9/9/09

เศรษฐี กับภรรยาทั้ง 4ข้อคิดดีๆงานศพแม่ทองบ่อ อุดมรัตน์





วันจันทร์ ที่ 07 กันยายน 2552 เศรษฐี กับภรรยาทั้ง 4ข้อคิดดีๆงานศพแม่ทองบ่อ อุดมรัตน์: เลิกประชุมเดินทางไป ร่วมงาน ฌาปณกิจศพ คุณแม่ ทองบ่อ อุดมรัตน์ ญาติคุณแม่พาชื่น จุฑาสงฆ์ หรือคุณยายของ นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว คณะเดินทางโดย กข 1594 มี นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นายสุรินันท์ จักรวรรณพร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ นายสุนทร วิริยะพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ และ นายบัณดิษฐ สร้อยจักร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ซึ่งวันศุกร์ที่แล้ว ได้นำพวงหรีด ในนาม คณะ เจ้าหน้าที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว มาร่วมคารวะศพแล้ว เพื่อนร่วมงานจาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วเช่น ภก.กาญจนพงศ์ เพ็ญทองดี นางรัชฎาภรณ์ แสนทวีสุข นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง พรไพบูลย์ พงศ์ไพรัตน์ เป็นต้น งานจัดขึ้นที่ วัดป่าเฉลิมพระเกียรติ บ้านดงพยอม ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง กาฬสินธุ์ ประธานในงานโดย ท่านเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ วันนี้ท่านมาพร้อมกับภริยา ท่าน พิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์ ด้วยว่ามีบุตรสาวคนสุดท้องของ คุณแม่ ทองบ่อ อุดมรัตน์ คุณ ชนะกาญจน์ ศิลปไพบูลย์ และสามี ซึ่งเป็นปลัดอำเภอ ทำงานที่ ที่ทำการป้องกันจังหวัด กาฬสินธุ์ ซึ่ง งานนี้ ท่านสุวัฒน์ เข็มเพชร ป้องกันจังหวัด กาฬสินธุ์ ร่วมงานด้วย ท่านสุวัฒน์ เข็มเพชร อดีตเมื่อสมัยประมาณ ปี 2547 เคยไปดำรงตำแหน่งปลัดอาวุโส ที่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร คิที่ประทับจวันนี้ ได้จากการเทศนาหน้าศพ เรื่อง เศรษฐี กับภรรยาทั้ง 4 เศรษฐี กับภรรยา4 คน
กาลครั้งหนึ่ง มีเศรษฐีผู้หนึ่ง ซึ่งมีภรรยา 4 คน เขารักภรรยาคนที่ 4 มากที่สุด เพราะเธอสวยงามมากๆๆๆ รองลงมา คือคนที่ 3 เพราะเธอสวยงามมากๆ รองไปอีกคือภรรยาคนที่ 2 เพราะเธอสวยงามมากๆ และ ภรรยาคนที่ 1 เพราะเธอเคยสวย ดั้งนั้นภรรยาคนที่ 4 ซึ่งเป็นคนล่าสุด สาวที่สุด จึงได้รับความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญมากกว่าคนอื่นๆ
