ที่พวกเราใส่ร่วมกันในทุกวันจันทร์ ซึ่ง คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี จะมีโอกาสได้ใส่ชุดข้าราชการระดับ 7 หรือ ชั้นพิเศษนี้ อีกเพียง 2 วันเท่านั้น คือ วันจันทร์ที่ 21 และวันจันทร์ที่ 28 กันยายนเท่านั้น ก่อนที่จะเกษียณ อายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ อย่างสง่างาม และ ของขวัญชิ้นพิเศษ ที่ผมบรรจงเตรียมสำหรับคุณพี่อุตส่าห์ คือ การรวบรวมและเลือกภาพให้เหมาะสมกับ เนื้อหาเพลง และ เนื้อหาชีวิต ของพี่อุตส่าห์ โดยการทำ โปรโชว์ เพลง สร้างฝัน ด้วยกันบ่อ ของ มนต์แคนแก่นคูณ ผมใช้เวลาทำผลงานชิ้นนี้เพื่อเป็นของขวัญสำหรับพี่อุตส่าห์ กว่า 1 เดือน ...โดยภาพรวมแล้ว ถือได้ว่าเป็นอีกงานหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจ ทั้งแก่ คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี และเป็นความภูมใจของพวกเรา ที่ได้ทุ่มเทกำลังความสามารถจัดงานนี้ให้กับ คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี คนดี ที่พวกเรารักและ เคารพ...ขอให้โชคดีบนเส้นทางสายใหม่ครับ..

สิ่งที่ผมประทับใจนอกจากบรรยากาศในงานที่สนุกสนาน อบอุ่นด้วยแขกร่วมงานที่มากมายจากทุกหน่วยงานแล้ว คือภาพที่เห็น พวกเราทุกคนต่างช่วยกันปฏิบัติงานตามกำลังความสามารถของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่ลูกจ้างในสำนักงาน เช่น น้องแพร สุภาภรณ์ เกษมณี เป็นเลขาที่ดีมากๆ ในการประสานงานต่างๆ รวมทั้งรวบรวมภาพกิจกรรม ของ คุณพี่อุตส่าห์ คุณสมร พลทิพย์ และ นายหนุ่ม เป็นพนักงานขนของ เคลื่อนย้าย ปีนป่าย ลงน้ำไปตัดต้นธูป เป็นต้น ส่วน คุณพี่คมสันต์ อดกลั้น รวบรวมภาพเมื่อครั้งสมัยเก่าๆ ที่ คุณพี่อุตส่าห์ เคยไปทำงานที่สถานีอนามัยนาแก เป็นต้น พี่ขจรเกียรติ อุปยโสธร มีภาพที่ประทับใจเมื่อครั้งถ่ายภาพกับ ดาราหนัง ไพโรจน์ สังวริบุตร ที่เมืองทอง ธานี เป็นต้น ส่วนแม่งานในสำนักงาน งานนี้ต้องขอขอบพระคุณ คุณพี่ จำนรรจา บุญแจ้ง และคุณพี่อภิญญา บุญถูก ฝ่าย IT มีน้องฝีมือดีที่ดูแลงานนี้อย่างไว้วางใจได้ ทั้ง คุณสุนทร วิริยะพันธ์ และ คุณวีระวัฒน์ กำศร ภาพนิ่ง โดยคุณสุรินันท์ จักรวรรณพร ภาพเคลื่อนไหว โดย คุณทศพล นิติอมรบดี ป้ายชื่อในงาน โดยคุณอุทิศ ฝูงดี หัวหน้าสถานีอนามัยกู่จาน ภายใต้ชื่องาน ด้วยไมตรี และดวงใจอันบริสุทธิ์ แด่ คุณพี่ อุตส่าห์ โพธิ์ศรี ส่วนคณะ ชมรมหัวหน้าสถานีอนามัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดเตรียมสถานที่ ณ หอประชุมอำเภอคำเขื่อนแก้ว การจัดดอกไม้โดย น้องหอมไกร อาจวิชัย น้องเกสร จันใด น้องพัชรกมล ไศลบาท ฝ่ายของขวัญรางวัล โดยน้องๆ จาก สถานีอนามัยทุกแห่งได้ร่วมกันทำงานได้ดีและพิธีการกระชับได้เหมาะสม ฝ่ายต้อนรับโดย ชมรมหัวหน้าสถานีอนามัยทุกแห่ง ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้องขอขอบพระคุณ พระเอก นางเอกในงานนี้ ที่ร่วมกัน สร้างสรรค์และดำเนินงาน ให้เป็นไปอย่างมีสีสันตลอดงาน คือ พิธีกรคู่ มนัชยา กองทำ และ นายสุนทร วิริยะพันธ์ ส่วนการแสดงพิเศษ ของเจ้าหน้าที่เรานั้นคุณคุณ สุนิสา วงชาลี นำทีมนักแสดง Surprise ให้กับแขกในงานโดยการแสดงประกอบเพลงงิ้วโต่งโต้น ของบานเย็นรากแก่น มี นักแสดง สำคัญที่ร่วมในการแสดงชุดนี้คือ นางสาวเกษรินทร์ วงเวียน นางสาวนงลักษณ์ มาลัย นางสาวอรวรรณ แสงทอง นางสาววงเดือน วงศ์อนันต์ นางสาวรัศมี โซ่เงิน นางสาวพรทิวา ทองทา ซึ่งได้ร่วมกันแสดงออกได้อย่างดีเป็นที่ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพึ่งจะเคยเห็นในวันนี้เป็นงานแรกที่ คุณนงลักษณ์ มาลัย แสดงออกในลักษณะนี้ร่วมกับเพื่อนๆ...ซึ่งถือว่าสุดยอดแล้วสำหรับงานนี้...ส่วนน้องๆสาวสวย นำทีมโดยคุณเดือน ตั้งจิต มี น้องหอมไกร อาจวิชัย น้องเอส จิตร์สุดา อรจันทร์ น้องน้ำผึ้งคุ้มครอง น้องป๋อม กิตติยา วงศาสุข น้องออน มะลิวัลย์ ยอดเสาร์ น้องปูสุภาพร บุญเชื้อ น้องจุ๊ กาญจนา ไชยมาตร น้องหน่อย หทัยชนกจันทรากาศ น้องหน่องพรรณราย มินติราช น้องตุ้ม จิราภรณ์ ขอสุข น้องติ๋ม เกสร จันใด เป็นต้น และ มีเภสัชกร กฤษดา จักรไชย ซึ่งเป็น น้องๆ pretty ชาย ที่สามารถเรียกแขกได้ดีพอสมควร การจัดดอกไม้ สวยๆในงานด้วยฝีมือน้องๆ นำทีมโดย น้องหอมไกร อาจวิชัย

