7/31/23

10 พ.ค.66 WE ARE the SAME BLOOD : รวมพลคนทรงคุณค่า ณ สวนป่าภูถ้ำพระ อ.เลิงนกทา

10 พ.ค.66  WE ARE the SAME BLOOD : รวมพลคนทรงคุณค่า ณ สวนป่าภูถ้ำพระ อ.เลิงนกทา

 

วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 หลังเลิกงาน นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา และ คณะ

ร่วมกิจงาน ณ สวนป้าแก้ว สวนป่าภูถ้ำพระ ตำบลกุดแห่  อำเภอเลิงนกทา

เป็นสวนที่สวย ร่มรื่น มีผลไม้มากมายหลายพันธุ์   สามารถรองรับ คณะได้ เป็นร้อยคนเลยครัย

หัวหน้าคณะโดย นายสุชาติ ไชยสัจ อดีต รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร อดีต สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา 

วันนี้ ผม (พันธุ์ทอง ) และ คณะเลิงนกทาเรา ได้พี่ชาย พี่สาว เพิ่มอีก 1 ครอบครัว

คือ พี่ องอาจ สุพรรณโมก  (หรือ พี่ไทย)  อดีต ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองนกเขียน อำเภอนิคมคำสร้อยและ ภรรยา  

  ถือเป็น กิจกรรม รวมพลคนทรงคุณค่า WE ARE the SAME BLOOD  ที่พี่ๆ ได้จัดขึ้นนี้ คือสิ่งเล็กที่มาจากใจจริง  ทั้งในนามส่วนตัว หรือองค์กร พี่คาดหวังอยากให้เกิดมิตรภาพ เกิดความอบอุ่น  จากพี่ๆสู่น้อง ๆ ไม่ต้องสูง ต่ำ ดำ ขาว รวย จน ขอให้ทุกคนแชร์ความสุขสู่กันและกัน..ฮักแก่น แน่นเหนียว ตลอดไป   .. ขอต้อนรับ สมาชิกน้องใหม่ ทั้ง 6 ท่าน มี หน.ถนอมทรัพย์  ผอ.ระยอง  ผอ.ประสาท ผอ.ธนกฤต  (บัวเรียน) ผอ. รุ่งรัตน์  และ ดร.ทรนง     ขอบคุณ ผอ.รังสรรค์ มาต้อนรับน้อง และทำหน้าที่ พิธีกร มืออาชีพ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานอันอบอุ่นในวันนี้     วาณีรัตน์  ไชยสัจ  อดีต ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา 

            





  “  หากไป นิคมคำสร้อย อย่าลืมแจ้งอย่างน้อยให้พี่ได้เลี้ยงกาแฟสักแก้วนะครับ  
พี่องอาจ สุวรรณโมกข์  เน้นย้ำก่อนคณะเราจะกลับ   

 WE ARE the SAME BLOOD สาธารณสุข พวกเราเลือดเนื้อเชื้อไข เดียวกัน  เป็นวลีทอง ของที่รังสรรค์ ที่ตกทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ( Soft Power ) ใช้ในการรวมพลัง พี่น้อง วงการสาธารณสุขของเรามาตลอดอาชีพราชการของท่าน และ น้องๆ ได้ขออนุญาต นำมาใช้ ต่อเนื่องไปนะครับพี่

   ประทับใจพี่สุชาติ พี่แก้ว และคณะ ทุกท่านที่มีกิจกรรม surprise Happy Birthday 55 ปี ถือเป็น การฉลองครบรอบวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม     ศิริรักษ์ คุณสุทธิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา




















พี่รังสรรค์ มีข้อความ ประทับใจ ใน group line ความว่า 

คนที่เกษียณอายุแล้ว เป็นผู้ที่โชคดีที่สุด… เป็นเช่นไร

คนที่โชคดีที่สุด คือ 💸 เมื่อเกษียณอายุแล้ว มีเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิต โดยมีครบ " ปัจจัยสี่ " ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน ในการดำรงชีวิต ได้แก่ ..... อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค💊 บวกกับ " ปัจจัยที่ 5 " คือ มีแรงพอที่จะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในสถานที่ต่างๆ

