6/26/09

สธ.ยกระดับสถานีอนามัยสู่โรงพยาบาลตำบล 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ





วันที่ 19 มิถุนายน 2552 ภาคเช้า เพื่อเข้าร่วมการ ประชุมวิชาการ ซึ่ง สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข จัดโครงการประชุมวิชาการ “95 ปี สถานีอนามัย: ทศวรรษใหม่กับการเปลี่ยนแปลง” ครั้งที่ 3 เป็นวันที่ 2 ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จังหวัดนครราชสีมา มีจนท.จาก สถานีอนามัย ในภาค อีสานเข้าร่วมประชุม ประมาณ 1,600 คน ประธานการประชุม โดย ฯพณฯวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในความเห็นของผม ตั้งแต่ รับราชการมา กว่า 20 ปีแล้ว พึ่งมี ฯพณฯวิทยา แก้วภราดัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เข้าใจความรู้สึก นึกคิด และเข้าถึงใจ ของพวกเรา ชาว หมออนามัย มากกว่า รัฐมนตรีคนใดๆ ที่ผ่านมา เพราะในอดีตที่ผ่านมา งบประมาณจะถูกทุ่มเท ให้ความสำคัญไปกับเรื่องการรักษาพยาบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะรู้จักเพียง แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาล เท่านั้น มีบางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ สถานีอนามัย แต่ ยังไม่มีรัฐมนตรีคนใด ที่เข้าใจ คำว่า สถานีอนามัย อย่างแท้จริง พึงจะมี ฯพณฯวิทยา แก้วภราดัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คนปัจจุบัน ฉะนั้นหากที่ผ่านมาคือ dark age ยุคมืด สำหรับ สถานีอนามัย ฉะนั้นยุคนี้ จึงถือว่า ได้ว่าเป็น open age หรือยุค เปิดฟ้าใหม่ สำหรับพวกเรา สถานีอนามัย ที่ถือว่าเป็น การเปิดฟ้าใหม่ เพราะเพียงเป็นการเปิดเส้นทางเท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเรา จะต้องช่วยกันก็คือ เส้นทางยังไม่มี พาหนะยังไม่มี เชื้อเพลิงสำหรับพาหนะยังไม่มี และเสบียงสำหรับการเดินทางของพวกเรายังไม่มี ฉะนั้น สิ่งที่จะเป็น เส้นทางเดิน เป็นพาหนะ และเป็นเสบียงสำหรับการเดินทาง หรือการปฏิบัติงานเพื่อประชาชน ซึ่งเราได้ร่วมมือร่วมใจปฏิบัติงานกันด้วยความอดทน จนบางครั้งต้องทนอด มาตลอดระยะเวลากว่า 95 ปีนั้น เราจะต้อง มี ร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ และ ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพการสาธารณสุข เราต้องช่วยกันนะครับ มิเช่นนั้น พี่น้อง หมออนามัยเรา จะต้อง ทนอด อย่างนี้ต่อไปอีกนาน ทนอดอย่างไร กระทรวงสาธารณสุข ให้พวกเรารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก 1 ราย ด้วยต้นทุน 52 บาท ส่วน โรงพยาบาล ท่านให้ งบประมาณด้วยอาการเดียวกัน ยาเท่ากัน คนไข้หายเหมือนกัน(แถมด้วยระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาลที่นานมากๆไปอีก) ท่านให้งบประมาณ เกือบ 400 บาท ท่านให้ งบประมาณ พวกเรา ในการบริหารจัดการ เพื่อให้ บรรลุ KPI ของกระทรวง ซึ่งมีมาจากทุกกรมทุกกอง 98 KPIs ด้วยเงินเพียงเดือนละ 12,000 บาท ท่าให้พวกเราชาวหมออนามัย นั่งดู แพทย์รับเงิน เพิ่มพิเศษเดือนละ 70,000 บาท นั่งดู พยาบาล รับเงิน พตส.และ เงินเพิ่มพิเศษอื่นๆอีก เดือนละ6,000 บาท นั่งดู สายงานอื่นๆ รับ ค่าวิชาชีพอีกเดือนละ 3,500 บาท แต่พวกเรา นั่งรับแต่รายงานและคำสั่ง เพื่อให้ บรรลุเป้าหมายงาน 98 KPIs ของท่าน หลังจากนั้น ท่านก็จะนำผลงานจากพวกเราไปใช้ประโยชน์ เพื่อพวกท่าน โดยที่ทิ้งให้พวกเราต้องทำงานเหล่านั้น ในฐานะมนุษย์พันธุ์พิเศษโดยมี หมออนามัยทำงานที่ สถานีอนามัยเพียง 2 – 3 คนเท่านั้น (นายแพทย์พูนชัน จิตอนัตวิทยา) ตามความเห็นของผมแล้ว บรรยากาศ การปราศรับ ให้โอวาทของ พณฯ วิทยา แก้วภราดัย วันนี้มีเนื้อหาที่ดีมากๆ ประเมินได้จาก ในเวลา กว่า 2 ชั่วโมงที่ท่านพูดนั้น รู้สึกว่าจะสั้นไป แม้ว่าจะล่วงเลยเวลาไปถึง เที่ยงครึ่ง แต่ผู้ที่เข้าร่วมประชุมกว่า 1,600 คน ไม่มีใครลุกออกไปเลย และท่านได้รับเสียงปรบมือที่ดังมากๆเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 3 นาที


