9 พ.ค.64 วัคซีน มีประสิทธิภาพ 98-99 % ทุกชนิด มีโอกาส รีบไปฉีดนะครับ_ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ให้ข้อมูล
วันที่ 9
พฤษภาคม 2564 นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา
ขอบคุณ ผู้ทำ กราฟิค ประกอบการอธิบาย
ความสำคัญของ วัคซีน ในสถานการณ์นี้
เข้าใจง่าย
เปรียบเทียบได้ดี (รายละเอียดตามภาพ)
วัคซีนที่ฉีดในประเทศไทย กระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานได้ดี ทั้งวัคซีนซิโนแวค
และ แอสตร้าเซนเนก้า
ข้อมูลประอบทางวิชาการ วันที่ 9 พ.ค. 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ
หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผย
ผลการศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า
ในประเทศไทย
พบว่า เมื่อฉีดวัคซีน ซิโนแวค ครบ 2 เข็ม แล้วเป็นระยะเวลา 1
เดือน กับการตรวจภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม เป็นเวลา 1
เดือน เปรียบเทียบกับการตรวจภูมิต้านทานในผู้ที่หายจากการติดเชื้อโรคโควิด-19
ในช่วงระยะเวลา 4 ถึง 8 สัปดาห์ หลังจากที่มีการติดเชื้อ
จะเห็นว่า ระดับภูมิต้านทานของวัคซีน ซิโนแวค
เมื่อฉีดครบแล้ว 2 ครั้ง มีค่าระดับภูมิต้านทานเฉลี่ย 85.9 unit/ml ส่วนภูมิต้านทานหลังฉีด
แอสตร้าเซนเนก้า เข็มเดียว มีค่าเฉลี่ย 47.5
unit/ml เมื่อเทียบกับภูมิต้านทานหลังติดเชื้อ 60.9 unit/ml และยังแสดงให้เห็นว่า
ผู้ที่ฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ จะตรวจพบภูมิต้านทานได้ 98-99 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ผู้ติดเชื้อ ตรวจพบ ภูมิต้านทานได้ร้อยละ 92.4
จากข้อมูลนี้ ไม่ได้บอกประสิทธิภาพในการป้องกันโรค
ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่รู้แน่ว่าถึงแม้ว่าจะเป็นโรคแล้ว
ระดับภูมิต้านทานก็ยังแตกต่างกันมาก และบางคนก็ตรวจไม่พบ แสดงให้เห็นว่า
โรคนี้มีโอกาสเป็นแล้วเป็นอีกได้ ทำนองเดียวกันการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน
ยังไม่ทราบว่า จะต้องใช้ระดับภูมิต้านทานเท่าใด จึงจะสามารถป้องกันการติดเชื้อ
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือถ้าเรามีภูมิต้านทาน ก็จะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้
การศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนโดยทั่วไป
จะทำการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ให้วัคซีนกับกลุ่มที่ให้วัคซีนหลอก หรือ
ไม่ได้ให้วัคซีน แล้วติดตามไปดูว่า กลุ่มไหนจะมีการเกิดโรคโควิด-19
มากน้อยแค่ไหนแล้ว จึงนำมาเปรียบเทียบเป็นประสิทธิภาพที่ออกมาเป็นรูปเปอร์เซ็นต์
ระดับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นนี้ก็แสดงให้เห็นว่า
วัคซีนทั้งสองชนิดที่ฉีดในประเทศไทย กระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานได้ดีในประชากรไทย
ทั้งวัคซีนซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า
ส่วนระดับภูมิต้านทานจะอยู่ไปได้นานแค่ไหน
ขณะนี้กำลังติดตามระยะยาว โดยเฉพาะถ้าภูมิต้านทานลดลงมาก ก็อาจจะต้องมีการกระตุ้นด้วยวัคซีนให้ภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นได้สูงอยู่ตลอดเวลา
เพราะโรคโควิด-19 มีระยะฟักตัวสั้น
จึงต้องอาศัยภูมิต้านทานที่สูงอยู่ตลอดรายการป้องกันการติดเชื้อ
ที่มา:
https://web.facebook.com/yong.poovorawan
No comments:
Post a Comment