⏩ ในอดีต  ข้าพเจ้า  มีความคิดผิดมาตลอด ว่า มีเงินแล้ว ต้องซื้อทุกสิ่งที่อยากได้ : ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด 🏠 ทั้งในกรุงเทพฯ 🏢  คอนโดริมทะเล ที่ดินในจังหวัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด 

⏩ แต่แล้ว ! ทุกอย่างที่ซื้อหามานี้  มันสร้างภาระ  อันหนักหน่วงให้กับตัวเราอย่างมาก  เพราะ ทั้ง ค่าดูแลรักษาสูงมาก แต่ก็ยังไม่สูงไปกว่าความกังวลต่างๆ นานา ที่เกิดขึ้นระหว่างครอบครองสมบัติต่างๆเหล่านี้

⏩ ไหนจะต้อง  หาคนมาเช่า เวลาที่ว่างเว้น  จากคนเช่า ก็อดกลุ้มใจมิได้ เพราะ มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายรับ และ เมื่อมีผู้เช่า ก็ต้องเอาอกเอาใจผู้เช่า เพื่อจะให้เขาเช่าไปนานๆ  ได้ผู้เช่า ดี ก็ดีไป  แต่ ถ้าไม่ดี ก็จะมีเรื่องจุกจิกกวนใจมิได้ขาด เมื่อผู้เช่าเลิกเช่า ก็ต้องหาช่างมาซ่อมแซม ส่วนที่เสียหาย รอผู้เช่าคนต่อไป 

⏩ ส่วนอสังหาฯ อื่นๆ : ที่มิได้ให้เช่า เช่น ที่ดิน ก็มีภาระต้องชำระภาษีทุกปี ที่ดินจะปล่อยรกร้าง ให้วัชพืชขึ้นท่วมหัวก็ไม่ได้ ต้องคอยจ้างคนมาจัดการดูแลอยู่เนืองๆ มิฉะนั้น ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 30 เท่า ถ้า เป็นที่รกร้าง ไม่ได้ทำประโยชน์

⏩ นอกจากอสังหาฯ  ที่ซื้อหา มาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง แล้ว : ของใช้ส่วนตัวต่างๆ ก็ยังซื้อหา ตามใจ  ตามค่านิยมในยุคนั้น เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ นาฬิกา เครื่องสำอาง ต่างๆ  ซื้อมาด้วยแล้ว  ก็ใช้ได้ไม่นาน  ก็เปลี่ยนใหม่ ... นี่ถ้าเอาเงิน 💸 ที่ซื้อสิ่งของเหล่านี้ มากองรวมๆ กัน คงซื้อบ้านหลังงามๆ ได้อีกหลังหนึ่ง ‼หรือ ท่องเที่ยวรอบโลกได้

⏩ ตั้งใจซื้อ 🏢 คอนโดริมทะเล 🌊 เพื่อเอาไว้มาพักผ่อนหย่อนใจ แต่ได้มาพัก ปีละไม่กี่วัน เท่านั้น และ ทุกครั้งที่มาพัก กลับไม่ได้พักผ่อนให้สบายใจดังหวัง เนื่องจาก ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการหาคนมาทำความสะอาด ต้องซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ซึ่งมีเป็นระยะๆ  ในช่วงที่ไม่ได้มาพัก ก็มีค่าใช้จ่ายในการดูแล ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา ที่สำคัญคือ ... ทำให้เสียโอกาสที่จะได้ไปพักที่อื่น 

⏩ ข้าพเจ้า  จึงตัดสินใจ เปลี่ยนชีวิตใหม่ในวัยเกษียณ : เพื่อให้มีความสุข และผ่อนคลาย มากกว่า ต้องมาเสียเวลา ในการมานั่งวิตกกังวลต่างๆ