ต้อนรับคณะ สปสช. เขต อุบลราชธานี : นพ.ประกายฯ



วันที่ 16 กันยายน 2552 นพ.ประกาย วิบูลย์วิภา ถ่ายทอดนวตกรรมดีๆ: เช้า นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว นายสุนทร วิริยะพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ เข้าร่วมประชุมศุนย์ปฏิบัติการไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ประธานการประชุมโดย นายสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว คณะเจ้าหน้าที่พวกเรา เตรียมงาน มุทิตาจิต คุณอุตส่าห์ โพธิ์ศรี รวบรวมภาพต่างๆ เพื่อใช้ในการจัดทำ VCD ประกอบในงานตอนเย็นวันพรุ่งนี้ ภาคบ่าย นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประธาน คปสอ. นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว รอง ประธาน คปสอ. ต้อนรับการตรวจเยี่ยม จาก สปสช. เขต อุบลราชธานี นำทีมโดย นพ.ประกาย วิบูลย์วิภา รอง ผอ. สปสช. เขต อุบลราชธานี ที่มาติดตาม เรื่อง การสนับสนุนบริการปฐมภูมิ มีคณะที่เดินทางมาด้วย 2 คน คือ พี่บุญเรือง ชัยสิทธิ์ ผู้ช่วย ผอ.สปสช. อุบล และ ทพ. วุฒิชัย ลำดวน เจ้าหน้าที่บริหารงานประกันสุขภาพ .... ประทับใจ นวัตกรรม ที่ นพ.ประกาย วิบูลย์วิภา รอง ผอ. สปสช. เขต อุบลราชธานี ได้นำเสน คือ โรงพยาบาลเขื่องใน เนื่องจากมี เภสัชกรน้อย จึงบริหารโดยใช้ระบบ IT ในการสนับสนุนยา ให้กับ สถานีอนามัย ซึ่ง สถานีอนามัยส่งเอกสารเบิกยาทาง Internet แล้ว โรงพยาบาลเขื่องในโดยฝ่ายเภสัช จัดยาตามรายการที่เสนอขอ จัดใส่รถ โรงพยาบาลเขื่องใน นำไปส่ง ถึง สถานีอนามัย แล้ว ไปตรวจสอบ ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ Stock ยาที่ สถานีอนามัยด้วย หากมียางบางรายการที่ใกล้จะหมดอายุ แล้วจะนำกลับไปใช้ ที่ โรงพยาบาลเขื่องในเพราะมีอัตราการใช้ยามากกว่า และ นวัตกรรม จาก โรงพยาบาลคำชะอี มุกดาหาร ทำในลักษณะคล้ายๆกัน แต่เป็น การสนับด้าน Suply อุปกรณ์การนึ่ง การทำแผล ชุดผ่าตัด ทำแผล เป็นต้น ...ในส่วนตัวผม ถือว่าดีทั้งสองแห่ง หาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว เราจะนำมาใช้ ควรจะผสมผสานทั้ง 2 แห่งนี้เข้าด้วยกัน คือ จัดรถ ออกไปส่ง เป็นสายเดียวกัน เส้นทางใกล้กันไปวันเดียวกัน เป็นต้น แบบนี้ได้ประโยชน์ ทั้ง ราชการ และคุณภาพจะตกถึงประชาชนโดยตรง...

