12มิย.2559หาสติ ให้พบ
เมื่อ ปิ๊ง แล้ว สติเกิด
ข้อคิดดีๆ
จาก พระพรหม บัณฑิต
มีปัญหา
ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ( นกมองไม่เห็นฟ้า
ปลามองไม่เห็นน้ำ ไส้เดือน มองไม่เห็นดิน)
เล่าปี่ มีกำลังพล 5,000 ระหกระเหิน ออกนอกเมือง ถูกโจโฉ นำพล 800,000
ไล่ล่า
เมื่อเล่าปี่ได้พบกับสุมาเต็กโช ในกระท่อม
สุมาเต็กโชแกล้งแหย่ถามเล่าปี่ว่า ท่านก็ทรงคุณธรรม เหตุใดถึงยังตั้งตัวไม่ได้
เล่าปี่ตอบว่า เพราะไม่มีเมืองอาศัยเป็นของตนเอง สุมาเต็กโชจึงว่า
ที่ท่านยังไม่มีเมือง ไม่อาจตั้งตนได้
เห็นเป็นเพราะยังไม่มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำมากกว่า เล่าปี่ตอบว่า ก็ข้าพเจ้ามีซุนเขียนและบิต๊กอยู่แล้ว แต่สุมาเต็กโชแย้งว่า
ซุนเขียนและบิต๊กเป็นเพียงบัณฑิตผู้รู้หนังสือธรรมดา ๆ ยังไม่อาจเป็นปราชญ์ผู้พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้
เล่าปี่จึงสำนึกขึ้นได้และถามสุมาเต็กโชว่า แล้วจะหาปราชญ์ที่ปรึกษาได้ที่ใด
สุมาเต็กโชตอบว่า ในแผ่นดินขณะนี้มีเพียงปราชญ์ 2 คนเท่านั้นที่จะช่วยท่านพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้
เมื่อเล่าปี่ถามว่าใคร สุมาเต็กโชหัวเราะไม่ตอบ แต่เทน้ำจากกาเขียนตัวอักษรลงบนโต๊ะ
คำว่า "ฮงหลง" กับ "ฮองซู" พอให้เล่าปี่เห็น แล้วลบออก
เล่าปีมีคนมาชี้ คือ สุมาเต๊กโช
“ท่านควรหา คนเก่ง มาช่วยงานในกองทัพ
ของท่าน”
เล่าปี่ “กำลังพล 5,000 ของข้า ล้วนมีแต่คนเก่ง ทั้ง กวนอู
เตียวหุย จูล่ง เป็นต้น”
ถ้าท่าน มีคนเก่ง พอแล้ว ทำไม ท่านจึงรบแพ้
เกือบทุกๆครั้ง จนระหกระเหิน ออกนอกเมือง
“ ฉะนั้น ท่านจงไปหาคนที่เก่ง มาเป็น
ผู้จัดการ คนเก่ง ที่ท่านมี ซึ่งคนเก่ง
ที่ข้านึกถึง มี 2 คน
ไม่ "ฮงหลง" ก็ "ฮองซู" ซึ่ง ฮงหลง คือ ขงเบ้ง ฮองซูก็ คือ บังทอง
หรือ ทำตัว เหมือน ช้างตกหล่ม
กลวิธีช้างตกหล่ม
เมื่อตกหล่ม ช้าง จะใช้ววงกอดต้นไม้ไว้ อยู่นิ่งๆ ก่อน ตั้งสสติ แล้ว
พยายามขึ้น
หากขึ้นไม่ได้ ก็จะร็องดังๆ ขอความช่วยเหลือ จากเพื่อน
จาก ควานช้าง เป็นต้น
รอให้คนอื่นมาเตือน
ก็ สู้ให้ตนเตือนตนเองไม่ได้ ยอมรับ ความผิดพลาดของเองบ้าง
โง่ไม่เป็น เป็นใหญ่ยาก ทางขีวิต
หลักการ
การแก้สถานการณ์ มี เพียง 2 ประการ คือ
1.