⏩ ดังนั้น เราจึงตัดสินใจ ขายทรัพย์สินเกือบทุกอย่าง เหลือไว้เพียง ที่พักส่วนตัว ที่ใช้เป็นที่พักอาศัย ในกรุงเทพฯ 1 แห่ง ในต่างจังหวัด 1 แห่งเท่านั้น  นอกจากนั้น ตัดสินใจ จะขายทิ้งไป ถ้า ลูกๆ จะไม่ดูแลต่อไป 

ไม่ต้องมีทรัพย์สินอะไร ให้มาก ไม่ต้องปวดหัวกังวล กับการหาคนเช่า ไม่ต้อง กังวลกับการได้ผู้เช่าไม่ดี ไม่ต้องเสียเงินค่าบำรุงรักษา ไม่ต้องเสียค่าดูแลส่วนกลาง ไม่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่นับวัน จะมีมากขึ้น

⏩ ไม่มีคอนโดริมทะเล 🌊 เพื่อจะไปพักซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากไปพักที่ไหน ก็ไปพักตามโรงแรม สะดวกสบายทุกอย่าง ได้พักผ่อนในที่หลากหลาย สบายสมใจ ไม่ต้องทำความสะอาด ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางทุกเดือน ‼

⏩ ที่ดินต่างๆ ทั่วประเทศ : ก็ขายทิ้งไปหมด ได้เงินมากอด ไว้ให้สุขใจ แล้วนำไปฝากในสถาบันการเงิน 💸 ที่ให้ดอกผลเพียงพอกับการดำรงชีวิตโดยมีครบปัจจัยทั้ง 5 

⏩ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ มีของเก่าก็ใช้ต่อ เก็บไว้แค่ไม่กี่ชิ้น เลือกชิ้นที่ใช้ได้บ่อยๆ นอกนั้นบริจาคไปจนหมด ไม่ต้องเก็บไว้ให้รกบ้าน ถ้าจะหาซื้อใหม่ก็ใช้ของราคาไม่แพง ให้คุ้มกับการใช้ 

🛑 ปัจจุบัน มีที่พักในกรุงเทพฯ และ บ้านที่ต่างจังหวัดเท่านั้น 🇦🇺 สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย 💸 ค่าใช้จ่ายลดลงมาก : จึงมีเงินเหลือใช้ เพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างสบายๆ อยากไปไหนก็ไปกัน ไม่ต้องคอยห่วงสมบัติ ‼ ไม่ต้องห่วงหมาแมว

⏩ อยากทานอาหารอะไร : ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ทำทานกันเอง ถ้าเบื่อที่จะทำ ก็สั่งอาหารมาที่บ้าน 🏠 เดี๋ยวนี้ แทบทุกแห่งในโลก 🌐 สั่งอาหารได้ทางออนไลน์ 📱หาทานได้ แทบจะทุกภัตตาคาร ไม่ต้องถ่อขับรถ 🚘 ฝ่ารถติด ออกไปให้ปวดหัว  ยามว่าง : ก็หาอะไรทำให้เพลิดเพลิน 

⏩ พอเริ่มเบื่ออยู่บ้าน : ก็หาเรื่องขับรถไปเที่ยว ปิกนิกริมทะเล 🏖 หรือไปชมสวนดอกไม้ ในวนอุทยานต่างๆ ให้เพลิดเพลินเจริญใจ ซึ่งไม่ได้ทำให้ เงินในกระเป๋าร่อยหรอไปมากนัก

⏩ ไปตรวจสุขภาพ กับหมอบ้าง หรือ 🏥 ตรวจหัวใจ ตรวจสายตา ตรวจการได้ยิน ตรวจฟัน เป็นครั้งคราว

⏩ แดดร่มลมตก : ก็ออกไปเดินออกกำลังกาย 🧓👵 ถ้าคู่ชีวิตยังอยู่ 

 : ก็นั่งพูดจาภาษาดอกไม้ หรือ พูดหวานๆ เอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน แค่นี้ ก็น่าจะพอ สำหรับคนที่เกษียณอายุแล้ว และ อยากหาความสุขใส่ตัว มิใช่ ตั้งหน้าตั้งตา  หางาน หาภาระ มาใส่ตัวอีก ‼

