31 ธ.ค.62ณ บ้านสีสุก_วันสิ้นปีนอนพักอยู่ในที่และอยู่กับบุคคลที่เป็นมงคล
แก่ชีวิต กับคุณพ่อถวิล
วันที่
31 ธันวาคม 2562
นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง บันทึก กิจกรรมส่งท้ายปี พ.ศ. 2562
สิ้นปีอยู่ในสถานที่
และอยู่กับบุคคลที่เป็นมงคลแก่ชีวิต กับ พ่อถวิล จันทร์สว่าง และญาติๆ ณ บ้านสีสุก
นอนกับคุณพ่อ
ตื่นเช้าไปทำบุญ วันขึ้นปีใหม่ 2563 ที่วัดบ้านสีสุก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน ลูกปัดที่ต่างสี
มีเชือกร้อยเป็นเส้นเดียวกัน
คิดต่าง
ไม่ใช่ต่อต้าน คิดต่าง ไม่ใช่ศรัตรู
ผมบันทึกเอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์และเตือนสติตนเอง ในวันสิ้นปี ด้วยบทความ
ที่ไม่ทราบว่าใครแต่ง แต่ได้รับต่อๆกันมา ทาง social ต่าง ดังนี้ครับ
คติการสอนชาวพุทธเรามีหลากหลาย
ในแถบอินโดจีน เน้นปฏิบัติตามคำสอนของพระเถระ จึงเรียกว่า เถรวาท หรือ หีนยาน ซึ่งมีเป้าหมายที่เล็กคือ ญาณ หรือ ฌาน
ระดับพ้นทุกข์ เป็นพระอรหันต์ หีนะ คือ
เล็ก
ส่วนในบางประเทศ จีน ญี่ปุ่น
เกาหลี เน้นการ บรรลุในระดับกว้าง จึงเรียกว่า มหายาน คือเพื่อเป็น โพธิสัตว์
การสอนก็เน้นต่างๆ ไป ในหลายๆนิกาย ZEN เป็น
พุทธ นิกายหนึ่งซึ่ง สอนโดยการเล่าเรื่อง
ตัวอย่างเช่น
รองท้า ท้องฟ้า ทะเล ภูเขา คนเรา เป็นต้น
รองเท้าเด็กน้อยถูกคลื่นทะเลซัดหายไป..เด็กน้อยเขียนที่ริมหาดว่า.."
ทะเลคือขโมย "
.อีกชายฝั่งของทะเลชาวประมงหาปลาได้เป็นจำนวนมาก..ชาวประมงเขียนที่หาดทรายว่า... " ทะเลคือผู้ให้ "
.ชายหนุ่มคนหนึ่งจมทะเลตาย..แม่ของเขาเขียนที่ชายหาดว่า..
" ทะเลคือฆาตกร "
.ชายชราเดินหลังค่อม ก้มหน้าเดินถือไม้เท้า
พบไข่มุกอันล้ำค่า จึงเขียนว่า.. " ทะเลคือผู้เมตตา "
.ทันใดนั้น " คลื่น "
ได้ซัดยังชายฝั่งและลบการเขียนทั้งหมด ! พร้อมกล่าวขึ้นเบาๆ ว่า..
."อย่าไปสนใจคำตัดสินของผู้อื่น
หากเจ้าคิดจะเป็นทะเล "
.อย่าไปวิตกกับสิ่งที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้
หรือความผิดหวัง ความสุข หรือความทุกข์
เพราะหากชีวิตมนุษย์จะเรียบง่าย คงไม่เริ่มต้นด้วยการร้องไห้เมื่อแรกเกิด
.คนเรา " เกิดมา "
พร้อมกับเสียงร้องไห้ของตัวเอง แต่ " ตายไป "
พร้อมกับเสียงร้องไห้ของผู้อื่น ช่วงเวลาระหว่างนั้น เรียกว่า " ชีวิตคน
"
.แมวชอบกินปลา แต่แมวลงน้ำไม่ได้
ปลาชอบกินไส้เดือน แต่ขึ้นฝั่งมากินไส้เดือนไม่ได้ ชีวิตคนเรา " มีได้ - มีเสีย "
มีทั้ง "ได้เลือก" และต้อง "ล้มเลิก"
.ในชีวิตคนเราไม่มีทางที่ทุกอย่างจะเป็นไปดั่งใจนึกได้หมด
.จงอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับใครเพราะมันไม่คุ้มจงอย่าจริงจังกับ
ตัวเองเกินไปเพราะจะทำร้ายตัวเองจงอย่าไปจมอยู่แต่อดีตเพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา..
.จงอย่าจริงจังกับปัจจุบันมากไปเพราะชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป..
.ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของๆ
เรานอกจากสุขภาพกายที่แข็งแรง (อันมาจากสุขภาพใจที่เข้มแข็ง เปี่ยมกำลังใจ)
.อย่าได้อวดเรื่องเงินเรื่องทอง
ตายไปก็กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ
.อย่าได้อวดเรื่องหน้าที่การงานลาออกไปแล้วจะมีคนมาแทนที่คุณและอาจทำได้ดีกว่าคุณ
.อย่าอวดเรื่องบ้านเรื่องรถตายไปแล้วก็เป็นของทายาท..คุณหมดเวลา
.คุณอวดเรื่อง"สุขภาพแข็งแรง"จะดีกว่าคนอื่นตายไปแล้วคุณยังนอนเล่นริมทะเลนั่งจิบชามองดูลูกหลาน..อย่างมีความสุขและเข้าใจในชีวิต.
