15ธค.2559ประกาศอำเภอปลอดบุหรี่ อ.คำเขื่อนแก้ว ลง MOU ขับเคลื่อนร่วมกัน
วันที่ 15 ธันวาคม 2559 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง และ คณะ ผู้รับผิดชอบงาน ยาเสพติด บุหรี่ สุรา
จาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ทุกแห่ง และคณะ เตรียมความพร้อม
และอำนวยความสะดวก การจัดประชุมการประกาศวาระอำเภอคำเขื่อนแก้วปลอดบุหรี่ และลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินงานอำเภอปลอดบุหรี่
ณ ห้องประชุม ๑๐๐ ปี อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
โดยมี นายสมศักดิ์ บุญทำนุก นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นประธานการประกาศวาระอำเภอคำเขื่อนแก้วปลอดบุหรี่ และ การมอบ
นโยบายการปฏิบัติงาน
กิจกรรม การลงนาม บันทึกข้อตกลงการดำเนินงานอำเภอปลอดบุหรี่ จำนวน 13 ตำบล
ผู้รับข้อตกลง
และ สักขีพยาน ประกอบด้วย
นายสมศักดิ์
บุญทำนุก นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว
พ.ต.อ.ณรงค์
สายโน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว
นายชำนาญ
มาลัย สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
นางประชุมพร กวีกรณ์
หัวหน้ากลุ่มงานยาเสพติดโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร
ผู้ลงนาม ในนาม
คณะกรรมการระบบสุขภาพระดับตำบล ดังนี้
นายกเทศมนตรีตำบล
/ นายก อบต.
กำนัน
ทุกตำบล
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกคน / หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว
ปลัดเทศบาล
/ ปลัด อบต.
ผู้อำนวยการโรงเรียน
อปท. ละ ๑ คน
ผู้ร่วมงาน
ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการระบบสุขภาพระดับตำบล ทุกตำบล
จำนวน
150 คน
คำกล่าวรายงาน
กระผม นายชำนาญ มาลัย ในนาม กลไกลสุขภาพ อำเภอคำเขื่อนแก้ว
ขอนำเรียนความเป็นมาการจัดงานในวันนี้
พอสังเขป ดังนี้
การบริโภคยาสูบส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคยาสูบและผู้ที่ได้รับสัมผัส
ควันบุหรี่ส่งผลต่อผู้ที่สูบและผู้ที่สัมผัส ทำให้เกิดอาการป่วยเป็นโรคและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
องค์การอนามัยโลกได้ตั้งเป้าหมายในการลดการสูบบุหรี่ในปี 2568 ให้ลดลง
ร้อยละ 30
สถานการณ์ระดับประเทศ
ในปี 2558 พบว่าประชากร 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ 11.7 ล้านคน
และจากการศึกษาภาระทางเศรษฐกิจจากโรคที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องจากการสูบบุหรี่ใน
พบว่า มีคนตาย
จากโรคจากการสูบบุหรี่ในกลุ่มคนอายุ 30
ปีขึ้นไป 50,710 คน หรือ ร้อยละ 12
ของการตายทั้งหมด
ซึ่งโรคปอดอุดกลั้นเรื้อรัง เป็นสาเหตุการตายหลัก
ของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ รองลงมาคือ
โรคมะเร็งปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด
และโรคมะเร็งอื่นๆ และจากการประมาณการ
โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ พบว่าสิ้นค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ทางเศรษฐศาสตร์เท่ากับ ห้าหมื่นสองพันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.5 ของ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ สูญเสียทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 13 ของค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพทั้งหมด และคิดเป็น ร้อยละ 73 ของงบประมาณทางด้านสาธารณสุข
ในภาพรวมของประเทศ
กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข
แห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่
เกิดการตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่ โดยตั้งเป้าหมายชักชวน ท้าชวน
ให้มีผู้เลิกสูบบุหรี่ อย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า
6 เดือน หรือตลอดชีวิต ให้ได้ 3 ล้านคน ในเวลา 3 ปี
จาก ปีพ.ศ. 2559 ถึงปี 2561 จังหวัด ยโสธร
ตั้งเป้าหมาย ปีละ 10,000 คน และอำเภอคำเขื่อนแก้ว
ตั้งเป้าหมาย ชักชวน ท้าชวน ให้มีผู้เลิกสูบบุหรี่ปีละ
1,000 คน โดยอาศัยความเข้มแข็งของเครือข่าย กลไกสุขภาพระดับอำเภอ ระดับตำบล และ หมู่บ้าน
ในทุกพื้นที่ จะส่งผลให้สามารถลดอัตรา
การเจ็บป่วยและการสูญเสียทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
