5/22/16

17พค.2559ช่วยผู้ประสบภัย_พายุฤดูร้อนถล่ม_คำเขื่อนแก้ว@ยโสธร

17พค.2559ช่วยผู้ประสบภัย_พายุฤดูร้อนถล่ม_คำเขื่อนแก้ว@ยโสธร
วันที่ 17 พฤษภาคม 2559 วันนี้ มี  เหตุการณ์สำคัญ คือ ภาพและข่าว การที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว และ คณะ ได้ ออกให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบวาตภัย
จากเหตุการณ์ พายุฤดูร้อนถล่ม_คำเขื่อนแก้ว@ยโสธร
            พายุลมฝนฟ้าคะนอง ถล่มเทศบาลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว ส่งผลกระทบให้ ฉางเก็บข้าวเปือก โรงสีเอกชน บ้านเรือน พังเสียหาย ร่วมครึ่งร้อยหลัง  ” นายประมวล เจนร่วมจิต กำนันตำบลลุมพุก รายงานสถานการณ์ ใน Line กลุ่ม ชื่อ คนคำเขื่อนแก้ว

            ตัวอย่าง รายงาน ที่ นายชำนาญ มาลัย สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว รายงาน นพ.วันชัย เหล่าเสถียรกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร  สรุปผลการดำเนินงานศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤติอำเภอคำเขื่อนแก้ว วันที่ 16-17 พฤษภาคม 2559 ความว่า
            จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ม.1 และ ม.2 ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559 เวลา 15.30 น. นั้น จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งสิ้นจำนวน 107 หลังคาเรือน  และโกดังเก็บข้าวจำนวน 1 หลังแบ่งเป็นความเสียหายรุนแรงจำนวน 17 หลัง ความเสียหายปานกลาง 36 หลัง ความเสียหายเล็กน้อยจำนวน 55 หลัง มีหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร  เหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร ป้องกันภัยจังหวัดยโสธร ป้องกันภัยอำเภอคำเขื่อนแก้ว เทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว สถานีตำรวจอำเภอคำเขื่อนแก้ว โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ภายใต้การประสานงานของศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤติอำเภอคำเขื่อนแก้ว (Mcatt)โดยเมื่อวันที่ 16 พ.ค 2559 เวลา 10.00 น.ทีม Mcatt ได้ลงประเมินสถานการณ์และความเสียหายเบื้องต้น และวันที่ 17 พ.ค 2559 เวลา 09.00-13.00 น ทีมMcatt ได้ออกช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจและเสริมสร้างกำลังใจโดยมีพยาบาลสุขภาพจิต จำนวน 15 ท่านภายใต้การนำของนายอำเภอคำเขื่อนแก้ว และสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นายชำนาญ มาลัย เป็นประธานและอำนวยการ ทางทีมได้ประเมินสุขภาพจิตประชาชนที่ประสบวาตภัยจำนวนทั้งสิ้น 120 ราย โดยสรุปพบว่า ประชาชนที่ประสบภัยส่วนใหญ่มีความเครียดระดับเล็กน้อย จำนวน 115 ราย คิดเป็นร้อยละ 95.84   ความเครียดระดับปานกลาง 2 ราย คิดเป็นร้อยละ  1.66  ความเครียดระดับมากที่สุด 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.50  ประเมินความซึมเศร้าจำนวน 120 ราย  ไม่พบความซึมเศร้าจำนวน 116 ราย คิดเป็นร้อยละ 96.66 ความซึมเศร้าระดับเล็กน้อย 3 ราย คิดเป็นร้อยละ   2.50  ความซึมเศร้าระดับปานกลาง 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.84 ประเมินความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย    ร้อยละ 0        มีประชาชนจำนวน 7 รายที่ได้รับการส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อดูแลต่อเนื่อง โดยได้ให้การเสริมสร้างกำลังใจ     ฝึกทักษะคลายเครียด ให้สุขภาพจิตศึกษา และการปฏิบัติตัวเบื้องต้น ตลอดจนแจกจ่ายชุดยาสามัญประจำบ้านแก่ครอบครัวที่ประสบเหตุ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มีการปรับตัวได้ดี  สามารถปรับมุมมองต่อเหตุการณ์ในเชิงบวกได้ มีความพึงพอใจสำหรับการดูแลช่วยเหลือของทุกภาคส่วนรู้สึกมีกำลังใจที่มีเจ้าหน้าที่ลงติดตามเยี่ยมถามข่าวและให้กำลังใจ ซึ่งทางทีมมีแผนจะได้ติดตามลงพื้นที่อีกในระยะ 2สัปดาห์ 2 เดือน และ 6 เดือน 
บทเรียนที่ได้รับ
1.ทุกภาวะวิกฤติมีผลต่อสภาพจิตใจของผู้ประสบเหตุ
2.การทำงานมักมีอุปสรรคเสมอแต่ถ้ามีการเตรียมพร้อม มีการบริหารจัดการที่ดี มีการทำงานเป็นทีม มีความร่วมมือร่วมใจอุปสรรคจะจะผ่านพ้นไปด้วยดี

3.การเยียวยาช่วยเหลือด้านจิตใจสามารถช่วยให้ผู้ประสบเหตุผ่านพ้นวิกฤติได้

No comments:

Post a Comment