ต่อมา เมื่อเศรษฐีแก่ชราลง เขาอยากจะรู้ว่า ในบรรดาภรรยาทั้ง 4 คนนี้ ใครบ้างที่รักเขาจริง เศรษฐีเรียกภรรยาคนที่ 4 มาถามว่า "นี่น้อง พี่รักน้องมาก ทรัพย์ สมบัติ พี่จะยกให้น้องหมด อีกไม่นานพี่คงต้องตายจากไป แต่พี่ขอน้องข้อหนึ่ง หากพี่ตายไป พี่อยากจะชวนน้องไปอยู่อยู่ด้วย เพราะพี่รักน้องมากที่สุด น้องจะไปด้วยได้ไหม"
ภรรยาคนที่ 4 ก็ตอบว่า "จะบ้าหรือพี่ มีใครที่ไหน ที่จะตามคนตายไป พี่ไปของพี่ก่อนเถอะนะ น้องไม่ไปด้วยหรอก" เพราะฉันยังสาว สวย ..หากพี่ตายไป ฉันยังคงเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป ...ใครๆๆก็ต้องการฉัน
เศรษฐผิดหวังอย่างหนัก เสียใจอย่างมากเมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น จึงหันไปถามภรรยาคนที่ 3 ด้วยคำถามเดียวกัน
ภรรยาคนที่ 3 ก็ตอบว่า "พี่เป็นอะไรไป จะบ้าเหรอ ถึงคนรักกันปานใด ก็ไม่มีใครยอมตายตามไปด้วยหรอก เชิญพี่ตายไปก่อนเถิดนะ"
เศรษฐีต้องเสียใจซ้ำสอง คิดว่าคนที่รักรองลงมาจะตายตามไปด้วย ก็ผิดหวังอีก จึงหันไปถามภรรยาคนที่ 2 ภรรยาคนที่ 2 ก็ตอบปฏิเสธในทำนองเดียวกัน ทำให้เศรษฐีผิดหวังมากยิ่งขึ้น แต่มีใจชื้นขั้นมานิดหน่อย ที่ภรรยาคนที่สอง บอกว่า น้องจะจัดการงานสพ ของพี่ให้สมเกียรติสมฐานะ
จากนั้น จึงหันไปถามคนสุดท้าย ซึ่งเป็นภรรยาคนแรก ซึ่งเขาไม่ค่อยเอาใจใส่ดูแลนัก ทั้งไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ จึงถามไปอย่างไม่คาดหวังอะไร
แต่ภรรยาคนที่ 1 กลับตอบว่า หมาแต่งกับหมาตายไปกับหมา ไก่แต่งกับไก่ตายไปกับไก่ "เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น ยามสุขก็สุขด้วยกัน ยามทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน จะทอดทิ้งกันได้อย่างไร ถ้าพี่ตายไป น้องก็จะขอตามไปด้วย"
ในที่สุด เศรษฐีจึงได้รู้ว่า ภรรยาคนแรก ซึ่งเขาไม่เคยให้ความสำคัญเลยนั้น กลับเป็นผู้ที่รักเขาอย่างจริงใจ และมีน้ำใจจะติดตามปรนนิบัติเขาไปทุกหนทุกแห่ง ส่วนภรรยาผู้ที่เขาทุ่มเทความรักให้อย่างมากมาย กลับมิได้สนใจใยดีในตัวเขาเลย
ถึงตอนนี้ ลองคิดดูให้ดีสิว่า เศรษฐีผู้นี้คือใคร?
แท้ที่จริงแล้ว เขามิใช่คนอื่นคนไกลเลย เขาคือ...ตัวเรานั่นเอง
เราทุกคน ต่างเปรียบได้กับเศรษฐีที่มีภรรยา 4 คน โดยที่...
ภรรยาคนที่ 4 คือ ชื่อ เสียง ตำแหน่ง เกียรติยศ ลองคิดดู ตำแหน่ง เกียรติยศ สวยงามไหม ใครไม่อยากได้ นายอำเภอ เกษียณไป พรุ่งนี้ก็มีคนต้องการ ผู้ว่าลาออกไป พรุ่งนี้ก็พร้อมที่จะมีผู้มารับช่วงไปไม่มีที่สิ้นสุด
ภรรยาคนที่ 3 คือ บ้านเรือน สมบัติพัสถาน แม้จะรักแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องตกเป็นของคนอื่นๆ เราเอาไปไม่ได้
