27 เม.ย.64 เลข 3 รวมพลังรัก Love Q พลังสามัคคี ในเวทีเดือนเมษายน 3L 3P 3 S ณ สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา

 27 เม.ย.64 เลข 3 รวมพลังรัก พลังสามัคคี ในเวทีเดือนเมษายน 3L  3P  3 S ณ  สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา

วันที่ 27 เมษายน 2564 นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา

ประชุมบุคลากรในสังกัด เพื่อรวม พลังความรัก พลังความร่วมมือ จากทีมสาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา

ในเวทีการประชุมประจำเดือน เมษายน 2564 ณ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา

จุดร่วมของทีมงานเรา 2 ประการสำคัญ 

1.     เราเห็นร่วมกันว่าจุดแข็งที่สุดของเลิงนกทาคือ L Team  เป็นทีมที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด   

2.     เราเห็นร่วมกันว่าจะเลื่อนขึ้นหนีจาก อันดับ ที่ 9 ขึ้นไป สู่อันดับที่ 3  

 ที่ประชุม เลือก ตัวเลข 3   จึงกำหนดการขับเคลื่อนด้วยตัวเลข 3 เช่น  3L  3P  3 S

3 L   หรือ LLL  Loengnoktha Learning with Love

Loengnoktha    จะทำสิ่งใด หาก คนเลิงนกทา ได้ประโยชน์  จงทำ  แม้สิ่งนั้น เรา หรือองค์ของเราจะเสียประโยชน์ไปบ้าง เพื่อประโยชน์ของคนเลิงนกทา ก็จงทำ

Learning    เมื่อได้ ตัดสินใจลงมือทำไปแล้ว จะมีผล 2 ประการ คือ สำเร็จ ตามมุ่งหวัง หรือ ยังไม่สำเร็จ   

                        ก็จง ทำ ต้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ เพื่อไปสู่ เป้าหมายนั้น  ยืนหยัด ต่อเป้าหมาย  ยืดหยุ่น ต่อวิธีการ ปรับเปลี่ยนได้ ตามบริบท

                      ทำไปแล้ว จะมีทั้งคำชื่น คำชม คำชอบ คำว่า ค่าด่า คำท้อ  ก็จงอย่าถอย  เก็บเกี่ยว เอามาเป็น ประสบการณ์  PDCA    ทั้ง สำเร็จ หรือไม่สำเร็จ จะมีสิ่งที่ได้ แน่ๆ คือ การเรียนรู้ 

Loving    ในคำแนะนำ มีทั้ง ให้กำลังใจ หรือ ต่อว่า เสนอหา แนวทาง  เราจะไม่มีอคติ ไม่โกรธกัน แต่จะให้เกียรติกัน  ยอมรับเอาคำแนะนำเหล่านั้นมาใช้    เพราะเราให้ และ รับ สิ่งเหล่านั้น  ด้วยความรัก 

              

Love       Non Stop

               ต้องเริ่มต้นด้วย  รัก     

                        รักกัน 

                        รักกันให้มาก ๆ

                        รักในทุกระดับ   ประเทศ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน สำนักงาน ครอบครัว ตนเอง

               สิ่งที่แสดงออก บ่งบอกว่ารักวัดง่ายๆ ได้ จาก การกระทำ คำพูด

                        ทุกคำพูด ต้องมี Power of Love

                              คำพูดข้อเขียนของเรา ต้อง Inspired ให้บุคคลอื่น อยากทำ อ่านแล้ว ฟังแล้วต้องรีบทำทันที

                                             ด้วยใจมุ่งมัน  จง เชื่อมั่นศรัทธา ซึ่งกันและกัน

             

คุณพ่อ คุณแม่ และ ญาติ พี่น้อง ของผม มอบสิ่งนี้ให้กับผม

ผมจึงส่งมอบให้กับลูก มอบให้กับภรรยา มอบให้กับ เพื่อนร่วมงานของผม

มอบให้ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องการได้รับกลับคืน ผม(นายพันธุ์ทอง )เรียกสิ่งนี้ว่า พลัง รัก

คนรุ่นเก่า มีความอึด มีความอดทน ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ (มีวินัย) มีความสุขในตน สุขกับทีม ในการทำงาน (มีหัวใจ)