ได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน ต่อไป
ทั้งนี้
กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
หรือ สสส. ได้จัดทำ โครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย
เทิดไท้องค์ราชัน” ถวายเป็น
พระราชกุศล แด่
" พระบาทสมเด็จ พระปรมินทร มหาภูมิพล อดุลยเดช " เพื่อให้ เห็นความสำคัญ
ของพิษจากการสูบบุหรี่
นำไปสู่การเลิกสูบบุหรี่และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ดี อย่างต่อเนื่อง
จากระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอและจังหวัด
เพื่อให้เป็นพื้นที่รวมตัวกันทำกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ (เลิกเหล้า) เลิกบุหรี่ ทั่วประเทศไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต่อไป
บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว
กระผมขอเรียนเชิญ ท่านประธาน กล่าว ให้กำลังใจผู้ร่วมงาน
ประกาศวาระอำเภอคำเขื่อนแก้วปลอดบุหรี่
ลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินงาน
อำเภอปลอดบุหรี่ และ บันทึกภาพร่วมกับผู้ร่วมงาน ตามความเหมาะสม ต่อไป ... ขอเรียนเชิญครับ
คำกล่าวเปิด การประกาศวาระอำเภอคำเขื่อนแก้วปลอดบุหรี่
และลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินงานอำเภอปลอดบุหรี่
วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ ห้องประชุม
๑๐๐ ปี อำเภอคำเขื่อนแก้ว
ท่าน สาธารณสุขอำเภอ
หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการระดับตำบล
ผู้แทนท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร
และ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน
กระผมมีความรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พวกเรา
ได้มาร่วม
กิจกรรมที่ดีร่วมกัน ในวันนี้ จากคำกล่าวรายงาน
พบว่า มีคนตายจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่
และมีค่าใช้จ่ายที่สูญเสีย ถึงปีละ
ห้าหมื่นสองพันล้านบาท นั้น เป็นการสูญเสียที่มากมาย
การที่พวกเรา
ในที่นี้ทุกคน จะได้ช่วยกัน ขับเคลื่อนให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน
เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่ ตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่
ให้ได้จำนวน 3 ล้านคน ในระยะเวลา 3 ปี ทั้งประเทศนั้น
ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่
ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะ ปีละ 1,000 คน ในเขต
อำเภอคำเขื่อนแก้ว
ของเรา หากพวกเราร่วมมือกันและให้กำลังใจกันอย่างจริงจัง
ในทุกพื้นที่
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ตาม โครงการ “3 ล้าน 3 ปี
เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร
ได้ประกาศวาระจังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดปลอดบุหรี่
เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ และในวันนี้ อำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้ประกาศวาระอำเภอคำเขื่อนแก้วอำเภอปลอดบุหรี่
จึงนับเป็นโอกาสอันดี ที่นอกจาก จะเป็นการ
สร้างเสริมสุขภาพ และลดความสูญเสีย
จากพิษภัยบุหรี่ ของคนในชาติแล้ว
ยังนับเป็น การร่วมกันทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล แด่
" พระบาทสมเด็จ พระปรมินทร มหาภูมิพล
อดุลยเดช " อีกด้วย
ขอขอบคุณ
กลไกสุขภาพคำเขื่อนแก้วทุกภาคส่วน ทั้งระดับ หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมร่วมกันที่ดี
ในวันนี้ และจะต้องนำไปขับเคลื่อนต่อเนื่อง
จากระดับหมู่บ้าน ตำบล
เพื่อให้เป็นพื้นที่รวมตัวกัน ทำกิจกรรม ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ได้ต่อไป
ณ วันนี้ ระบบการลงทะเบียน ผู้ประสงค์จะเลิกสูบบุหรี่ จังหวัดยโสธร
ทั้งหมด 1,029 คน
มีคน อำเภอคำเขื่อนแก้ว
แสดงความจำนงมากที่สุดถึง 315
คน เป็นที่ 1 ของจังหวัด ฉะนั้น เป้าหมาย
ในเขต อำเภอคำเขื่อนแก้ว ปีนี้ 1,000 คน
คงจะสำเร็จได้ ต่อไป ขอเป็นกำลังใจ คณะเราทุกๆคน
ในทุกพื้นที่
ขอให้กิจกรรม การประกาศวาระอำเภอคำเขื่อนแก้วปลอดบุหรี่ และลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินงานอำเภอปลอดบุหรี่
เพื่อสนับสนุนโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ ทุกประการ
No comments:
Post a Comment