15-19กย2558ประชุมวิชาการสาธารณสุข ณ เชียงใหม่
วันที่ 16-18 กันยายน 2558 วันนี้ผมนายพันธุ์ทอง
จันทร์สว่าง ไปพร้อมกับ นายชำนาญ มาลัย สาธารณสุข
อำเภอคำเขื่อนแก้ว
และคณะ เข้าร่วม การประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ณ ศูนย์แสดงสินค้า
นานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ในหัวข้อ การพัฒนายุทธศาสตร์สุขภาพระดับปฐมภูมิ พรบวิชาชีพก้าวไกล นักสาธารณสุขไทยก้าวหน้า ปวงประชาสุขภาพดี
ประชุมวิชาการ
การพัฒนายุทธศาสตร์สุขภาพระดับปฐมภูมิ พรบวิชาชีพก้าวไกล นักสาธารณสุขไทยก้าวหน้า
ปวงประชาสุขภาพดี ระหว่างวันที่16-18 กันยายน 2558 ณ
ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ อ.เมือง จ. เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 ในการประชุมวิชาการ
การพัฒนายุทธศาสตร์ระบบสุขภาพระดับปฐมภูมิ “พ.ร.บ.วิชาชีพก้าวไกล นักสาธารณสุขไทยก้าวหน้า ปวงประชาสุขภาพดี
หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย” ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2558 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคีเครือข่ายหมออนามัยได้แถลงข่าว “ปฏิญญาภาคีหมออนามัย ร่วมใจสร้างสุขภาวะ หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย” เพื่อแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนร่าง
พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ร่วมป้องกันเด็กและเยาวชนจากไกลบุหรี่และลดอัตราการบริโภคยาสูบของประชาชน
ซึ่งเป็นความร่วมมือของ 6 องค์กร
คือ ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมาคมหมออนามัย
สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข สมาคมชมรมสาธารณสุข และ เครือข่ายหมออนามัยในมหาวิทยาลัย
โดยมีนายปรเมษฐ์ จินา ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย
เป็นประธานแถลงข่าวพร้อมนำกล่าวปฏิญญาเพื่อแสดงพลังสนับสนุนร่วมกันกว่า 10,000 คนจากทั่วประเทศ
นายปรเมษฐ์ กล่าวว่า
ผลิตภัณฑ์บุหรี่เป็นสินค้าที่ทำให้ผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรถึงปีละมากกว่า
50,000 คน พบว่า ชายไทยยังสูบบุหรี่สูงถึงร้อยละ 40 จำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยมีจำนวนถึง 11.4 ล้านคน แต่ละปีมีเยาวชนเสพติดบุหรี่ใหม่ 200,000
คน ซึ่ง140,000
คน จะเสพติดบุหรี่ไปตลอดชีวิต ในขณะเดียวกันบริษัทบุหรี่ได้มีวิวัฒนาการด้านการตลาดรวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ๆ
เพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชน และได้พยายามแทรกแซงกระบวนการ
ออกกฎหมายของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
นายปรเมษฐ์ กล่าวต่อว่า สาระสำคัญของประกาศปฏิญญาร่วมกันในครั้งนี้ คือ 1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เร่งรัดการพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ โดยรู้เท่าทันข้อมูล ข้ออ้าง
ที่บิดเบือนของบริษัทบุหรี่และไม่ยินยอมให้บริษัทบุหรี่แทรกแซง ในขั้นตอนต่าง ๆ
ของการออกกฎหมายให้ล่าช้า หรือแปรญัตติในขั้นกรรมาธิการเพื่อให้กฎหมายอ่อนลง 2.จะร่วมกันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่
อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น อันจะส่งผลต่อให้การควบคุมการบริโภคยาสูบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.จะร่วมกันสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินการควบคุมการบริโภคยาสูบ
ในทุกระดับ ในทุกชุมชนและทุกองค์กร
4.จะร่วมมือกันส่งเสริมให้การไม่สูบบุหรี่ เป็นค่านิยมและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมไทย
เพื่อสุขภาวะของประชาชนไทย ทุกเพศ ทุกวัย อย่างทั่วถึงและเสมอหน้ากัน
นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า
มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัยและภาคีเครือข่าย 738 องค์กร รวมทั้ง อสม.ทั่วประเทศ
ได้รวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่
ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม
ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อนส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา
และเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา เพื่อประกาศเป็นกฎหมายต่อไป
หากมีผลบังคับใช้จะทำให้การดำเนินงานการควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศไทย
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดจำนวนคนไทยเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่เกิดจากการสูบบุหรี่
นายธาดา กล่าวว่า ในระหว่างที่รอกระบวนการพิจารณาคาดว่า
จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
ทุกคนยังร่วมลงชื่อสนับสนุนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา
ภาคีเครือข่ายหมออนามัยทั่วประเทศได้ร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างฯมาตั้งแต่เดือน
พฤษภาคม 2558 จนถึงขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้ว 12,551,775 รายชื่อ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ย.58) โดยตั้งเป้าหมายไว้อย่างน้อย 15 ล้านรายชื่อ
และจะมีการจัดกิจกรรมรวมพลังแสดงตัวตนของคนที่ลงชื่อสนับสนุน
เพื่อให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของคนไทยที่ต้องการปกป้องสังคมไทยให้ปลอดภัยจากบุหรี่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ ยังคงขอเชิญชวนคนไทยทุกคน
ร่วมลงชื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ได้ที่ เครือข่ายนักขับเคลื่อนการควบคุมยาสูบระดับจังหวัด
(นสค.) ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และ ที่ www.vote4tobaccolaw.com เพื่อให้ได้ 15 ล้านรายชื่อต่อไป
No comments:
Post a Comment