 คนรุ่นใหม่ มีเสน่ห์และความโดดเด่น ในตนเอง ชอบ สบาย ๆ   มีแนวทางใหม่ ๆ ให้สำเร็จไว ๆ ( บินเดี่ยว )   

            คนรุ่น กลางเก่า กลางใหม่ สามารถ ใช้พลังรักมีให้แก่กัน ผสมผสาน คน 2 รุ่น ให้ทำงานด้วยกันได้อย่างลงตัว  คนรุ่นใหม่ ขาดประสบการณ์ในการเจรจาต่อรอง  คนรุ่นเก่าจะมีทักษะด้านการสื่อสารด้านนี้ได้ดี

            คนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ เพราะไม่เคยไปต่อรองในตลาดสด เข้าร้านสะดวกซื้อ ราคาตรงไปตรงมาตามป้ายต้องเข้าใจ ซึ่งกันและกัน เป็นต้น  

           ไม่ว่าจะมุมมองของคนรุ่นไหน สื่อ ในการหลอมรวมได้ดีคือ ความรัก รักกัน หากหนักใจมาก  ก็ให้รักในคุณค่า คุณค่าของ คน คุณค่าของ ตน คุณค่าของงาน

            มุมมองเชิงคุณค่า ตัวอย่างง่ายๆ ประสบการณ์ของผม (พันธุ์ทอง) เริ่มจากเรื่องเล้กๆน้อยๆ ทำได้ง่ายๆ เช่นก่อนออกจากห้องน้ำ ต้องระลึกเสมอว่าคนที่เข้ามาใช้ต่อจากเรา เขาพร้อมใช้งานได้ไหม ฝาปิดโถเปียก พื้นเปียก กระดาษหมด

คุณค่า พื้นฐานง่ายๆคือ มุมมองการคิดหรือการกระทำเพื่อคนอื่น

L Team หรือ Loengnoktha Team

ด้านคุณภาพงาน เรา ใช้ 3 P รหัสดี มีคุณภาพ

Purpose             ฝันให้ไกล แล้วไปให้ไกลกว่าฝัน จะมีสนุก(มันส์) และ มีความสุข ในการทำงาน

Process                 ด้วยความเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้ ภายใต้ทางเดินของกลยุทธ์ที่ดี

Performance       ผลลัพธ์ที่เกินกว่าความคาดหมาย จะได้คุณภาพ

               ขับ และ เคลื่อน ได้ด้วย 3 คุณลักษณะของ ทีมงาน Team

1.    ให้เห็นภาพเป้าหมายเดียวกัน (อาจเรียกได้ว่าคือ VISION เดียวกัน)คือ อันดับ ที่ 3 Ranking  

2.    เส้นทางเดินเดียวกัน เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย อาจหลากหลายวิธีการ (อาจเรียก) STRATEGY

3.    บุคลากรพัฒนาศักยภาพตนเอง  เทน้ำเก่า เติมน้ำใหม่ เข้าไปเรื่อย ๆ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

 

การทำงานต้องมีคุณภาพ Quality Q วัดง่าย ๆ ได้จาก Q= 3 S

               Standard       ยอมรับ  ใน มาตรฐาน

               Specific             อยากได้ เพราะตรง กับคุณลักษณะที่ต้องการ

               Satisfied        พึงพอใจเมื่อได้รับ   เติม ed เพราะ เกิดหลังจากได้รับ

 

 

Learning เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 

Learning           ต่างจาก Education  คือ   

Education   มีคนอื่นป้อนความรู้ให้เรา  ส่วน  Learning เราขวนขวายหาความรู้ หรือ ประมวลผลได้เองจากตัวเราเอง

            ทุกๆการกระทำ จะก่อให้เกิดประสบการณ์ ทั้งด้านบวกและด้านลบ

นำประสบการณ์เหล่านั้นแปลงให้เป็นการเรียนรู้ Learning

จากศรัทธา (ความคิด) ไปสู่ผลลัพธ์ มีสิ่งสำคัญ คือ การกระทำ     

ทุกความสำเร็จ เกิดได้จากการกระทำ  Acting   พร้อม หรือไม่พร้อม เดิน หรือเผชิญหน้าด้วย การ ลงมือทำ   หากใส่พลังเต็มที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว จะเกิดผล  ผลมี2สิ่งคือ ดั่งคาดหวัง หรือไม่เป็นดั่งคาดหวัง  หากไม่เป็นดั่งหวัง ก้ไม่ใช่พ่ายแพ้ เพียงแค่เราได้เรียนรู้  ในการเรียนรู้นั้น ยังมีสิ่งที่ได้คือ การพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้น 