ภรรยาคนที่ 2 คือ เพื่อนบ้าน ญาติสนิท มิตรสหาย บุตร ภรรยา แม้จะรักมากแค่ไหน ก็จะไปส่งเราถึง ฌาปณสถาน อยู่กับเราชั่วควันไม่ทันหมดก็จากไป ...หากรักมากๆๆ อีก 1-2 วัน ก็จะกลับมา เก็บอัฐิเราเข้าเจดีย์...
ภรรยาคนที่ 1 สิ่งที่ติดตามเราไปตลอด แต่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญเลย ...คือ บาป กับบุญ....
เพราะฉะนั้น เลือกเอาเถิดว่าเราจะรักและเอาใจใส่ภรรยาคนไหนให้มากที่สุด บางคนอาจจะเป็นเศรษฐี ผู้ซึ่งไม่รู้ว่าควรจะรักใคร ดังจะเห็นได้จาก... บางคนมัวแต่เอาใจใส่ให้เวลากับ ชื่อเสียง เกียรติยศ บ้างก็มัวแต่เฝ้าหวงแหนทรัพย์ ดูแลบ้านเรือน สมบัติพัสถาน โดยหารู้ไม่ว่า ตราบใดที่ยังไม่รู้จักวิธีการดูแลรักษาจิตใจที่ถูกต้อง รวมทั้งเรื่องบาปบุญ ย่อมเปรียบได้กับเศรษฐีผู้มองข้ามภรรยาคนที่ควรจะรักมากที่สุดไป แต่สำหรับผู้ที่หมั่นรักษาจิตใจนั้น รู้จักวิธีการใช้โลกียทรัพย์ เปลี่ยนเป็นอริยทรัพย์ ตัดความตระหนี่ด้วยการทำทาน นำร่างกายที่เกิดเป็นมนุษย์ รักษาศีลให้สมบูรณ์ เพื่อนำความไม่มีโรค ติดตัวไป และนำดวงปัญญาที่สว่างไสวไปด้วยการทำสมาธิ ทำใจหยุดใจนิ่ง สู่หนทางพ้นทุกข์ ย่อมจะเป็นทุน เป็นเสบียงที่จะนำความสุข ความสำเร็จให้บังเกิดขึ้นในอนาคตที่ยาวไกลได้
นี่คือชีวิตที่เราเลือกได้ ว่าจะทุ่มเทความรักให้กับสิ่งใด ระหว่างของชั่วคราวอันน่าหลงใหล กับจิตใจซึ่งจะติดตามเราไปตลอดกาล
...กลับถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่ม คืนนี้ฝนตกหนักพอสมควร ทำให้มีน้ำขังตามท้องทุ่งนา พื้นที่ที่ไม่ใช่ที่ดอยเกินไปน้ำเต็มทุ่งนา เหลือเพียงบางพื้นที่ ที่เป็นที่ดอนที่ยังขาดแคลนบ้าง...ถือว่าปีนี้ ฝนดีพอสมควร

3 comments:

  1. ชอบนิทานเรื่องนี้มากๆค่ะ
    อ่านบ็อกของคุณแล้วมีสาระดี
    ตั้งแต่เจอเว็บนี้
    บังเอิญเจอนะค่ะพอดีserchหาคำว่าม่วงสามสิบตรงรูปภาพแล้วเจอเด็กยืนเรียงกันแล้วคำบรรยายอยู่ข้างล่างว่าญาติๆมาจากม่วงสามสิบก็มาอ่านเจอบทความดีๆตั้งมากมายคงไม่ว่ากันนะค่ะ
    เพราะดิฉันก็เป็นคนม่วงแล้วก็แค่รู้จักญาติของคุณที่ม่วง

    ReplyDelete
  2. ตั้งแต่3เดือนที่แล้วก็เลยแอบๆมาอ่านข้อความข้อคุณแทบทุกอาทิตย์นะค่ะ

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ คุณ เดือน ฉาย มาก พบเห็น คนทำความดี ที่ไหน ช่วยกัน ชื่นชม และให้กำลังใจนะครับ...คนดี จะได้มีมากขึ้นๆ ...เพื่อความสุขของสังคมเราครับ...

    ReplyDelete