9/18/10
ความสุขคนไทยสูงที่สุด ๕ ธค. ๒๕๕๒ถึง9.86 จาก10คะแนน
วันที่ 10 กันยายน 2553 รวมข้อมูล : ความสุขคนไทยสูงที่สุด ๕ ธค. ๒๕๕๒ถึง9.86 จาก10คะแนน ขอบพระคุณ ข้อมูล ดีๆ จาก http://www.komchadluek.net
คมชัดลึก :เอแบคโพลล์สำรวจพบความสุขคนไทยวันนี้พุ่งสูงถึง 9.86 จากเต็ม 10 คะแนน สูงกว่างานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ชี้หลังชมถ่ายทอด กว่าร้อยละ 80 มีกำลังใจต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคในชีวิตเพิ่มมากขึ้น ด้านสวนดุสิตโพลสำรวจพบภาพประทับใจ ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ศูนย์วิจัยความสุขชุมชนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ทำการสำรวจเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันกับความสุขมวลรวมของคนไทยวันนี้ จากประชาชนระดับครัวเรือนทั่วประเทศ จำนวน 1,147 ครัวเรือน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 80.7 อยู่บ้านติดตามการถ่ายทอดสดพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในขณะที่ร้อยละ 19.3 ไม่ได้ติดตามชมรายการสด
เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการให้ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองนำไปปฏิบัติ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.1 ระบุว่า ขอให้มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่คอรัปชั่น รองลงมาคือ ร้อยละ 86.6 ระบุมีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้ผิดรู้ชอบ ร้อยละ 86.4 นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ร้อยละ 85 ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด และร้อยละ 84.2 ระบุเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนควรจะน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงไปปฏิบัติ พบว่าอันดับแรก หรือร้อยละ 88.3 ระบุการใช้ชีวิตด้วยความพอเพียง ร้อยละ 86.9 ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ร้อยละ 85 ตั้งจิตตั้งใจทำความดีเพื่อตัวเองและสังคม ร้อยละ 84 มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้ผิดรู้ชอบ และร้อยละ 81.2 มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง
นอกจากนี้ ภายหลังจากที่ได้รับชมการถ่ายทอดพระราชพิธีแล้วนั้น พบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่คือร้อยละ 81.9 ระบุว่าตนเองมีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 14.2 ระบุเหมือนเดิม และร้อยละ 3.9 ระบุไม่ได้ติดตาม และที่น่าปลื้มปีติอย่างยิ่งคือ จากการวัดความสุขคนไทยเมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ระดับความสุขของคนไทยในวันนี้มีคะแนนสูงถึง 9.86 คะแนน ซึ่งสูงกว่าความสุขคนไทยที่สำรวจในช่วงพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 ซึ่งอยู่ที่ 9.21 คะแนน
ขณะที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สอบถามความคิดเห็นของคนไทยทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,589 คน ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม 2552 ถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงที่คนไทยประทับใจมากที่สุด ผลการสำรวจพบว่า การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ของประเทศ เป็นพระราชกรณียกิจที่คนไทยประทับใจมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 70.28 ส่วนอันดับ 2 การพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ประชาชนชาวไทย ร้อยละ 10.64 อันดับ 3 โครงการในพระราชดำริ เช่น ฝนหลวง สร้างเขื่อน โครงการแก้มลิง น้ำท่วม ฯลฯ ร้อยละ 7.55 อันดับ 4 พระราชทานปัจจัย สิ่งของช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ร้อยละ 6.37 และอันดับ 5 โครงการหลวง ช่วยเหลือชาวเขาให้มีอาชีพ ร้อยละ 5.16