วันที่ 19 มิถุนายน 2552 : สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรร่วม ในการเสวนา ในเวทีการ
ภาคบ่าย นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรร่วม ในการเสวนา ในเวทีการ ประชุมวิชาการ “95 ปี สถานีอนามัย: ทศวรรษใหม่กับการเปลี่ยนแปลง” ครั้งที่ 3 เป็นวันที่ 2 ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับวิทยากรที่มีชื่อเสียงทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และวิทยากรในจังหวัดอาทิ นพ.สำเริง แหยงกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น ในรายการนี้ประทับใจการจัดงานที่ดีของ คุณทัศนีย์ บัวคำ และประทับใจการดำเนินรายการของ นายแพทย์พูนชัน จิตอนัตวิทยา ซึ่งเวทีนี้เป็นเวที่ที่คุ้มค่ามากๆ ซึ่งพวกเราอยู่จนถึงปิดงานเลยทีเดียว ทั้งนี้นอกจากตัวผมเองแล้ว ยังประเมินจากเพื่อนๆที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน เช่น คุณดรรชนี เขียนนอก บอกว่า ตั้งแต่รับราชการมากว่า ปี “การประชุมครั้งนี้ได้รับความประทับใจและคุ้มค่ามากที่สุด ” คุณจำนรรจา บุญแจ้ง บอกว่า “ ใครที่กลับก่อน หากได้รับทราบเนื้อหาการอภิปรายกลุ่มในภาคบ่ายและการตอบคำถามของวิทยากรต่างๆแล้ว จะรู้สึกเสียใจมาก ” คุณอภิญญา บุญถูก บอกว่า“ สิ่งที่ได้ในวันนี้ คุ้มค่ากับเงินที่ทางราชการจ่ายจริงๆ” และที่สำคัญ พวกเราได้ไปไหว้ สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีด้วย

ตอนเย็น สื่อมวลชนลงข่าว ...รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุม 95 ปี สถานีอนามัย ทศวรรษใหม่ กับการเปลี่ยนแปลง ยกระดับสถานีอนามัยสู่โรงพยาบาลตำบล 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมงาน 95 ปี สถานีอนามัย ทศวรรษใหม่ กับการเปลี่ยนแปลงที่สมาคมวิชาชีพสาธาณสุข จัดขึ้น มีเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยจาก 19 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมประชุม เพื่อผลักดันการเสนอยกร่างกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. วิชาชีพการสาธารณสุข และ พ.ร.บ. ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแห่งชาติ นอกจากนี้ในเดือนกันยายนนี้ รัฐบาลจะนำร่องสถานีอนามัยที่มีความพร้อม อำเภอละ 1 แห่ง ยกฐานะเป็นโรงพยาบาลตำบล เปิดพร้อมกัน 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานีอนามัยบางแห่งที่มีความพร้อม ขณะนี้ได้เริ่มให้บริการแล้ว โดยเบื้องต้น สปสช.จะจัดงบประมาณให้สถานีอนามัยแห่งละ 2 แสนบาทและภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งที่จัดงบประมาณเพิ่มให้สถานีอนามัยที่ยากจนอีก 1 ล้านบาท...

No comments:

Post a Comment