8 กพ.2561 ค้นให้พบ จบด้วยหาย ตายน้อยกว่า 5 ขาดยาเป็น 0_เขต10_เร่ง TB_ยุติ วัณโรค ตั้ง NOC ทุกระดับ
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง บันทึก กิจกรรม การประชุม
ศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติ
เขตสุขภาพที่ 10 ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี
ประธานโดย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข
กล่าวต้อนรับโดย นายเธียรชัย พุทธรังษี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
จุดเน้นสำหรับการรณรงค์ คือ “ค้นให้พบ จบด้วยหาย ตายน้อยกว่า 5 ขาดยาเป็น 0”
ซึ่ง ศ. คลินิก เกียรติคุณ นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ได้มี
หลักการทำงานชัดเจนว่า นโยบายเข้มแข็ง เสริมแรงด้วยความรู้
รวมหมู่กันเป็นเจ้าของ ต้องก้าวต่อเนื่อง
ในเวทีนี้ อำเภอคำเขื่อนแก้ว
ได้ร่วมจัดนิทรรศการ DOT
by Heart : ซึ่งแปลเป็นภาษาการปฏิบัติง่ายๆ ว่า
วัณโรคแก้ไขได้ ด้วยหัวใจ 5 ต.
ประกอบด้วยขั้นตอนปฏิบัติจำง่ายๆว่า 5 ต. ที่สำคัญคือ
กินยาต่อหน้า รักษาต่อเนื่อง ครบเรื่อง ติ๊กบัตร ขาดนัดติดตาม ด้วยความเต็มใจ
และ จุดเด่นการดูผู้ป้วยด้วยการ
Admit ผู้ป่วยใน 14 วัน
ทั้งนี้ทีมงานสรุปข่าวความว่า กระทรวงสาธารณสุข
เปิดศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติ เขตสุขภาพที่ 10 ขับเคลื่อนการดำเนินงานและประสานความร่วมมือด้านวัณโรค
ใน 5 จังหวัด
เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานป้องกันควบคุมวัณโรคระดับจังหวัด
ระดับอำเภอ พร้อมตั้งเป้าค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง เพิ่มอัตราการค้นพบ
และเพิ่มอัตราการรักษาสำเร็จในผู้ป่วยรายใหม่ให้ได้ ร้อยละ 90 ภายในปี 2561 นี้
โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย
อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายเธียรชัย พุทธรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และผู้บริหารจากภาคีเครือข่าย ร่วมเปิดประชุมวิชาการศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติ เขตสุขภาพที่ 10
“Kick off NOC for TB Region 10th” ประจำปี 2561
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี
วันที่ 12 กันยายน 2560 เห็นชอบในหลักการแผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการต่อต้านวัณโรค
พ.ศ.2560–2564 โดยมีเป้าหมายลดอุบัติการณ์ของโรควัณโรคลงร้อยละ
12.5 ต่อปี จาก 171 ต่อประชากรแสนคน
ในปี 2557 ให้เหลือ 88 ในปี 2564
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข
ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันควบคุมวัณโรคเป็นวาระสำคัญ
และกำหนดให้หน่วยงานสาธารณสุขทุกระดับดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติขึ้น
(National Operation Center for TB) หรือ NOC-TB เพื่อลดปัญหาวัณโรคในประเทศไทย
เขตสุขภาพที่ 10 ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร และมุกดาหาร
ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติในระดับจังหวัดทั้งหมดแล้ว
โดยผลการดำเนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ทุกประเภท 5,613 คน
คิดเป็นอัตราการค้นพบร้อยละ 71 ของค่าประมาณการผู้ป่วย 7,900
คน อัตราการรักษาสำเร็จผู้ป่วยรายใหม่ ร้อยละ 86 อัตราการเสียชีวิต ร้อยละ 7 ซึ่งยังต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการดำเนินงานวัณโรคของประเทศ
กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติ
เขตสุขภาพที่ 10 ขึ้น
เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานและประสานความร่วมมือด้านวัณโรค ใน 5 จังหวัด และเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทักษะ
เพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานป้องกันควบคุมวัณโรคทั้งในระดับจังหวัด
และระดับอำเภอ โดยในปี 2561 นี้
เขตสุขภาพที่ 10 ได้ตั้งเป้าหมายค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สัมผัสโรค ผู้ต้องขังในเรือนจำ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ผู้ติดเชื้อเอซไอวี ผู้ป่วยเบาหวาน แรงงานข้ามชาติ และบุคลากรสาธารณสุข
ให้ครอบคลุมร้อยละ 90 เพิ่มอัตราการค้นพบให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ
90 และเพิ่มอัตราการรักษาสำเร็จผู้ป่วยรายใหม่ให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ
90 อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานจะประสบความสำเร็จได้
จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายสุขภาพทุกภาคส่วนในพื้นที่
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการยุติวัณโรคแห่งชาติ
ให้บรรลุตามเป้าหมายต่อไป
“ในโอกาสนี้ ขอแนะนำประชาชนว่า วัณโรคสามารถติดต่อได้จากการไอหรือจามรดกัน
โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพียงรับประทานยาต่อเนื่องประมาณ 6 เดือน และให้หมั่นสังเกตอาการของตนเอง หากมีไข้ต่ำ ไอติดต่อกัน 2 สัปดาห์ เหนื่อยหอบ และน้ำหนักลด ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
เพื่อรับการวินิจฉัย หากพบว่าป่วยจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ส่วนการป้องกันโรค
ทำได้โดยการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
และดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล คือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกาย
ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสเสมหะ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
No comments:
Post a Comment