9/16/09

นก ตะวัน มนต์ขลัง ข้าราชการบรรจุใหม่ ในตำแหน่งธุรการ:




วันที่ 15 กันยายน 2552 นก ตะวัน มนต์ขลัง ข้าราชการบรรจุใหม่ ในตำแหน่งธุรการ: วันนี้สิ่งที่ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ภูมิใจและดีใจมากเป็นพิเศษคือ น้องนก หรือ นางสาวตะวัน มนต์ขลัง รายงานตัว เป็น ข้าราชการใหม่ ที่ อบต. สงเปือย ตำแหน่งพนักงานธุรการ ซึ่ง คณะพวกเรา ใน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วทุกคนต่างชื่นชมและแสดงความยินดี กับการบรรจุเข้ารับราชการของน้องนกมาก นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นำทีม คณะจาก สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วทุกคนไปเลี้ยงแสดงความยินดี อาหารเที่ยงที่ ร้าน โจ้ คาร์แคร์ และพิเศษ วันนี้เป็นวันที่พวกเราทั้ง 9 คน อยู่ร่วมกันพร้อมหน้า ซึ่ง ในรอบปี จะมีไม่กี่วันเท่านั้นเอง ...น้องนก หรือ นางสาวตะวัน มนต์ขลัง เมื่อก่อนเคยมาทำงานธุรการที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ซึ่งเป็นคนที่ทำงานดี มีความสามารถ มีความรับผิดชอบ และมีระเบยบวินัยดี สามารถเรียนรู้ได้เร็ว มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับ คณะเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ผมมั่นใจว่า น้องนก จะสามารถ ปฏิบัติงาน ที่ อบต. สงเปือย ได้ดี ...ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...ขอชื่นชมและแสดงความยินดีครับ...จากพี่ก่ำ..

น้องอุ๊ อุมาพร ปัญญาใส นักวิชาการสาธารณสุขคนใหม่


วันที่ 15 กันยายน 2552 น้องอุ๊ อุมาพร ปัญญาใส นักวิชาการสาธารณสุขคนใหม่ : วันนี้ ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ขอแสดงความยินดีกับ คุณ อุมาพร ชมภูวงษ์ หรือ น้อง อุ๊ นางสาว อุมาพร ปัญญาใส เดิม ที่ จังหวัดยโสธร มีคำสั่งที่ 2506/ 2552 ลงวันที่ 2 กันยายน 2552 แต่งตั้งให้ นางสาว อุมาพร ปัญญาใส ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2552 เป็นต้นไป
น้องอุ๊ ถือเป็นบุคคลที่มีความขยันหม่นเพียร เมื่อแรกบรรจุรับราชการ ก็ประพฤติตนดีทำตัวเป็น ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีของหัวหน้า เป็นเพื่อร่วมงานที่ดี ของเพื่อนร่วมงาน เป็นนักประสานานที่ดี และที่สำคัญ เป็น คุณ หมอ ในดวงใจของประชน ส่วนด้านการพัฒนาตนเอง สามารถเรียนจบปริญญาตรีและสอบ กพ. ภาค ก. และ ภาค ค. ได้ ในครั้งเดียวหลังจากจบการศึกษา ถือว่าเป็นผู้มีความรู้คามสามารถมากคนหนึ่ง ของวงการสาธารณสุขของเรา ในนาม ชาว สาธารณสุข อำเภอคำเขื่อนแก้ว และ สถานีอนามัยทุกแห่ง ขอแสดงความยินดีกับน้อง อุ๊ ที่ได้รับ การบรรจุและแต่งตั้งเป็น นักวิชาการสาธารณสุข คนใหม่ ด้วยความภาคภูมิใจ ...พี่กำ

ท่าน ประจักษ์ ทองงาม ประธานชมรมสาธารณสุขฯ คนเก่ง



วันที่ 14 กันยายน 2552 หลังเลิกงาน ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว อาศัยพึ่งบารมี นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว มีโอกาสได้ต้อนรับ ท่าน ประจักษ์ ทองงาม ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ที่ มาแวะเยี่ยสสอ.คำเขื่อนแก้ว จากการที่ได้พูดคุยกับท่าน มีแนวคิดด้านการพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพของพวกเรามาก ท่านบอกว่า ต้องผลักดันให้มีตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับ 9 โดยต้องเป็นบุคลากรสาธารณสุขที่ไม่ใช่แพทย์ เพื่อเป็นการเปิดทางให้พวกเราสามารถก้าวหน้าในวิชาชีพได้ ส่วนสาธารณสุขอำเภอนั้น เสนอให้เป็น ระดับ 8 บริหาร หรือ อำนวยการระดับต้น มีรองสาธารณสุขอำเภอ 2 ตำแหน่ง ทั้ง ด้านบริหาร และด้านวิชาการ ส่วน หัวหน้าสถานีอนามัย เป็น นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการพิเศษ ระดับ 8 จพ.ทันตาภิบาล สามารถปรับตำแหน่งความก้าวหน้า เป็น นักวิชาการสาธารณสุขได้ เป็นต้น และท่าน ประจักษ์ ทองงาม ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยคนนี้ เป็นคนที่เสนอ ให้ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอดีเด่น และ สถานีอนามัยดีเด่น ได้รับโล่รางวัลพระราชทาน จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ซึ่งมีขึ้นในปีนี้เป็นปีแรก ที่ ได้รับโล่รางวัลพระราชทาน จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โดยในปีนี้จะจัดงานที่ แอมบาสซาเดอร์ ชลบุรี 22-24 กันยายน 2552 นี้