 บุคลากรสาธารณสุขเราเป็นเหมือนน้ำ ที่เชื่อมประสานได้ทุกสภาวการณ์

ที่สำคัญน้ำนี้อย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา

ชี้ นำ ขับ และ เคลื่อน ไปสู่เป้าหมาย ภายใต้กลยุทธ์

            การเรียนรู้ที่ดีที่สุด 2 อย่างคือ คือ

 1. ได้รู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง   สิ่งที่เรารู้ เทียบได้กับ หนึ่งเม็ดทราย ในทะเล

ที่เหลือ อื่นๆ ในโลกใบนี้มีสิ่งที่เราไม่รู้อยู่อีกมากมาย แม้แต่เรื่องใกล้ๆตัว ณ ปัจจุบัน เราไม่รู้เลยว่า ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีฝนตกหรือไม่ ไม่รู้เลยว่า เชียงใหม่เขาเผาป่าอยู่ที่ใด เป็นต้น

2   ได้รู้ว่าศักยภาพของเรา สามารถเรียนรู้ได้  เพราะแต่ละวัน มีความรู้ใหม่ เกิดขึ้น หรือ บริบทใหม่ๆ เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

 การเรียนรู้ มาจากฐานคิด ความรู้ เท่ากับ วงเล็บเปิดบุคคล บวกด้วย สารสนเทศวงเล็บปิด ยกกำลัง S  คือ การ Sharing ตามสมการดังนี้

K= (P+I)^S

ตามสมการด้านบน แสดงให้เห็นว่า ตัวสำคัญที่จะก่อให้เกิดความรู้ คือ การ Sharing หรือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ให้ เลิงนกทาเราเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organizational :LO)  สร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก  โดยเอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างเป็นฐานความรู้ที่เข้มแข็ง(Core competence) ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา 

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ 5 ให้  5 ให้  เป็นวลีที่ พวกเราทุกคนต้องร่วมกัน เปล่งวาจาในวันนี้

บรรยากาศ การร้องเพลง กราวกีฬา

การทำงานเป็นทีม บุคลากรเรา ต้อง Balance 3 ประการ ให้เหมาะสม

1.     การวางตนในสังคม     

2.     การงาน

3.     ครอบครัว

ในอดีตที่ผ่านมาการพัฒนาคน Focus ไปที่ IQ  สิบปีที่ผ่านมา มี การพัฒนา EQ  ควบคู่ไปกับ IQ

อำเภอเลิงนกทาเรา จะต้อง มี อีก Q หนึ่ง คือ Love Q  ขับเคลื่อนด้วยพลังรัก

การเข้าใจ ห่วงใยผู้อื่น คือ คุณสมบัติ สำคัญ ที่ หุ่นยนต์ หรือ เทคโนโลยีไม่มี

นอกจากนั้น AI ในปัจจุบันจะ มีศักยภาพ ในการจดจำ หรือประมวลผล ที่เที่ยบเท่า หรือ เหนือกว่ามนุษย์แล้ว

เพราะ AI ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความเหน็ดเหนื่อย 

 การทำงานเหมือนการกีฬา วัตถุประสงค์หลักของกีฬาไม่ใช่ชัยชนะ แต่เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง   

คำว่าการกีฬา ผู้เล่น ต้องมีน้ำใจ ของนักกีฬา

น้ำใจของนักกีฬา คือ รู้แพ้ รู้ชนะ รุ้อภัย

ชีวิตการทำงานเป็นทีมก็เช่นกัน ในทีมจะไม่มีคำว่าชนะ เพราะหากมีคำว่าชนะ จะต้องมีผู้แพ้ ฉะนั้นต้องมีวัตถุประสงค์หลัก ของการทำงานร่วมกัน นั่นคือ เป้าหมายร่วมกัน ครับ