เมื่อถามว่าทุกครั้งที่ระลึกถึงในหลวง คนไทยมีความสุขในเรื่องใดมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า ภาพพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ท่านทรงงานเพื่อประชาชน ร้อยละ 43.19 งานฉลองสิริราชสมบัติ ร้อยละ 23.71 วันเฉลิมพระชนมพรรษาของทุกปี ร้อยละ 18.13 ความรักความห่วงใยของพระองค์ท่านที่มีต่อราษฎร ร้อยละ 7.70 และบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่าน ร้อยละ 7.27
เมื่อถามถึงความตั้งใจของคนไทยที่จะทำความดีถวายในหลวง พบว่า ร้อยละ 53.82 ตั้งใจจะเป็นคนดี ซื่อสัตย์ สุจริต/ยึดมั่นในความดี, ร้อยละ 14.07 มีความสมัครสมาน สามัคคี, ร้อยละ 12.26 ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่าน, ร้อยละ 10.33 ตั้งใจทำบุญ ตักบาตร ถือศีล สวดมนต์ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ และร้อยละ 9.52 อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พลังงาน ปลูกป่า
ส่วนเรื่องรบกวนเบื้องพระยุคลบาทที่คนไทยไม่อยากเห็นมากที่สุดคือ อันดับ 1 ความไม่สามัคคีกันของคนไทย ร้อยละ 43.71 อันดับ 2 การนำพระองค์ท่านมาเกี่ยวข้อง ควรเทิดไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ร้อยละ 30.57 อันดับ 3 การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ตัดไม้ ทำลายป่า ร้อยละ 15.68 และอันดับ 4 ยาเสพติด ร้อยละ 10.04
สำหรับคำที่คนไทยอยากถวายพระพรมากที่สุดคือ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ร้อยละ 38.74 อันดับ 2 คือ ขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ร้อยละ 30.82 อันดับ 3 ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ร้อยละ 19.20 และอันดับ 4 ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ร้อยละ 11.2
ซึ่งก็สอดคล้องกับผลการสำรวจของสำนักโพลต่างๆ ข้อมูล จาก http://blog.eduzones.com ในอดีตที่ผ่านมา อย่างศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจความสุขเรื่อง "ประมวลภาพความสุข-ทุกข์ของคนไทย ปี 2551" จากการสำรวจประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 17 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี ลพบุรี จันทบุรี สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย เชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลก นครศรีธรรมราช และสงขลา จำนวน 4,122 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20-27 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า "คนไทยมีความสุขต่อความจงรักภักดีมากเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยค่าเฉลี่ยความสุขอยู่ที่ 9.19 จากคะแนนเต็ม 10"
และเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยมีความสุขมากที่สุดในช่วงปี 2551 อันดับหนึ่ง ร้อยละ 92.4 คือการที่ได้เห็นคนไทยแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพล) สำรวจความคิดเห็นเรื่อง "ที่สุดแห่งปี 2551 ในสายตาคนกรุงเทพฯ" โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทุกสาขาอาชีพในเขต กทม. ระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม จำนวน 1,206 คน
ปรากฏว่า ข่าวหรือเหตุการณ์ในประเทศไทยที่สร้างความปีติยินดีมากที่สุดในรอบปี คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น ข่าวทรงหายจากพระอาการประชวร และข่าวการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ร้อยละ 22.2
ยืนยันว่า คนไทยคงมีความรู้สึกเหมือนกับที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี บอก นั่นก็คือ
"เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม เห็นในทีวี พระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดูแล้วผ่องใสมาก เราก็ภูมิใจ ท่านทรง
แข็งแรงขึ้นมาก เป็นที่ปลาบปลื้มของคนไทย”
ส่วนที่ น่าเป็นห่วง คือ คนไทย ยังเห็นแก่ประโยชน์ ส่วนตน มากกว่า การเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
ขอบพระคุณ ข้อมูล ดีๆ จาก http://www.opdc.go.th/ เมื่อ 5 พฤศจิกายน 2552
ดัชนีความสุขคนไทยสูงขึ้น เห็นแก่ตัวมากกว่าชาติบ้านเมือง
เอแบคโพลล์เผย ต.ค.52 ดัชนีความสุขคนไทยสูงขึ้นจากการแสดงความจงรักภักดี
เอแบคโพลล์ทำการสำรวจเอแบคโพลล์ทำการสำรวจดัชนีความสุขของคนไทยประจำเดือน ตุลาคมในรูปแบบเรียลไทม์เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่างใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,245 ครัวเรือน พบ ดัชนีความสุขของคนไทยประจำเดือน ต.ค.52 อยู่ที่ 7.50 ขยับเพิ่มขึ้นจาก 7.18 ที่ได้จากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือน ส.ค.52 ซึ่งดัชนีปรับดีขึ้นทุกตัว โดยเฉพาะความสุขที่เห็นคนไทยแสดงความจงรักภักดี แต่น่าเป็นห่วงเรื่องจิตสำนึกคำนึงถึงความอยู่รอดของประเทศชาติ
ทั้งนี้ ดัชนีความสุขของคนไทยทุกตัวดีขึ้น โดยเฉพาะความสุขที่เห็นคนไทยแสดงความจงรักภักดีสูงถึง 9.84 จากคะแนนเต็ม 10 รองลงมาคือความสุขต่อบรรยากาศของคนในครอบครัวสูงขึ้นจาก 8.44 มาอยู่ที่ 9.00, ความสุขต่อวัฒนธรรมประเพณีสูงขึ้นจาก 8.19 มาอยู่ที่ 8.22, ความสุขต่อสุขภาพใจสูงขึ้นจาก 7.73 มาอยู่ที่ 7.90, ความสุขต่อสุขภาพกายสูงขึ้นจาก 7.69 มาอยู่ที่ 7.77, ความสุขต่อหน้าที่การงานสูงขึ้นจาก 7.63 มาอยู่ที่ 7.67
ความสุขต่อสภาพแวดล้อมที่พักอาศัยสูงขึ้นจาก 7.50 มาอยู่ที่ 7.64, ความสุขต่อบรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในชุมชนสูงขึ้นจาก 7.17 มาอยู่ที่ 7.54, ความสุขต่อสภาวะเศรษฐกิจของตนเองและครอบครัวสูงขึ้นจาก 6.56 มาอยู่ที่ 6.92 และความสุขต่อความเป็นธรรมทางสังคมสูงขึ้นจาก 6.18 มาอยู่ที่ 6.99 ยกเว้นความสุขของประชาชนต่อบรรยากาศทางการเมืองที่ยังต่ำกว่าครึ่งคือได้ 4.74 จากคะแนนเต็ม 10 แต่สูงขึ้นจาก 4.63 มาอยู่ที่ 4.74
"ความสุขของคนไทยที่ค้นพบในการวิจัยครั้งนี้สูงกว่าการสำรวจครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา เพราะคนไทยได้ทราบข่าวในหลวงทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้น การแสดงความจงรักภักดีของไทย และดัชนีความสุขของคนไทยทุกตัวมีแนวโน้มดีขึ้น ยกเว้นบรรยากาศทางการเมือง" เอแบคโพล ระบุ
สิ่งน่าเป็นห่วงคือจิตสำนึกคำนึงถึงความอยู่รอดของประเทศชาติ โดยกลุ่มพ่อค้าและกลุ่มคนว่างงานที่ส่วนใหญ่จะเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวต้องมาก่อนประโยชน์ของประเทศชาติ ขณะที่กลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจจะมีสัดส่วน 1 ใน 3 ที่เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวต้องมาก่อนประโยชน์ของประเทศชาติ
"ไม่มีกลุ่มอาชีพใดที่โดดเด่นในเรื่องความรักชาติ เอาความอยู่รอดของประเทศชาติมาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว แม้แต่กลุ่มข้าราชการก็ยังค้นพบเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น และถ้ามองไปที่กลุ่มพ่อค้าก็พบว่าส่วนใหญ่จะเอาผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวมากกว่าความอยู่รอดของประเทศ กลุ่มคนที่พอจะพึ่งได้ คือ กลุ่มผู้เกษียณอายุที่คำนึงถึงความอยู่รอดของประเทศมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวแต่ก็เป็นเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้น"
No comments:
Post a Comment