ประชุมคปสอ. CUP 1,000,000 PCU



วันที่ 14 กันยายน 2552 ภาคบ่าย ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประชุม คปสอ. คำเขื่อนแก้ว นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ทำหน้าที่ประธานประชุมคปสอ. เนื่องจากวันนี้ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประธาน คปสอ. ติดราชการ ที่ โรงพยาบาลตำบลดงแคนใหญ่ วาระการประชุม คปสอ. เน้นเรื่อง เรื่อง การสนับสนุนบริการปฐมภูมิ CUP 1,000,000 จาก สปสช. ของ เครือข่ายบริการสุขภาพ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่ง ที่ประชุมมีมติ สนับสนุนให้โซนต่างๆ ดำเนินงานตามกิจกรรม โครงการที่เสนอ โซนละ 100,000 บาท ประกอบด้วย โซนดงแคนใหญ่ การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน โซน กู่จาน เครือข่ายระบาดวิทยาในชุมชน โซน ย่อ ธนาคารปลากระดี่ โซนสงเปือย การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน เป็นต้น

ประชุมการพิจารณาผลงานแห่งการทำความดี ประจำปี 2552





วันที่ 14 กันยายน 2552 ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วประชุมการพิจารณาผลงานแห่งการทำความดี ประจำปี 2552
ประธานการประชุม โดย นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในลักษณะของความเอื้ออาทร ซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกัน ที่ประชุม มีมติเป็นแนวทางเดียวกันว่า ควรพิจารณาผลงานโดยเน้นผลงานจากการทำงานเป็นทีม เป็นอันดับแรก เพื่อความสมัครสมาน สามัคคี ในหมู่คณะ นอกนั้นเน้นเรื่องการมีวินัย ทั้งต่อตนเอง ต่อเพื่อนร่วมงาน และต่อผู้บังคับบัญชา และผลการพิจารณาออกมาเป็นประการใด ทุกคนพร้อมที่จะยอมรับร่วมกัน ทั้งนี้ ต้องมีคนที่สมหวัง และไม่สมหวัง แต่ที่ประชุม พร้อมที่จะให้การดูแล ทุกๆคนให้ได้รับความเป็นธรรมในโอกาสอันเหมาะสมต่อไป ในที่ประชุม หัวหน้าสถานีอนามัยทุกแห่ง ได้แสดงถึงคุณงามความดีของผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อสมควรได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ ความชอบมีแต่ผลงานที่ดีๆทั้งนั้น มีที่ประทับใจเช่น นางเครือวัลย์ คนชม หัวหน้าสถานีอนามัยนาเวียง กล่าวถึงคุณรัศมี ว่า รัศมี โซ่เงิน มีความรับผิดชอบสูงมาก หากงานไม่เสร็จ แม้นเลยเวลา หรือเป็นเวลาเสาร์ อาทิตย์ น้องเขาก็จะอุทิศเวลาเพื่องาน บางครั้งกลับบ้าน 2 – 3 ทุ่มก็มี ส่วน นางอุศมา นามแก้ว หัวหน้าสถานีอนามัยย่อ กล่าวถึง คุณ อุทัยวรรณ สุภี ว่า น้องเขาเป็นบุคคลที่วิเศษมาก สามารถทำงานได้ทุกอย่าง ไม่เคยเกี่ยงงอนว่าต้องเป็นงานในหน้าที่ทันตาภิบาลเท่านั้น หากเพื่อร่วมงานต้องการความช่วยเหลือในจุดใด น้องอุทัยวรรณ สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ ทั้งงานด้าน IT ด้นข้อมูลข่าวสาร งานสาธารณสุขมูลฐาน การประสานงานกับหน่วยงานอื่น งานอนามัยโรงเรียน งานควบคุมโรค และอื่นๆเป็นต้น ส่วน นางป้อมเพชร สืบสอน หัวหน้าสถานีอนามัยสงเปือย กล่าวถึงคุณ ดรรชนี ดรรชนี เขียนนอก ว่า น้องหนิง ถือว่าสามารถทำงานได้ทุกประเภทในสถานีอนามัย ถือว่าเธอเป็นคนค้ำสถานีอนามัยแทนดิฉันได้ สามารถไว้วางใจได้ทุกเรื่อง ส่วนมากงานที่เธอรับผิดชอบจะสำเร็จ และในส่วนตัวผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณความดีที่กล่าวมาของทุกๆคน และ น้องปุ๊กกี้ ผมถือว่าเป็นบุคคลต้นแบบ ที่มีแนวคิดที่ออกนอกกรอบ จากห้องฟันแคบๆไปสู่สังคมอันกว้างใหญ่ได้อย่างประสานสอดคล้องลงตัว และได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานจากผู้บังคับบัญชาและจากประชาชน ...สัปดาห์หน้า ผมชวนน้องไปประชุมวิชาการที่พัทยา ...น้องปุ๊กกี้ บอกว่า อยากจะไป แต่ เธอมีงานการประกวดโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทอง ที่ โรงเรียนบ้านย่อ...ต้องคอยช่วยเหลือทีมงาน เป็นต้น ...หมายเหตุ เสื้อสูท ทีม ของอำเภอเรา สีชมพู มาแล้วครับ....หลังจากที่ชุดแรกตัดให้น้องๆพนักงานต้อนรับ เมื่อครั้งการประกวด สถานีอนามัยดีเด่นที่นาเวียง เดือนที่แล้ว...