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ 5 ให้  5 ให้  เป็นวลีที่ พวกเราทุกคนต้องร่วมกัน เปล่งวาจาในวันนี้

ห้าให้ 5 ให้ ประกอบด้วย ให้ความรัก  ให้ความหวัง  ให้กำลังใจ  ให้ความเข้าใจ  ให้อภัย

มองเข้าไปในดวงตาของกันและกัน นอกจากความสวยงามของประกายตาแล้ว ยังสามารถมองเห็นวันนี้ วันพรุ่งนี้ และอนาคตที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน

พลังของความรักไม่ใช่ความอดทนของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในทีม แต่เป็นความเข้าใจของทุกคนในทีม จงอย่าใช้เหตุผลในการทำงานเป็นทีม

จงให้ความเข้าใจในบทบาทของกันและกัน เข้าใจกันและกัน ลองสมมุติว่าเราเป็นเขา เขาเป็นเรา เอาใจเขามาใส่ใจเรา หาจุดดีของแต่ละคนให้ได้ คำว่าจับผิดไม่ต้องไปเสียเวลา เพราะหากใช้เวลาเพียงหาจุดอ่อน จะบั่นทอนกำลังใจ จงให้กำลังใจกัน ค้นหาจุดดี เพิ่มเติม เสริมจุดแข็งของแต่ละคน แล้วนำจุดดีเหล่านั้นมา นำมารรวมกัน มาเรียนรู้ร่วมกัน จะเกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ ผม( พันธุ์ทอง) เรียกว่า จับถูก หากรวมกันเต็มที่แล้ว วันเวลาผ่านไปหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นมา สิ่งที่ควรมีให้แก่กันคือ การให้อภัยกันนะ ครับ

 

ประสบการณ์ของผม (พันธุ์ทอง ) ในฐานะคนทำงาน ทั้งในสถานีอนามัย หัวหน้างาน หรือ  ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ มีงานหรือภารกิจที่ได้รับมอบหมายมากมาย  ทำทุกอย่างไปทั้งหมด

ผลคือ ในแต่ละวันได้พบว่า ความวิตก กังวล ของคนทำงานไม่ได้มาจากทำงานไม่สำเร็จ

          ส่วนใหญ่จะมาจากการที่ทำอะไร ไม่เสร็จสักอย่าง

ข้อค้นพบ จงสร้างความสุขระหว่างทางจากการทำงาน ด้วยการมี small success เป็นกำลังผลักสำคัญไปสู่เป้าหมาย

ปีนไปยอดเขา อาจทำให้ท้อ ขอให้มอง ไปทีละเนินเขา แล้วก็จะถึงเอง

วิ่งเป้าหมายปีละ 3,000 กิโลเมตร อาจมากเกินไป ฉะนั้น แบ่งเป็น วันละ 10 กิโลเมตร มีความเป็นไปได้

มอง Long term  แต่ Focus ในระยะ สั้นๆ  จะทำให้มีความสุข

เช่น เป้าหมาย ให้ลูกจบการศึกษาได้ทำงานมีความมั่นคง ตามเส้นทางที่เขาเลือก

อาจจะยาวไป ฉะนั้น ซอยย่อย ให้เป็น Short term  เป็นสัปดาห์ ๆ หรือ เป็นเดือน ๆ หรือ เป็น ปี ๆ ไป จะทำให้มีความสุข

           การทำงานเป็นทีม ความสำคัญคือ การระดมความร่วมมือจากคนหมู่มาก มาทำงานกันแบบยืนหยัดในเป้าหมาย แต่ยืดหยุ่นในวิธีการ

          ในถาดลูกปืน หากตัวเราเปรียบเป็นวงกลม หรือก้อนลูกปืน อย่าได้ไปคาดหวังว่า จะมีใครมาเติมเต็ม ส่วนที่เว้า แหว่ง ของวงกลมที่หายไป จงยอมรับตนเอง ยอมรับทั้งสิ่งที่รู้ สิ่งที่ไม่รู้ ให้กำลังใจและเต็มเต็มให้ตนเอง แล้วจะสามารถกลิ้ง หรือ เดินเคียงคู่ไปกับผู้อื่นได้อย่างลื่นไหล 

