วัน ที่ 01 สิงหาคม 2551 เวลา 09.09 น. ไปพร้อมกับ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว เพื่อร่วมงาน ในพิธีมอบหนังสือ ในโครงการ 60 ปี สิงห์ดำ ปันน้ำใจ ครั้งที่ 1 ที่ โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ ประธานในพิธีโดย นาย วินธัย ประไพพิศ ปลัดจังหวัดยโสธร หัวหน้าคณะ จาก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศาสตราจารย์ อร่าม ศิริพันธุ์รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา นำนักศึกษา ทั้ง 4 ภาควิชามาร่วมงาน ประกอบด้วย ภาควิชาการปกครอง ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์
โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว มี ภก.กาญจนพงศ์ เพ็ญทองดี หัวห้ากลุ่มงานเภสัชกรรม นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง และคณะไปร่วมต้อนรับในงานนี้ด้วย
โรงเรียน มัธยม ทั้ง 5 แห่ง ใน เขต อำเภอคำเขื่อนแก้ว มารับหนังสือในงานนี้ด้วย มี ผอ. ชวดล เพ็ญชรี โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ ผอ. อุดร วิรุฬบุตร โรงเรียนโพนทันเจริญวิทย์ รอง ผอ. เชิดชัย สิงคิบุตร โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร และ ผอ. สำเร็จ ไชยช่วย จาก โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 ซึ่งนำนักเรียน ม 6 มาร่วมต้อนรับและรับฟัง
สิงที่ได้มากกว่าหนังสือ ในโครงการ 60 ปี สิงห์ดำ ปันน้ำใจ ครั้งที่ 1 ครั้งนี้ ผมคิดว่า เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้พูดคุย กับนักศึกษารุ่นพี่ ที่เขาสอบเข้าไปเรียนได้ ที่เสียสละเวลา มาให้ความรู้กับ น้องๆ ถึงต่างจังหวัด ถือว่าเป็นจิตอาสาที่ดีอย่างยิ่ง ของ น้อง นักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนขอคิดที่ได้ จากงานวันนี้ ต้องขอชื่นชม ท่าน วินธัย ประไพพิศ ปลัดจังหวัดยโสธร ที่ได้ให้ความรู้และข้อคิดที่เป็นประโยชน์ แก่น้องๆ ทุกคน ท่าน วินธัย ประไพพิศ
เป็นศิษย์เก่า คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 22 มีบทหนึ่งที่ผมปะทับใจคือ การเรียนสายสามัญ เพื่อจะเป็นแพทย์ เป็นวิศวกร นั้น รวยแน่นอน ส่วนการเรียนในสายสังคม เพื่อจะเป็นนักปกครองนั้น ไม่รวย แต่สิ่งที่ได้มากกว่าวามรวย เมื่อเรายอมเสียสละเงินอกไป แพทย์ ช่วยชีวิต รักษาคน วันหนึ่งได้ ประมาณ 100 คน ถือว่าเก่งมาๆ ดีกว่าแพทย์ มาอีก รักษาความทุกข์ ของประชานได้ ทั้งตำบล คือ นักสาธารณสุข และ หากท่านเป็นนักปกครองที่ดี ท่านจะช่วยให้คนทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด มีความสุข บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนวันละ หลายหมื่น หลายแสนคน นี่คือ ข้อเด่นของ การเรียนสายสังคม
โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว มี ภก.กาญจนพงศ์ เพ็ญทองดี หัวห้ากลุ่มงานเภสัชกรรม นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง และคณะไปร่วมต้อนรับในงานนี้ด้วย
โรงเรียน มัธยม ทั้ง 5 แห่ง ใน เขต อำเภอคำเขื่อนแก้ว มารับหนังสือในงานนี้ด้วย มี ผอ. ชวดล เพ็ญชรี โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ ผอ. อุดร วิรุฬบุตร โรงเรียนโพนทันเจริญวิทย์ รอง ผอ. เชิดชัย สิงคิบุตร โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร และ ผอ. สำเร็จ ไชยช่วย จาก โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 ซึ่งนำนักเรียน ม 6 มาร่วมต้อนรับและรับฟัง
สิงที่ได้มากกว่าหนังสือ ในโครงการ 60 ปี สิงห์ดำ ปันน้ำใจ ครั้งที่ 1 ครั้งนี้ ผมคิดว่า เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้พูดคุย กับนักศึกษารุ่นพี่ ที่เขาสอบเข้าไปเรียนได้ ที่เสียสละเวลา มาให้ความรู้กับ น้องๆ ถึงต่างจังหวัด ถือว่าเป็นจิตอาสาที่ดีอย่างยิ่ง ของ น้อง นักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนขอคิดที่ได้ จากงานวันนี้ ต้องขอชื่นชม ท่าน วินธัย ประไพพิศ ปลัดจังหวัดยโสธร ที่ได้ให้ความรู้และข้อคิดที่เป็นประโยชน์ แก่น้องๆ ทุกคน ท่าน วินธัย ประไพพิศ
เป็นศิษย์เก่า คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 22 มีบทหนึ่งที่ผมปะทับใจคือ การเรียนสายสามัญ เพื่อจะเป็นแพทย์ เป็นวิศวกร นั้น รวยแน่นอน ส่วนการเรียนในสายสังคม เพื่อจะเป็นนักปกครองนั้น ไม่รวย แต่สิ่งที่ได้มากกว่าวามรวย เมื่อเรายอมเสียสละเงินอกไป แพทย์ ช่วยชีวิต รักษาคน วันหนึ่งได้ ประมาณ 100 คน ถือว่าเก่งมาๆ ดีกว่าแพทย์ มาอีก รักษาความทุกข์ ของประชานได้ ทั้งตำบล คือ นักสาธารณสุข และ หากท่านเป็นนักปกครองที่ดี ท่านจะช่วยให้คนทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด มีความสุข บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนวันละ หลายหมื่น หลายแสนคน นี่คือ ข้อเด่นของ การเรียนสายสังคม
No comments:
Post a Comment