มุมอง พรบ.วิชาชีพสาธารณสุข ทางสื่อมวลชน




วันที่ 14 กันยายน 2552 มุมอง พรบ.วิชาชีพสาธารณสุข ทางสื่อมวลชน
ขอขอบคุณข้อมูล จาก http://www.dailynews.co.th
หัวข้อข่าว จาก 'รักษา' เป็น 'ป้องกัน' วันจันทร์ ที่ 14 กันยายน 2552
ระบบสาธารณสุขถึงเวลาเปลี่ยนแปลง

จากปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขของประเทศยังไม่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก จนเกิดการเสียชีวิตของประชาชน ทำให้ต้องตั้งคำถามกับหน่วยงานของรัฐที่ดูแลในเรื่องสุขภาพของประชาชนว่า ถึงเวลาหรือยังที่ต้องมีการปรับปรุงระบบสาธารณสุขให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ระบบสาธารณสุขปัจจุบันมี 4 มิติ คือ 1.การรักษา 2.การส่งเสริมสุขภาพ 3.การควบคุม ป้องกันโรค และ 4.การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ในความเป็นจริงระบบสาธารณสุขไทยดูจะให้ค่าความสำคัญเฉพาะในการรักษาผู้ป่วยเป็นอันดับหนึ่ง เห็นได้จากงบฯเหมาจ่ายรายหัวที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดสรรลงพื้นที่ งบฯมากกว่าครึ่งเป็นงบฯสำหรับการรักษา

แน่นอนว่ารัฐต้องบริการประชาชน แต่การมุ่งเฉพาะการรักษาประชาชนจนขาดการส่งเสริมและป้องกันโรค ทั้งที่เรื่องนี้ในระบบสาธารณสุขเป็นประหนึ่งปราการด่านหน้าที่ช่วยให้ประชาชนปลอดโรค

ในปี 2552 งบฯเหมาจ่ายรายหัวอยู่ที่ 2,202 บาท แบ่งเป็นค่าบริการผู้ป่วยนอก (OP) 666.96 บาท บริการผู้ป่วยใน (IP) 837.11 บาท รวม 1,507.07 บาท บริการส่งเสริมป้องกัน (PP) 269.66 บาท และบริการ ฟื้นฟูสมรรถภาพ 5 บาท เช่นเดียวกับงบฯ ปี 2553 จำนวน 2,401.33 บาท ถูกจัดสรรปันส่วนเป็นค่าบริการผู้ป่วยในและนอก 1,648.91 บาท บริการส่งเสริมป้องกัน 283.15 บาท และบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ 8.08 บาท

ผลของการดำเนินการเช่นนี้ทำให้งบฯเหมาจ่ายรายหัวที่รัฐจะต้องจัดสรรเพิ่มมากขึ้นทุกปี จากราว 1,202 บาทในปี 2545 เพิ่มเป็น 2,401.33 บาทในปี 2553 ขณะที่จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากพฤติกรรมของประชาชนที่สามารถป้องกันได้ด้วยการลด ละ เลิกพฤติกรรมบางอย่างกลับเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งที่มีการคาดการณ์ว่าภายหลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 งบฯเหมาจ่ายรายหัวที่รัฐบาลต้องจัดสรรให้กับประชาชนจะลดลง ซึ่งในการจัดสรรงบฯเหมาจ่ายรายหัวลงไปในระดับพื้นที่ สปสช. จะจัดสรรไปยังโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ตามจำนวนประชาชนในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองที่โรงพยาบาลรับผิดชอบ

ด้วยการจัดแบ่งงบฯสำหรับงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคจำนวนน้อยและจัดงบฯไปยังโรงพยาบาล ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้านส่งเสริมและป้องกันโรคในสถานีอนามัย (สอ.) เป็นหลัก ต้องใช้เวลาหมดไปกับการเขียนและเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณมาทำงานด้านส่งเสริมสุขภาพ แทนที่จะได้ลงเยี่ยมชาวบ้านเพื่อให้ความรู้ในการป้องกันโรคแก่ประชาชนอย่างที่ผ่านมา

