งานศพหลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ศรัทธาบุญ สาธุชน

วันที่ 14 มกราคม 2555 หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ศรัทธาบุญ สาธุชน

วันนี้ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ไปพร้อมกับ นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง เข้าร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ศรี มหาวีโร งานพระราชทานสรีระสังขารพระเทพวิทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ณ วัดประชาคมวนาราม(ป่ากุง) อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพลิงสรีระสังขาร พระเดชพระคุณ พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ณ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) เวลา 16.00 น. โดยมีพุทธศาสนิกชน จากทั่วสารทิศเข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น กว่า 3 แสนคน

ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่วางดอกไม้จันท์ไว้รอบสระใหญ่ เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนคนที่เข้าร่วมงาน

สำหรับประชาชนที่รอคอยขึ้นวางดอกไม้จันท์บนเมรุ นั้น ต้อง จนถึงเกือบ 3 ทุ่ม จึงหมด

พระเทพวิทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่ากุง ศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งละสังขารตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 54 ด้วยโรคหัวใจรั่ว และโรคชรา สิริอายุได้ 94 ปี 3 เดือน 13 วัน

ทั้งนี้ เมรุชั่วคราวในการประกอบพิธีในครั้งนี้ สร้างเป็นเมรุกลางน้ำ “สระใหญ่” พื้นที่ขนาด 18 ไร่ กลางวัดป่ากุง เพื่อใช้เป็นที่พระราชทานเพลิงศพพระเทพวิสุทธิมงคล หรือ หลวงปู่ศรี มหาวีโร สร้างจากทรัพย์ศิษยานุศิษย์ทั้งที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศ และผู้เคารพนับถือหลวงปู่ศรี มหาวีโร ร่วมกันกันบริจาคสร้างเป็นเงินจำนวนกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเมรุชั่วคราวนี้ หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพ และประกอบพิธีสามหาบเก็บอัฐิแล้ว จะใช้เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ให้พุทธศาสนิกชน และอนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ต่อไป.

ประวัติหลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง

พระเทพวิทธิมงคล หรือ หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ท่านเลื่อนสมณศักดิ์จากพระราชสังวรอุดม

หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง พระป่าสายกรรมฐานที่น่ากราบไหว้ พระราชสังวรอุดม (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด เดิมชื่อ ศรี เกิดในสกุล ปักกะสีนัง เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๖๐ ตรงกับวันศุกร์ เดือนหก ปีมะเมีย ที่บ้านขามป้อม อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม โยมบิดาชื่อ อ่อนสี โยมมารดาชื่อ ทุม ช่วงปฐมวัย ท่านเข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาล วัดบ้านขามป้อม จบชั้นประถมปีที่ ๖ จากนั้นได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม จนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๐ ต่อมาท่านได้เข้ารับราชการเป็นครูอยู่ระยะหนึ่ง จึงได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์รังสรรค์ บ้านป่ายาง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี พระโพธิญาณมุนี (ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนา เป็นภาษามคธว่า "มหาวีโร"

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล เจดีย์หินทราย(โบโรบูโด) สัญลักษณ์ที่คงอยู่คู่ธรรมหลวงปู่ศรี มหาวีโร

พระเทพวิทธิมงคล หรือ หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ท่านได้ทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้คือหลักธรรมที่ท่านสั่งสอน ส่วนศาสนวัตถุ ที่พวกเราได้ยินชื่อกัน เป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ของโลกไปแล้ว 2 อย่างคือพระมหาเจดีย์ชัยมงคล และเจดีย์หินทราย(โบโรบูโด)

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทางจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ80 ก.ม มีลักษณะเป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสมกันระหว่างพระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม ใช้งบประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร”

เจดีย์หินทราย วัดป่ากุง หรือ บรมพุทโธเมืองไทย

เจดีย์หินทรายในวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ซึ่งเป็นสถานที่จำพรรษาของพระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ซึ่งบริเวณวัดกินเนื้อที่หลายร้อยไร่ ภายในบริเวณวัดนอกจากจะมีศาลา กุฏิ และสถานที่เพื่อประกอบกิจของสงฆ์แล้ว ยังมีเจดีย์หินทรายที่วิจิตรสวยงาม อยู่ภายในบริเวณวัดด้วย

• โดยชั้นแรกของเจดีย์หินทรายจะเป็นประวัติของเจ้าอาวาสคือหลวงปู่ศรี มหาวีโร ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน แกะสลักด้วยหินทราย
• ชั้นบนจะเป็นสถานที่บรรจุอัฐฐิของเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
• ในส่วนบริเวณโดยรอบร่มรื่นและสวนงาม มีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น นกยูง กวาง ม้า ฯลฯ เหมาะสมกับเป็นสถานที่ในการประกอบสมาธิ ปลีกวิเวก และพักผ่อนหย่อนใจ

เจดีย์หินทรายจำลองแบบมาจากมหาเจดีย์โบโรบูโด(บรมพุทโธ) ที่ประเทศอินโดนีเซีย สำหรับที่มาที่ไปและแรงบันดาลใจนั้น เกิดเมื่อครั้งที่ "พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)" พระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาแห่งภาคอีสาน ได้ไปจำพรรษาที่เสนาสนะป่า บนหลังเขาเมืองปุณจะ ประเทศอินโดนีเซีย ในพรรษาที่ 43 พุทธศักราช 2531 เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2547 ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากคณะสงฆ์วัดป่ากุงและวัดสาขา ตลอดจนศิษยานุศิษย์ ผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงปู่ พร้อมใจกันสละกำลังกายและกำลังทรัพย์ ทำงานทั้งกลางวันกลางคืน ถวายเป็นการบูชาคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ตลอดจนเทิดทูนความดีที่หลวงปู่ได้ประพฤติปฏิบัติ ดำเนินการแล้วเสร็จถวายเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 90 ปี 60 พรรษา พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2549

เจดีย์หินทรายแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ "วัดประชาคมวนาราม(วัดป่ากุง)" ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ห่างจากตำบล หนองแสนไปทางทิศตะวันออกระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นเส้นทางลัดไปจังหวัดร้อยเอ็ด

ซึ่งทั้ง พระมหาเจดีย์ชัยมงคล และเจดีย์หินทราย(โบโรบูโด) นี้ เป็นสถานที่ที่ผม ได้พูดกับเพื่อนๆ ญาติ และคนรู้จัก เอาไว้ว่า สถานที่แห่งนี้ ก่อนตาย คุณต้องได้ไปเยือนสักครั้ง