วันที่ 1 สิงหาคม 2554: :งานรณรงค์:อาจไม่ได้อะไร_แต่ประเทศชาติได้ประโยชน์
เสร็จจาก Morning Talk ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง และคณะ เตรียมคามพร้อม ด้าน สถานที่ และ การประสานงานกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ สำหรับ งาน งดเหล้าเข้าพรรษา ประจำปี ๒๕๕๔ และเวทีประกาศ วาระคำเขื่อนแก้ว “งานศพและงานบุญประเพณีปลอดเหล้าและปลอดการพนันในวันพรุ่งนี้
ขอบพระคุณ ท่าน ท่านโสรจ สำโรง ผู้อำนวยการโรงเรียนคำเขื่อนแก้ว ที่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ ป้ายประชาสัมพันธ์ ข้างป้อมตำรวจ ขนาด 4x9 เมตร สำหรับประชาสัมพันธ์ งานศพและงานบุญประเพณีปลอดเหล้าและปลอดการพนัน” พร้อมทั้ง ท่านจะสนับสนุน น้องๆ นักเรียน โรงเรียนคำเขื่อนแก้ว ในการร่วมเดินรณรงค์ ในงานวันพรุ่งนี้ด้วย
วันนี้ มี คนดี ของประชาชนมาร่วม เตรียมความพร้อมมากมาย นำโดย นายสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว
นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
นางมนัชยา กองทำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แคนน้อย
นายขจรเกียรติ อุปยโสธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ดงแคนใหญ่
นางสุนิสา วงชาลี พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงแคนใหญ่ และคณะ จาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงแคนใหญ่
นายนาวี โพธิ์คำ พนักงานบริการทั่วไป ท่านมหาคำตัน พุ้ยน้อย รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอคำเขื่อนแก้ว
คุณมานิต และ อส. จาก ปกครองอำเภอคำเขื่อนแก้ว และทีมงานจาก เทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว เป็นต้น
“งานณรงค์ เพื่อส่วนรวม ในลักษณะนี้ หากเราไม่ทำ ใครจะทำ หลายคนมองว่า เป็นงานที่ คนที่ทำ ไม่ได้ อะไร มีแต่เสีย แล้วเธอคิดว่า พวกเรา พากันทำมานี่ พวกเราทำทำไม” เป็น คำถามที่ น่าคิดจาก นางมนัชยา กองทำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แคนน้อย
มีแต่เสียจริงหรือไม่ บางอย่างก็อาจจะจริง อย่างน้อยก็เสียเงิน เพราะ ส่วนมากแล้ว ต้องใช้เงินส่วนตัว ด้วยในทุกๆครั้งเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย จากนั้นก็เสียเวลา ส่วนตัว เพราะ ส่วนมากจะทำงานอกเวลาด้วยจึงจะสำเร็จ และบางครั้ง หาก เป็นคนที่มีสมาธิไม่หนักแน่นพอ ยังต้องเสียกำลังใจ จาก คำ ก่นด่าหรือ สบถ ของคนอื่นๆว่า ทำงานลักษณะนี้ มีแต่เสียกับเสียไม่รู้จะพากันทำไปทำไม เป็นต้น
แต่เท่าที่ผมทำงานเรื่องรณรงค์ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม มากว่า 20 ปี พบว่า ข้อความข้างต้น มีส่วนเป็นจริงบ้าง แต่ ตัวผมเอง ไม่เคยท้อ เพราะ มีสิ่งที่ได้ จากการทำงาน ในลักษณะนี้ คือ ความสุข สุขจากการทำงานที่เราชอบ สุขจาก การเห็น สังคม ดีขึ้น หรือที่เรียกว่า เห็นประเทศชาติ ได้รับประโยชน์ ผมก็มีความสุขแล้ว แม้จะไม่ทันตาเห็น แต่สิ่งที่ผม เห็นเป็นรูปธรรมถึงการขับเคลื่อนมวลชน หลายๆอย่าง ส่งผลให้สังคมดีขึ้น ยกตัวอย่างที่ชัดเจน ในการณรงค์ คือ ผลประโยชน์ ที่ตกถึงระดับครัวเรือน จากการณรงค์ งานศพปลอดเหล้า ตลอด 4 ปี 5 ปี ที่ผ่านมา จนส่งผลให้ ในปีที่ผ่านมา อำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นต้นแบบ ของ จังหวัดยโสธร ในการจัดงานศพปลอดเหล้า
ฉะนั้น ในปีนี้ พวกเราคาดหมายว่า จะได้พบกับความสุข จากการทำงานอีกครั้ง จากการที่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ขยายผล จาก งานศพ ออกไป ให้ครอบคลุม งานประเพณี อื่นๆ อีก 4 งาน คือ งานบวช งานกฐิณ งานอัฎฐะ และงาน ผ้าป่า ให้ปลอดเหล้า และปลอดการพนัน โดยขับเคลื่อนพร้อมกัน ในระดับ อำเภอ เรียกว่า การ ขับเคลื่อนวาระคำเขื่อนแก้ว “งานศพและงานบุญประเพณีปลอดเหล้าและปลอดการพนัน” ประจำปี ๒๕๕๔
ขอให้ คุณงามความดี จงส่งผล ถึง ทุกๆท่านที่ร่วมทำงานดีดีนี้ ให้กับประเทศชาติ แม้จะเป็นการปิดทองหลังพระ ก็มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้พระนั้นสวยงามได้เต็มองค์ ตาม ที่พวกเราได้ยินบ่อยๆ จากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครับ..
“พี่ตั๊ก...คนบ่น คนว่า ผมเคยได้ยินไดพบ ได้เห็น มามาก และมีอยู่มากแล้ว แต่ คน ที่ ทำงานจริง จัง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมนั้น ผมก็เห็นมากเหมือนกัน หนึ่งในนั้น มีพี่ตั๊ก ยืนอยู่หัวแถวครับ ” ผมบอกกับ นางมนัชยา กองทำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แคนน้อย ด้วยความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
ส่วนคำที่ผมจำได้เสมอ คือคำที่ นายสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้ พูดกับผมว่า “คำว่าอุทิศตนและ ทำงาน ด้วยความทุ่มเท เพื่องาน อุทิศตนเพื่อราชการนั้น มันเป็นนามธรรม แต่ ณ วันนี้ ผม เห็น เป็น รูปธรรมแล้ว ว่า คำว่า อุทิศตน และ ทำงาน ด้วยความทุ่มเทนั้น คือ นางมนัชยา กองทำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แคนน้อย เป็น คำอธิบายของความหมายของคำเหล่านั้นจริงๆ”
หมายเหตุ : สิ่งที่ ควรบันทึกไว้ สำหรับ การจัดงานในลักษณะนี้ เพิ่มเติม เพื่อเตือนความจำ ดังนี้
ป้าย ข้างป้อมตำรวจ หน้า โรงเรียนคำเขื่อนแก้ว ขนาด 4 x 9 เมตร จะพอดี
ป้าย เวที อุทิศ ซาวด์ ขนาด 3.5 x 7 เมตร จะพอดี เหลือพื้นที่ ด้านข้าง ติดป้ายผ้าธงชาติ ได้พอดี
บนเวที ต้องมีโต๊ะหมู่บูชา เทียนแพ และกรวย เป็นต้น
No comments:
Post a Comment