ใจตก
ให้ยกใจ
2.
ใจลอยลม
ให้ข่มใจ
ใจตก
ให้ยกใจ
พระเจ้าจันทรคุปต์ ปู่ของพระเจ้า อโศกมหาราช ใจตก รบแพ้
หนีข้าศึก ไปนอนชายป่า
ได้ยินชาวนาผู้เป็น
แม่ ตี และด่า ลูก เอ็งมัน โง่ โง่เหมือนนพระเจ้าจันทรคุปต์
เอ็งไปกินขนมเบื้อง ตรงกลาง
มันก็ร้อนสิ
เอ็ง ต้อง กินขอบก่อนสิ แล้ว
ค่ยกินตรงกลาง
พระเจ้าอาเธอร์
รบแพ้ หนีข้าศึก ไปนอนในถ้ำ เห็นแมงมุม ตกลงมา 6 ครั้ง
นอนมองดู
ไปเรื่อยๆ แต่ครั้งที่ 7 สามารถชักใยได้
พระเจ้าอาเธอร์
ได้คิด เราแพ้ 6 คครั้ง แต่ ครั้งที่ 7 เราต้องไม่แพ้
มีกำลังใจฮึกเหิม ออกไปรบ
ชนะ ยึดเมืองได้ เลย
ใจลอยลม
ให้ข่มใจ
ตัวอย่าง ไก่โต้ง ตี ชนะ ทั้ง ฝูง แล้ว
ตีปีก ขัน ก้องสนั่น ลั่นทุ่ง
ยังไม่พอ
ขยับ ไปขัน บนตอไม้สูง แสดงศักยภาพ สักครู่ โดนเหยี่ยว โฉบไปกินเลย
และ อิคะเริส ปีก ขี้ผึ้งละลาย ตกลงมา ตาย ต้นแบบการบิน
อิคะเริส หรือ ไอคะเริส (Icarus,
Íkaros) อิคะเริสเป็นบุตรชายของเดลาลัส (Daedalus) 2 พ่อลูกคู่นี้ถูกจองจำไว้ในหอคอยบนเกาะครีต สถานที่เดียวกับมิโนทอร์ โดยกษัตริย์ไมนอส ทั้งคู่มองจากหน้าต่างออกไปเห็นทะเลสีฟ้าครามและฝูงนกนางนวลที่บินอย่างอิสระเป็นเวลานานทุกวัน
จึงโหยหาอิสรภาพและต้องการออกไปจากที่คุมขังนี้
วันหนึ่ง
อิคะเริสสามารถฆ่านกนางนวลตัวหนึ่งได้ และนำมาให้เดลาลัสดู
เดลาลัสจึงเกิดความคิดที่จะหนีได้ โดยการถอนขนปีกนกออกและเย็บขึ้นมาใหม่ด้วยขี้ผึ้ง แล้วติดเข้าที่แขนของตน
จากนั้นจึงได้ลองกระพือปีกและพบว่า มันสามารถทำให้ร่างของตนบินได้
อิคะเริสจึงเรียกร้องให้เดลารัสบิดาตนสร้างปีกแบบนี้ขึ้นมาใหม่อีกคู่ เดลารัสได้ย้ำเตือนอิคะเริสว่า
ปีกใหม่นี้ไม่สามารถบินได้สูง เมื่อสร้างเสร็จแล้ว อิคะเริสดีใจจนลืมตัว
ใช้ปีกขี้ผึ้งคู่นี้บินสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ อพอลโล สุริยเทพซึ่งเฝ้ามองอยู่
เห็นมนุษย์อย่างอิคะเริสบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบถึงดวงอาทิตย์ อพอลโลพิโรธด้วยเห็นว่า เป็นการกระทำของมนุษย์ที่ท้าทายต่อเทพเจ้า
จึงเร่งแสงของดวงอาทิตย์ให้ร้อนขึ้น ๆ จนกระทั่งปีกขี้ผึ้งของอิคะเริสละลาย
และอิคะเริสก็ตกลงมาจมน้ำตาย
No comments:
Post a Comment