เดิมเจ้าหน้าที่ใน สอ.จะให้การช่วยเหลือเยียวยาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นให้กับประชาชนในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายจะลงพื้นที่ให้ความรู้ในการป้องกันโรคกับประชาชนคู่กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อ 1 ครัวเรือน แต่หลังจากปี 2545 เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาช่วงบ่ายในการนั่งเขียนรายงานไปแลกกับเงิน ทำให้ความใกล้ชิดกับชาวบ้านหายไป ความสัมพันธ์อันดีเกิดความห่างเหินต่างคนต่างทำ ทำให้งานส่งเสริมสุขภาพประชาชนจึงทำได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

จากรายงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปี 2551 ของ สปสช.สรุปผลการดำเนินงานเปรียบเทียบตั้งแต่ปี 2547-2551 แสดงให้เห็นว่า ผลการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้ผลไม่คุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไป โดยเด็กอายุ 0-5 ขวบ ที่มีภาวะโภชนาการบกพร่อง และเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะหลอดเลือดในสมองอุดตัน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคถุงลมโป่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนความล้ม เหลวของนโยบายการส่งเสริมสุขภาพประชาชน และหากปล่อยให้ระบบสาธารณสุขไทยยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ต้นทุนการรักษาพยาบาลคงพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลอาจล้มละลาย เมื่อแนวทางการมุ่งเรื่องการรักษาพยาบาลดูจะไม่ใช่คำตอบของระบบสาธารณสุขไทย ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะหันกลับมาทบทวนเรื่อง นี้อย่างจริงจัง

กรณีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รัฐบาลมุ่งเน้นแต่เฉพาะการรักษาพยาบาลจนหลงลืมการส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักวิธีการป้องกันโรคด้วยตนเอง หากเกิดการระบาดของโรคนี้รอบที่ 2 หรือเกิดโรคอุบัติใหม่หรืออุบัติซ้ำ เช่น ไข้หวัดนก รัฐคงต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษาอีกมาก แต่ถ้ามีการส่งเสริมให้ประชาชนเรียนรู้การป้องกันตนเอง จะทำให้ผู้ป่วยมีจำนวนน้อย รัฐจะเสียงบฯค่ารักษาไม่มาก

แม้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาถูกทางในส่วนของนโยบายด้านสาธารณสุข ที่จะเน้นการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคให้กับประชาชนมากกว่าการรักษา แต่สิ่งที่ควรจะมีการดำเนิน การควบคู่ไปพร้อมกันด้วยคือ การออกกฎหมาย มารองรับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แม้ พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาแล้ว แต่ พ.ร.บ.การส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคแห่งชาติ ยังไม่ถูกนำเข้าสภา

สำหรับ พ.ร.บ.การส่งเสริมสุขภาพฯเนื้อหาสาระจะก่อให้เกิดการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแห่งชาติ ที่งบฯจะได้รับจากรัฐบาล ก่อนที่จะจัดสรรลงไปถึงผู้ปฏิบัติงานด้านนี้โดยตรงไม่ต้องผ่านหน่วยงานกลาง ทำให้งบฯในการดำเนินงานด้านนี้ได้รับมากเพียงพอ โดยอาจจะได้ถึง 1 แสนบาทต่อหมู่บ้าน เอื้อให้การส่งเสริมสุขภาพประชาชนและป้องกันโรคทำงานได้ดีขึ้น

ส่วน พ.ร.บ.วิชาชีพมีสาระสำคัญในการจัดตั้งสภาวิชาชีพสาธารณสุข ซึ่งจะมีคณะกรรมการควบคุมวิชาชีพทำหน้าที่ในการควบคุมมาตรฐานและจริยธรรม เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จะปฏิบัติงานใน สอ.หรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ จะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสาธารณสุข และหากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณจะถูกลงโทษตามที่กำหนด เช่น การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นต้น

นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า หาก พ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะสนับสนุนหรือส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและทั่วถึง เป็นหลักประกันว่าประชาชนผู้รับบริการจะได้รับการให้บริการที่มีมาตรฐาน ในขณะเดียวกันผู้ทำหน้าที่ก็ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายด้วย มิใช่ปล่อยให้กระทำการไปอย่างขาด การควบคุมจนประชาชนได้รับบริการที่ต่ำกว่ามาตรฐานและจริยธรรมวิชาชีพ จึงน่าจะเป็นผลดีมากกว่าปล่อยให้กระทำไปโดยขาดการ ควบคุม

“ปัจจุบันโดยพฤตินัยระบบสาธารณสุขได้ปล่อยให้บุคลากรปฏิบัติงานโดยอิสระในการให้บริการประชาชนอยู่แล้ว กล่าวได้ว่าบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในสถานีอนามัยและในชุมชนกระทำการประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต หากบุคคลเหล่านี้ไม่มีความเป็นวิชาชีพ ก็อาจหมายถึงการที่ประชาชนไม่ได้รับบริการที่มีมาตรฐานไปด้วย” นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุขกล่าว

