กฐินสามัคคีปี2553วัดบกน้อย_เกือบสี่แสนห้าหมื่นบาท

24 ตุลาคม 2553: ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง พร้อมครอบครัว ลูกชายดช.ภูมิพันธุ์ จันทร์สว่าง
(ภรรยานางอริยวรรณ จันทร์สว่าง ไปทำบุญ ณ สำนักปฏิบัติธรรมพรปิยะ และ วัดพระพุทธบาทยโสธรด้วย ) ไปร่วมงานทำบุญถวายภัตตาหารเช้า ณ วัดบกน้อย หลังจากนั้น ร่วมกิจกรรมถวายกองกฐิณสามัคคี ซึ่งในปีนี้ ต้นกฐินใหญ่ ได้ บุญกุศล จาก คุณป้าสำรวม ชูแก้ว อุบาสิกา ประจำวัดบกน้อย ได้นำ ทีมงานสายบุญจาก หมู่บ้านนันทวัน วงแหวนปิ่นเกล้า ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางแค กรุงเทพมหานคร นำโดย ท่าน พิเชฐ ลิขิตขจร ท่าน วันชัย มโนสุทธิ ท่านกัญญา มสุทธิ ท่านสมจิตต์ วงศ์วัลลิยานนท์ ท่านศักดา อุดมดำรงกุล ท่านมาลี อุดมดำรงกุล และคณะ ได้ตั้งกองกฐิน มาทอดถวาย จำนวนเงิน ๓๐๘,๘๒๙ บาท ซึ่ง นายพุทธา รวมธรรม ผู้ใหญ่บ้านบ้านบกน้อย นายประสิทธิ์ รวมธรรม ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนงแปน พร้อมประชาชนบ้านบกน้อย หนองแปน ให้การต้อนรับด้วยดี ...ซึ่งประชาชนทั้งสองหมู่บ้าน สมทบกองกฐินสามัคคีอีก จำนวนเงิน ๑๔๐,๒๐๐ บาท(กองละ ๓๐๐ บาท) รวม กองฐินที่ได้ในวันนี้ จำนวน ๔๔๙,๙๒๙ บาท(สี่แสนสี่หมื่นเก้าพันเก้าร้อยยี่สิบเก้าบาทถ้วน) ถวายแด่ พระภิกษุสงฆ์ และที่ประชุมสงฆ์ มีมติให้ พระทวี ฐิตวสังวโร วัดบกน้อย เป็นผู้รับกองกฐินทานประจำปีนี้
...ในงานวันนี้ นี้นอกจากกองกฐินแล้ว คุณป้าสำรวม ชูแก้ว และคณะท่าน พิเชฐ ลิขิตขจร และคณะ ยังมีกองผ้าป่ามาถวายด้วยอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่า ๔,๔๒๐ บาท พร้อมทั้งได้รวบรวมทุนสมทบบริจาคเป็นค่าน้ำค่าไฟบำรุงวัดบกน้อยอีก กว่า ๓,๐๐๐ บาท...
... โดยมี พระมหาสัมฤทธิ์ ธมมะธีโร เจ้าคณะตำบลนาแกและเจ้าอาวาสวัดป่านาแก เทศนาโปรดญาตฺโยม... มีข้อความสั้นๆ ที่ปรับใจความว่า ... การที่พวกเรามีโอกาสได้มารชพร้อมกันร่วมทำบุญแด่พระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ในวันนี้ ถือเป็นกุศลอย่างมาก... หลายคนตั้งใจไว้แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ..พวกเราได้ตั้งใจไว้และมีโอกาสได้ทำถือว่าเกิดกุศลอันยิ่งใหญ่ หลายท่าน ต้องเหมารถบัสมาจากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางกว่า ครึ่งวัน แต่ดูทุกท่านแล้ว ไม่มีแววตาแห่งความเหน็ดเหนื่อยเลย เพราะว่าทุกท่านล้วนมีจิตอันเป็นกุศล ที่จะร่วมกันมาทำบุญในงานวันนี้ ...พระมหาสัมฤทธิ์ ธมมะธีโร ท่านยกภาษิตอีสาน บทหนึ่ง ที่ประทับใจไว้ว่า ช้างสิตาย คึดฮอดเครือ เสือสิตาย คึดฮอดเหล่า คนเฮาสิตาย คึดฮอดบุญ...อธิบายความ ช้างเวลาจะตาย ตกหลุมตกบ่อ จะคิดถึง เครือไม้ เถาวัลย์ สำหรับเกาะยึดไว้
เสือเวลาจะตาย จะคิดถึง เหล่า หมายถึง ป่า ที่เคยอยู่อาศัย คนเราเวลาจะตาย จะคิดถึง บุญ ทาน ที่เคยได้ทำไว้...
… การแห่กองกฐิน เป็นไปด้วยความสนุกสนาน บนใบหน้าผู้ร่วมงานที่ ยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างสรรค์บรรยากาสดีดีโดย พ่อมี กลองยาวซุปเปอร์ดาวรุ่ง บ้านบกน้อย
… หมายเหตุ: เมื่อประมาณ สี่ห้าปี ที่ผ่านมา คุณป้าสำรวม ชูแก้ว อุบาสิกา ประจำวัดบกน้อย ได้นำ ทีมงานสายบุญจาก หมู่บ้านนันทวัน วงแหวนปิ่นเกล้า ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางแค กรุงเทพมหานคร นี้ มาร่วมสมทบทุนลงรากฐานการก่อสร้างศาลาหลังหม่ของวัดบกน้อยของเรามาแล้วครั้งหนึ่ง... โอกาสข้างหน้า หากมีบุญวาสนาต่อกัน คาดหมายว่า อาจจะมีโอกาสได้ต้อนรับ ทีมงานผู้ใจบุญ จาก หมู่บ้านนันทวัน วงแหวนปิ่นเกล้า ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางแค อีกนะครับ...พวกเรา ชาวบ้านบกน้อย ยินดี ต้อนรับ กัลยาณมิตรที่ดีของเราในทุกโอกาสครับ และอาจจะได้ใช้ศาลาหลังใหม่ ให้การต้อนรับท่านในโอกาสต่อไปครับ...
...ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย พระคุณหลวงปู่ดี ที่ชาวบ้านบกน้อยเคารพนับถือ บารามี ท่านพระครูวิศลธรรมาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว และ เจ้าอาวาสวัดบ้านบกน้อย และคุณงามความดี ที่พวกเราได้ร่วมกันสร้าง.. ขอให้ทุกท่านจงมีความสุขโดยถ้วนหน้าทุกคน อย่างน้อยให้เป็นบุญไว้ระลึกถึงก่อนนอนแล้วหลับฝันถึงอย่างมีความสุขทุกท่านครับ...
… ภาพกิจกรรมเหล่านี้ พระมหาอริญชัย อชิโต ท่านบันทึกไว้ เป็นเกียรติประวัติ ณ วัดบกน้อย นะครับ...