⏩ เพื่อนน่ะ ! ไม่มีเลย  ก็ไม่ดี แต่ ถ้ามีมากเกินไป  ก็เป็นภาระอีก มีแต่พอดี และ ควรคบกับเพื่อนดีๆ ที่มี " ศีลเสมอกัน " จะได้ไม่เป็นที่กินแหนงแคลงใจกัน ให้กลุ้มใจเปล่าๆ  คบเพื่อนที่รู้จัก Take And Give ไม่ใช่เพื่อนที่ทำตัวเป็นภาระ คอยแต่จะ Take จากเราตลอด เหมือนเป็นเจ้าหนี้ของเรามาแต่ชาติปางก่อน

⏩ ส่วนลูกๆ หลานๆ น่ะ : เราเหนื่อยยาก เลี้ยงดูพวกเค้ามาเยอะแล้ว ‼ ปล่อยเค้าไปตามทางของเค้า  เค้าอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่แล้ว : ไม่ต้องห่วงมากมาย และไม่ต้องไปหวังพึ่งอะไรลูกๆ เป็นอันขาด ! อย่าเอาตัวไปเป็นภาระของลูก แค่เค้าไม่มาพึ่งเราไปตลอดชีวิต ก็นับว่า " เป็นบุญแล้ว "

⏩ 💸💰 เงินทองก็เช่นกัน : ทำงานเหนื่อยยากมาตลอดชีวิต ถึงวัยเกษียณ : ก็หัดใช้เงินเสียบ้าง มิใช่เคยตัวกับการประหยัด เพื่ออนาคต ตอนนี้แหละ คือ อนาคตของเราที่รอคอย คือ เวลาที่จะต้องใช้เงิน 💸 

" อนาคต " มันไม่ยาวไกล ถึงขนาด ต้องประหยัดกันอีก ! เผลอๆ วันพรุ่งนี้ก็อาจไม่มีชีวิตอยู่  ไม่สามารถใช้เงินได้อีกต่อไป ก็ได้ ‼

🛑 สมบัติน่ะ : ไม่ต้องเก็บไว้ให้ลูกหลานมากหรอก ให้พอทำทุนก็พอ : เลี้ยงพวกเค้า ให้การศึกษาพวกเค้า มาอย่างดีที่สุดแล้ว อย่าดูถูกเค้า เค้าน่าจะหาได้มากกว่าเราด้วยซ้ำ !!

🔴 อย่าลืมแบ่งเวลาตนเองดูแลสุขภาพกายใจให้แข็งแรงด้วยนะครับ 

แบ่งเวลาวันละ 15-30 นาที แค่เดิน Jogging ออกกำลังกาย ทำให้ขามีกำลัง แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น

เจริญสติ  ปฏิบัติธรรมด้วยตนเองที่บ้านก็ได้ แบบ อานาปานสติ ให้จิดอยู่กับลมหายใจเข้า-ออก หรือ จะบริกรรมภาวนา “ พุทโธ “ ก็ได้ ถ้าระหว่างวัน ไม่ได้เจริญสติ ก็เจริญสติ  ในเวลาจะเข้านอน หรือ ตอนตื่นนอนจะลุกจากเตียง เพื่อเตรียมความพร้อม กับลมหายใจที่ยังมีอยู่ ในเช้าตรู่วันใหม่ ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน คิด พูด ทำแต่สิ่งดีงาม

🔴 เท่านี้ : ก็น่าจะสุขมากพอ .....สำหรับคนที่ "เกษียณ" แล้ว ‼

เป็นบทความน่าคิด…น่าพิจารณาทบทวน…ว่า เราเป็นเช่นว่าเพียงใด 

Cr.ไม่ทราบชื่อผู้เขียนในเรื่องนี้


No comments:

Post a Comment