ถ้าบุคลากรกลุ่มนี้มีความเป็นวิชาชีพและมีกฎหมายรองรับจะเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการได้รับบริการ และเป็นการป้องกันบุคคลผู้ไม่มีมาตรฐานและจริยธรรมในวิชาชีพออกจากชุมชน ผลดีน่าจะเกิดกับประชาชนมากกว่าผลเสีย จึงเป็นการสมควรที่จะมีการพัฒนาความเป็นวิชาชีพของบุคลากรสาธารณสุข เพื่อการได้รับบริการที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึงตามที่สิทธิบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

หากระบบสาธารณสุขเปลี่ยนมาให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพ ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือประชาชนที่จะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง รู้จักการป้องกันตนเองให้เจ็บป่วยเป็นโรคน้อยที่สุด ขณะเดียวกับรัฐบาล จะลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่มีราคาแพง และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จากการที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 80 (2) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ให้ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาระบบสุขภาพที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพ อันนำไปสู่สุขภาวะที่ยั่งยืนของประชาชนรวมทั้งจัดและส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ถึงเวลาแล้วที่ระบบการสาธารณสุขของประเทศไทย จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากการตรวจรักษาโรคเป็นหลักให้กลายเป็นการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ.

พี่เป้ ยุทธนี เพ็ญสุวรรณ พาน้องปุ้ยมาบรรจุงานที่ธนาคารออมสิน



วันที่ 13 กันยายน 2552 พักผ่อนที่บ้าน ความดีใจในวันนี้ ตอนเช้า ดีใจที่ ลูกภูมิพันธุ์ ดูแลบ้าน ทำงานบ้าน กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างรถ เป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ ทุกครั้งที่กลับมาจาก จังหวัด อุบลราชธานี ตอนเที่ยง ดีใจ ที่ พี่เป้ ยุทธนีย์ เพ็ญสุวรรณ ( หัวหน้าฝ่ายที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด) พร้อมครอบครัว มาเยี่ยม ที่บ้านพวกเรา รับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านปาณี เนื่องในโอกาสที่แสดงความยินดีกับ น้องปุ้ย ลูกสาวพี่เป้ น้องปุ้ย ลูกสาวพี่เป้ คนนี้ ถือว่าเป็นคนที่เก่งมาก และมีความรับผิดชอบสูง เห็นได้จากการที่ที่สำเร็จการศึกษา คณะบัญชี จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น แล้ว สามารถสอบบรรจุเป็นพนักงานธนาคารออมสินได้ ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะสามารถทำได้ และน้องปุ้ย จะมาปฏิบัติงานที่ ธนาคารออมสิน สาขาคำเขื่อนแก้ว ในเดือนนี้ พี่เป้ ยุทธนีย์ เพ็ญสุวรรณ เป็นพี่สาวที่พวกเราให้ความเคารพ สนิทกันตั้งแต่เมื่อครั้งพวกเราเรียน ปริญญาโท ที่จุฬาลงกรณ์ด้วยกัน เมื่อปี 2540-2544 ขอแสดงความยินดีกับครอบครัว คุณพี่เป้ ยุทธนีย์ เพ็ญสุวรรณ และคุณพี่กมล เพ็ญสุวรรณ ที่มีลูกสาวที่ดีและสามารถมีงานทำที่มั่นคง ตามความมุ่งหวัง.... พี่กมล เป็นผู้จัดการธนาคาร มีน้องชายเป็นคุณหมอ และมีน้องสาวเป็นศาสตราจารย์ ถือว่าเป็นครอบครัวที่เป็นครอบครัวคนเก่งอีกครอบครัวหนึ่งของเมืองร้อยเอ็ด ส่วนคุณยาย ที่มาด้วย นั้น อายุ 84 ปีแล้ว แต่ยังคงแข็งแรง เพราะคุณยายไปปฏิบัติธรรมเป็นประจำ เป็นแม่ออกค้ำประจำวัดบึงพลาญชัย ของท่านเจ้าคุณ เจ้าคณะภาค 10 พูดคุยเป็นที่ถูกคอกันดีมาก กับ นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง

ประชุม อสม.ทั่วทั้งจังหวัดยโสธร กว่า 1,000 คน ณ หอประชุม OTOP








วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2552 เช้าผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ไปพร้อมกับ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นายสุรินันท์ จักรวรรณพร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ จาก สถานีอนามัยทุกแห่ง นำ อสม. หมู่บ้านละ 1 คน เข้าร่วมงานการประชุม อสม.ทั่วทั้งจังหวัดยโสธร กว่า 1,000 คน ณ หอประชุมศูนย์แสดงสินค้า OTOP สวนสาธาณะพญาแถน ยโสธร วิทยากรคนสำคัญคือ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นพ. สมชาย เชื้อเพชระโสภณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 13 โดย งานนี้ นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร จัดงานได้อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการประกาสเกียรติคุณ พลังอาสา พลังการทำความดี ของเหล่าบรรดา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม.) ปีนี้ จังหวัดยโสธร มี อสม.ดีเด่นระดับชาติถึง 2 สาขา ประกอบด้วย สาขาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ได้แก่ นายบุญเรือง คำไพ จาก สถานีอนามัยตาดทอง และ สาขาการจัดการสุขภาพชุมชน ได้แก่ นายบุญกอง ตราชู จาก อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร ของหัวหน้าสมศักดิ์ มณีสาร ..... ในงานนี้ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความดีใจกับ นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น คนดี ศรีอีสาน ประจำปี 2552 ด้วย...ซึ่ง อสม.ที่เข้าร่วมประชุม ต่างมีความยินดี ที่ท่านให้โอกาสมาเยี่ยมเยือน พี่น้อง อสม.ของ ยโสธรเรา....ผมสังเกตเห็นว่าท่านประทับใจ พี่น้อง อสม. จังหวัดยโสธรเรามาก แม้แต่การรับช่อดอกไม้จาก อสม. ท่านจะพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง ถามสารทุกข์ กับอสม. และ อสม.บางคนท่าน จับมือแสดงความขอบคุณ ที่ได้ร่วมกันฟันฝ่า อุปสรรค และเสียสละเวลา ในการอุทิศตน เพื่อสังคม มากว่า 30 ปี ... .. สำหรับ อสม.ดีเด่นระดับชาติ หรือ อสม.ดีเด่นระดับประเทศประจำปี 2552 จำนวน 12 สาขา 15 รางวัล ที่ได้รับเข็มทองคำเชิดชูเกียรติ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ประจำปีนี้ประกอบด้วย สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นายนิพน สารทรานนท์ จ.ฉะเชิงเทรา สาขาสุขภาพจิตชุมชน ได้แก่ นายสำรวย อำนวย จ.ศรีษะเกษ สาขาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ได้แก่ นายบุญเรือง คำไพ จ.ยโสธร สาขาการบริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) ได้แก่ นางนภาพร ภูมิเรศสุนทร จ.สระแก้ว สาขาการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่ นายคำ บุญลือชา จ.กาฬสินธุ์ สาขาการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ได้แก่ นางเครือ เนตรภักดี จ.อุดรธานี สาขาเอดส์ในชุมชน ได้แก่ นางธวัลรัตน์ คงรอด จ.มุกดาหาร สาขาการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ นางสุนีย์ สุขสันต์สิริมา จ.สมุทรสาคร สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ นางยุพารักษ์ พรหมนอก จ.ขอนแก่น สาขาการจัดการสุขภาพชุมชน ได้แก่ นายบุญกอง ตราชู จ.ยโสธร สาขาอนามัยแม่และเด็ก นางสุดารัตน์ จันทร์ทอง จ.ตรัง และสาขาการปฏิบัติงานดีเด่นในพื้นที่ที่มีภาวะวิกฤติ 4 รางวัล ได้แก่ 1.นายอัดนัน เซ็ง จ.นราธิวาส 2.นางพะยอม แก้ววงศ์จันทร์ จ.ปัตตานี 3.นายเจ๊ะอูมา ดือราแม จ.ยะลา และ 4.นายหมัดอุเส็น สามารถ จ.สงขลา ....
หมายเหตุ...วันนี้ผม ดีใจมากที่มีโอกาสได้พบปะ กับ อสม. ซึ่งเป็น กัลยาณมิตรที่ดี เมื่อครั้ง ผมไปทำงาน ที่ สถานีอนามัยหนองหมี เมื่อปี พ.ศ. 2533-2535 หลายคน ยังเป็น อสม. ในสมัยนั้น ที่คุ้นเคยกันดี เช่น อสม. บุญหลาย แสงศรี อสม. ประดิษฐ์ เป็นต้น สถานีอนามัยหนองหมีปัจจุบัน มี คุณทองจันทร์ บุตรจันทร์ เป็น หัวหน้าสถานีอนามัย ซึ่ง คุณทองจันทร์ เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และ ผู้บริหารทุกคนต่างให้ความเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน ในระดับแนวหน้า ของ อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร..... ตอนกลับมาตรวจสอบความเรียบร้อยโค่นต้นไม้ ณ สถานที่ก่อสร้าง อาคาร สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว แห่งใหม่ ซึ่งวันนี้ 2 ต้นไม้ต้นสุดท้าย ต้นประดู่ข้างรั้ว และ ต้นหว้า อายุกว่า 150 ปีได้ถูกโค่นเรียบร้อยแล้ว เสียดายมาก หากไม่อยู่ในพื้นที่ที่จะก่อสร้าง ควรอย่างยิ่งที่จะอนุรักษ์ ต้นไม้ต้นนี้เอาไว้ ...