3 ต.ค.65 หลัก ททท ทำ 6 ขอ เป้า “สุขภาพดี เศรษฐกิจมั่งคั่ง” (Health for Wealth) บุคลากรคุณภาพชีวิตดี 4 T : Trust Team Technology Target โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ.
3
ตุลาคม 2565 นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา และ คณะ
ประชุม
ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 สสจ.ยโสธร
กิจกรรม รับทราบ การมอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน
กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ผ่านระบบ
VDO
Conference WebEx Meeting ไปยังผู้บริหารส่วนภูมิภาค
ประธานโดย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คนใหม่
ททท
คือ 3 ท. ทำทันที
ทำต่อเนื่อง ทำและทำให้ดีขึ้น(พัฒนา)
มุ่งเน้น 6 ประเด็น 1.ยกระดับสื่อสารสร้างความรอบรู้สุขภาพ (Health Literacy ) 2. ยกระดับบริการรองรับสังคมสูงวัย 3. ลดอัตราตายโรคสำคัญ 4. นการแพทย์ดิจิทัลสร้างความมั่นคงสุขภาพ 5. ส่งเสริมศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ 6. เสริมสมรรถนะองค์กร สร้างความไว้วางใจกับประชาชนและเจ้าหน้าที่
VUCA: situation for Change
ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (VUCA
World) เช่น การเปลี่ยนแปลง การเมืองระดับโลก อำนาจทางเศรษฐกิจ
การขาดแคลนทรัพยากรและอาหาร, การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ประชากรอายุยืนขึ้น เด็กเกิดใหม่และวัยแรงงานน้อยลง เมืองเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ความหนาแน่นของประชากรเพิ่มขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี,สภาวะโลกร้อน
ภัยธรรมชาติ มลพิษ, และด้านสาธารณสุข
ที่มีทั้งโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำ โรคติดต่อไม่เรื้อรังปัญหาสุขภาพจิต
และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การรวมกลุ่มประเทศตามภูมิรัฐศาสตร์ของโลก จึงต้องทำความเข้าใจและปรับตัวให้ทัน
สำหรับทิศทางที่จะร่วมกันพัฒนากระทรวงสาธารณสุขและสุขภาพของคนไทยต่อไป
จะนำนโยบายมุ่งเน้น
5 ประการ ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
มาปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ได้แก่ 1 การทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น,
2การยกระดับการเสริมสร้างสุขภาพเพื่อคนไทยแข็งแรง,
3 ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง,
4นำสุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ5ข้อมูลสุขภาพต้องเป็นของประชาชนและเพื่อประชาชน
วิธีการ พัฒนาระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็ง ครอบคลุมทั้งมิติสุขภาพ
สังคม และเศรษฐกิจ
ด้วยแนวนโยบาย
“จากสุขภาพคนไทย เพื่อสุขภาพประเทศไทย” มุ่งเน้น 6 ประเด็นหลัก
ได้แก่
1.เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร
ยกระดับการ สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ทุกมิติ ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ
ป้องกันควบคุมโรค รักษาพยาบาล ฟื้นฟู และความเสี่ยงต่อสุขภาพ
เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สะดวกรวดเร็ว
พัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย ดูแลสุขภาพกาย-ใจตนเอง ครอบครัว และชุมชนให้แข็งแรง
2.ยกระดับบริการ รองรับสังคมสูงวัยและลดอัตราตายโรคสำคัญ
โดยเสริมความเข้มแข็งของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เพิ่มศักยภาพ 3
หมอ ทั้ง อสม.หมอคนที่ 1
เป็นผู้นำด้านสุขภาพชุมชน เพิ่มศักยภาพ รพ.สต.
หมอคนที่ 2 เป็นจุดเชื่อมต่อดูแลสุขภาพจากชุมชนสู่ระบบบริการ
โดยใช้การแพทย์ทางไกล และเพิ่มประสิทธิภาพเชื่อมโยงกับหมอคนที่ 3
ดูแลแบบ “ใกล้ตัว ใกล้บ้าน ใกล้ใจ” ปรับโฉมโรงพยาบาลทุกแห่งเป็น
“โรงพยาบาลของประชาชน” มีสถานที่ สิ่งแวดล้อม สะอาด สวยงาม เข้าถึงง่าย
รับบริการสะดวก ลดความแออัด ลดขั้นตอน
ที่ไม่จำเป็น ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ทันสมัย
บริการมีคุณภาพ ใส่ใจดุจญาติ และเพิ่มขีดความสามารถระบบบริการและเครือข่ายไร้รอยต่อ
“ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง” โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
อุบัติเหตุ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคไต มะเร็ง สุขภาพจิต
ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญของคนไทย
3.ผลักดันบริการทางการแพทย์และ สาธารณสุขสู่ยุคดิจิทัล
ให้โรงพยาบาลทุกแห่งใช้การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) พัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพให้เอื้อต่อการบริการอย่างไร้รอยต่อ
และเร่งพัฒนานวัตกรรมการแพทย์โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
การแพทย์ระดับอณู (Molecular
medicine) เพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ
ดูแลรักษาสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคตามลักษณะเฉพาะทางพันธุกรรม และใช้ยาเฉพาะบุคคล
(Personalized medicine)
4.ยกระดับความมั่นคงทางสุขภาพ
เตรียมพร้อมรับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศในอนาคต
รวมถึงผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5.ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพนานาชาติ
สนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สมุนไพร ภูมิปัญญาไทย
และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และ
6.พัฒนาสู่องค์กรสมรรถนะสูงและบุคลากรมีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้น
ด้วยแนวทาง 4T
ได้แก่
Trust
สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับประชาชน เจ้าหน้าที่
ฝ่ายนโยบาย ฝ่ายต่างประเทศและเครือข่าย,
Teamwork
&Talent ทำงานเป็นทีม สนับสนุนคนเก่ง,
Technology
ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ
Targets
ทำงานแบบมุ่งเป้าหมาย
จัดการทรัพยากรให้เกิดผลิตภาพและบริการที่มีคุณค่า
ขณะที่บุคลากรมีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้น
มีความสมดุลของชีวิตกับการทำงาน
สามารถยืดหยุ่นปรับตัวได้ในภาวะวิกฤต
หลักปฏิบัติในการทำงาน “ททท” คือ
“ทำทันที” “ทำต่อเนื่อง” “ทำและพัฒนา”
และร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนและพัฒนาสาธารณสุขไทยสู่การยกระดับบริการและการดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เป็นระบบสาธารณสุขที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน”
ทั้งนี้
สำหรับการแบ่งงานรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประกอบด้วย
1.นพ.ทวีศิลป์
วิษณุโยธิน รองปลัด สธ.รับผิดชอบด้านบริหาร
2.นพ.พงศ์เกษม
ไข่มุกด์ รองปลัด สธ.ดูแลกลุ่มภารกิจด้านส่งเสริมสนับสนุน เช่น อย.
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
3.นพ.ณรงค์
สายวงศ์ รองปลัด สธ.ดูแลภารกิจด้านพัฒนาสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมอนามัย
4.นพ.ยงยศ
ธรรมวุฒิ รองปลัด สธ.ดูแลภารกิจด้านพัฒนาการแพทย์ กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยฯ
และกรมสุขภาพจิต

.jpg)
.jpg)
No comments:
Post a Comment