เรื่อง "10 ปี 7
ครั้ง" หากมีเวลาค่อยๆตั้งใจอ่าน เปิดใจรับแล้วจะพบแต่ความสุขที่ได้เกิดมาบน
โลกใบนี้.....
"ชีวิตคนเราจะมีสิบปีสักกี่ครั้งกัน"
ชอบประโยคนี้มากมันจริงอย่างยิ่งถ้าคนเราอายุเฉลี่ย
70 ปี
เราก็มี 10 ปีแค่ 7 ครั้ง
1. สิบปีแรก...หมดไปกับความไร้เดียงสา
2. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการศึกษาเล่าเรียน
3.
สิบปีต่อมา...หมดไปกับการทำงานและการใช้ชีวิต
4. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการสร้างฐานะ
สร้างครอบครัว
5. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการลงหลักปักฐาน
รักษาสิ่งที่หามา
6.สิบปีต่อมา...หมดไปกับการดูแลรักษาสุขภาพกายใจให้แข็งแรง
7.สิบปีสุดท้าย...หมดไปกับการปล่อยวางทุกสิ่งรอคอยการกลับบ้าน
แต่ละสิบปีผ่านไป...ไวเหมือนโกหกอีกไม่นานปีนี้ก็จะผ่านไป
มีอะไรที่เราทำไปแล้วมากมายและก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ
*** เวลา คือ หน่วยเงินในกำมือของเราที่เอาไปแลกสิ่งอื่น
- เราเอาเวลาไปแลกงาน - เราเอางานไปแลกเงิน
-
แต่เราก็ไม่เคยเอาเงินไปแลกเวลาคืนกลับมาได้สักทีถ้า 'ธนาคารเวลา' มีจริงเราก็ไม่เคยมีสมุดบัญชีสักเล่มที่จะให้เราดูได้..ว่าตอนนี้เหลือเวลาอยู่เท่าไหร่?
*** เรารู้ว่าเราใช้"สิบปี"ของเราไปกี่ครั้งแล้วแต่เราไม่อาจรู้ว่า...
เราจะใช้"สิบปี"ที่เหลือของเราได้ครบหรือไม่ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับเราใช้เวลาสิบปีของเราไปคุ้มค่าหรือเปล่าเมื่อเราหันหลังกลับมาขอให้พูดได้เต็มปากว่าเราใช้มันไปอย่างไม่น่าเสียดาย ชี
วิ ต ค น เ ร า จ ะ มี "สิ บ ปี" สั ก กี่ ค รั้ ง กั น? ใช้สิบปี เจ็ดครั้งของเรา ใ ห้ คุ้ ม ค่า
จง
สวัสดีกับสิบปีปัจจุบันของท่าน
หากหาคนที่รักคุณไม่ได้ อ่านให้จบ คุณอาจจะหัน
มารักตัวเอง...ก็ได้นะครับ
สรุป: ชีวิตที่เรียบง่าย
ให้สนุกกับการใช้ชีวิต 30% ที่เป็นของคุณ
- ไม่เจ็บปวดแต่ก็ต้อง บำรุง - ไม่กระหายแต่ก็ต้อง ดื่มน้ำ
- ว้าวุ่นแค่ไหนก็ต้อง ปล่อยวาง - มีเหตุมีผลแต่ก็ต้อง ยอมคน
- มีอำนาจแต่ก็ต้องรู้จัก ถ่อมตน -
ไม่เหนื่อยแต่ก็ต้อง พักผ่อน
- ไม่รวยแต่ก็ต้อง รู้จักพอเพียง -
ธุระยุ่งแค่ไหนก็ต้องรู้จัก พักผ่อน
- หมั่นเตือนตน : ชีวิตนี้สั้นนัก
# อยากกิน...กิน
# อยากเที่ยว....เที่ยว
# เรื่องกลุ้มอย่าเก็บไว้
# ไม่เครียด
ปล่อยวาง
# สุขสบายทุกเพลา
@ เวลาที่ยังจับมือไหว
ให้เชิญเพื่อนมาสังสรรค์ หรือออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้าง
@ เวลาที่ยังกอดไหว
ให้โอบกอดกันให้ชื่นใจ
@ ทำหน้าที่พ่อ
แม่ ลูก สามี ภรรยา พี่ น้อง
และเพื่อนที่ดีต่อไป
@ ครอบครัวสุขสรรค์
มาก่อนเสมอ !!! @ เวลาที่อยู่ด้วยกันอย่าได้โกรธกันง่ายๆ
- ที่สำคัญ ต้องเป็น "ผู้ให้"
ก่อนเสมอ เต็มใจ - สุขใจ ที่เป็นผู้
"ให้"
- รู้จัก "ขอโทษ" และ "สำนึกผิด" ทุกครั้งที่ทำ
"ผิด"
- ท้ายสุด "ปล่อยวาง" และ
"พอเพียง"
*** คิดดี
ทำดี พูดดี...มีสุข
ขอบคุณ ผู้แต่ง
ผู้เขียนและผู้ส่งต่อข้อมูลเหล่านี้มาให้กันและกันนะครับ