อยู่ซื่อซื่อ คือแข่วทางเทิง 

ข้อคิดจากคุณพ่อของผม (พ่อถวิล)  ความว่า 

จงทำงานอย่างทุ่มเท ให้ความสำเร็จของงานเป็นการส่งเสียงแทนคุณ

ให้ทำในสิ่งที่ควรทำ ให้สำเร็จ    Get the right thing

สิ่งที่พูด สิ่งที่ทำ ในวันนี้ จะกลายเป็นอดีต คำว่าอดดีต ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

อนาคต 10 เราโตขึ้น ลองกลับมาอ่านอีกที คำเหล่านี้ จะยังใช้ได้หรือไม่

หากสิ่งนั้นใช้ได้ ในอีก 10 ปี สร้างเอาไว้ได้เลย

ให้ร้ายคนอื่น ใคร ๆ ก็ทำได้  ไม่ทำร้ายใคร คุณทำได้ไหม 

การคิด การพูด ให้ร้ายคนอื่น ใคร ๆ ก็ทำได้ เพราะทำได้ง่าย หากคุณมีจิตใจที่สูงขึ้นอีกนิด(เป็นผู้มีการศึกษาอ่านอกเขียนได้)  ต้องรู้ผิด ชอบ ชั่วดี ไม่ต้องทำอะไร เพียงอยู่เฉยๆ ไม่ทำร้ายใคร ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่คนดีเบื้องต้น หากเป็นผู้มีการศึกษาสูงขึ้น ต้องรู้จักการทำอะไรบ้าง เพื่อให้ ให้เกิดประโยชน์ที่สูงขึ้นทั้ง กับ ชุมชน กับสังคม กับประเทศชาติ กับมนุษยชาติ ตามลำดับความสามารถ ต่อไป 

คำบ่น ก่นด่า คำต่อว่า คำหยาบ คำคาย หากมั่นใจว่าใช้ได้

               ก่อนใช้ ให้หายใจเข้าออก 10 ครั้ง ระลึก พลิกกลับนิดหนึ่งว่าหากมีแนวทางให้เราเปลี่ยนคำพูดเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

ส่งคำเหล่าก่นด่าเหล่านั้น ให้ใครก็ได้ที่เราไม่รู้จัก สัก 2-3 คน พูดให้เราต่อหน้าหรือชี้หน้าเราต่อหน้าคนอื่น ด้วยคำพูดที่เราจะพูดให้คนอื่นนี่หละ

หาก มั่นใจว่าเรา รับได้ จงพูด จงสื่อออกไป หากมมั่นใจ ว่า คำนี้ อีก 10 ปี มีคนพูดให้เราในคำพูดที่เราคิดนี้แม้แต่เราก็อาจรับไม่ได้ ให้  อยู่ซื่อซื่อ คือแข่วทางเทิง ทางล่างสิขึ้นมาเองหรอก  หรือ จงนิ่งเสีย

    แปลเป็นไทยว่า จงเป็นสมาชิกครอบครัวที่ดี หากร่วมคิดไม่ได้ ให้ร่วมทำ หากร่วมทำไม่ได้ ให้กำลังใจ ให้กำลังใจไม่ได้ ให้สนับสนุนอื่นๆ สนับสนุนอื่นใดไม่ได้ จงนิ่งเสีย คนอื่นๆเขาจะร่วมกันทำต่อไป ได้อย่างปกติสุข  อย่าไปขัดทำสิ่งใดที่ขัดขวาง  

               ส่วนจุดอ่อน มีเพียงเล็กน้อย คือ มีบางคน สบาย ๆ ไม่อยากออกจาก Comfort Zone

สิ่งง่าย ๆ ที่จะทำให้ คนออกจากความกลัว ได้ คือ Small Success ความสุขระหว่างทาง

ความสุข 2 ประการ คือ 1. สุขจากประสบการณ์ 2. สุข จากความทรงจำ

ทุกสัปดาห์ต่อจากนี้ไป L Team หรือ Loengnoktha Team เราจะร่วมกัน เก็บเกี่ยวความสุข  ทั้ง 2 ประการนี้ร่วมกัน ตลอดเส้นทาง