4/14/13

7 เมย 2556 ทัวร์ เวียงจันทน์ สปป.ลาว: พ่อถวิล จันทร์สว่าง และครอบครัว


7 เมย 2556 ทัวร์ เวียงจันทน์ สปป.ลาว: พ่อถวิล จันทร์สว่าง และครอบครัว
วันที่ 7 เมษายน 2556 ผมนายพันธุ์ทอง  จันทร์สว่าง ไปพร้อมกับ ภรรยานางอริยวรรณ จันทร์สว่าง สมทบกับ คุณพ่อถวิล จันทร์สว่าง และคณะ จาก บ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร
ไปท่องเที่ยว เสริมสร้าง ความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ณ  กำแพงนครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (The Lao People's Democratic Republic)  ลาว  สปป.ลาว ใน Trip ที่ชื่อว่า พ่อ ถวิล น เวียงจันท์ TAWIN in Vientiane
 พวกเราเดินทางโดยใช้บัตรผ่านแดน (Border Pass)  โดยใช้หลักฐานคือ บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนาและรูปถ่าย 2 ใบ เสียค่าธรรมเนียม 40 บาท ซึ่ง ตามสิทธืแล้ว พวกเรา สามารถพำนักที่ สปป.ลาวได้ 3 วัน(2คืน)  แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามเดินทางออกนอกเขตนครหลวงเวียงจันทน์






สถานที่ ที่คณะของ พ่อถวิล จันทร์สว่างไปท่องเที่ยว ใน  กำแพงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว อาทิเช่น
พระธาตุหลวง กรุงเวียงจันทน์
 พระธาตุหลวง เป็นพระธาตุใหญ่และสวยงามที่สุดใน สปป.ลาว สร้างโดยช่างโบราณลาว มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมและเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมของลาว ล้านช้าง ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ประดิษฐานอยู่ ส่วนองค์พระธาตุหลวงเหลืองอร่ามดุจทองที่ปรากฏด้านหลังอนุสาวรีย์นั้น เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในแต่ละปีจะมีงานนมัสการพระธาตุหลวงที่ยิ่งใหญ่ในคืนเพ็ญเดือน 12 ถือเป็นงานยิ่งใหญ่ระดับชาติ 









หอคำ  กรุงเวียงจันทน์
 หอคำสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เจ้ามหาชีวิตที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่งของลาว ทั้งนี้เป็นพระประสงค์ของ พระองค์ ที่เมื่อต้องเสด็จพระราชดำเนินจากเมืองหลวงคือ นครหลวงพระบาง เพื่อประกอบพระราชพิธีงานบุญพระธาตุหลวง ณ นครเวียงจันทน์ จึงทรงสร้างหอคำขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับ และต่อมาเมื่อทรงย้ายเมืองหลวงมา ณ นครเวียงจันทน์ พระองค์จึงทรงใช้หอคำเป็นพระราชวังอย่างถาวร เพื่อปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสืบมา จนกระทั่งสิ้นแผ่นดินพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชหอคำก็ยังคงเป็นพระราชวังหลวง ที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตองค์ต่อๆมา
หอคำ เป็น อาคาร รูปทรงสวย จำลองแบบมาจากพระราชวังแวร์ซาย แห่งกรุงปารีส แต่เดิมเป็นพระราชวังที่ประทับของสมเด็จเจ้ามหาชีวิตของลาว หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการใช้เป็นทำเนียบของประธานประเทศ ปัจจุบันใช้เป็นที่พักรับรองอาคันตุกะของประเทศ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยเสด็จประทับ เนื่องในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน เยี่ยมเยียนประเทศลาว หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว   หอคำแห่งนี้ หากมองมาจากยอดของอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (ประตูชัย) ในยามเช้าแล้ว จะได้ภาพที่สวยงาม




อนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีพระราชประวัติดังนี้ สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช อยู๋ในราชวงศ์ ล้านช้าง พระราชสมภพ เมื่อ พ.ศ. 2077 ณ นครหลวงพระบาง ราชอาณาจักรล้านช้าง และสวรรคต ใน พ.ศ. 2114 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ครองราชย์ พ.ศ. 2089 - พ.ศ. 2090 และ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้าง พ.ศ. 2091 - พ.ศ. 2114 (ล้านช้าง) เคียงคู่กับพระมาเหสี 2 พระองค์ ได้แก่ พระตนคำและพระตนทิพ  อนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ชาวลาวให้ความเคารพ และยังมีความสวยงามมาก เนื่องจากตัวอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชนั้น ประดิษฐาน ใกล้ตัววัดพระธาตุหลวง ณ นครเวียงจันทร์ นั้นเอง ซึ่งตัววัดมีสีเหลืองทอง สว่างสดใส อีกทั้งยังมีประติมากรรมในยุคสมัย ล้านนา ที่งดงามอีกด้วย




ประตูชัย กรุงเวียงจันทน์
 เป็นอนุสรณ์สถานและเป็นสัญลักษณ์ของนครหลวงเวียงจันทน์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1962 (พ.ศ.2505) ตั้งอยู่บนถนนล้านช้าง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นบันไดไปบนอนุสาวรีย์เพื่อชมทิวทัศน์ของตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ได้  ประตูชัยเป็นจุดชมวิวเวียงจันทน์ที่สวยงาม ใครมาเที่ยวเวียงจันทน์ควรที่จะต้องมาเที่ยวที่นี่ด้วยครับ ที่นี่เขามีการเปิดน้ำพุและเสียงเพลงตามจังหวะของน้ำพุด้วย เป็นน้ำพุดนตรีที่น่าชื่นชอบจริงๆ ผมไปยืนอยู่ด้านบนสุดของประตูชัย และมองวิวลงมาด้านล่าง ชมน้ำพุฟังเพลงลาวไปด้วย ขอบมากๆครับ ไกด์ชาวลาว บอกว่า วันปกติ น้ำพุจะเปิดช่วง 18.00-20.00 น. ส่วนในวันหยุดจะเปิดกลางวันด้วย น้ำพุกลางคืนเขาว่าสวย   แต่คณะเราไม่เห็น เห็นเฉพาะกลางวันครับ
จากข้อมูลข้างในทราบว่า ประตูชัย เป็นสถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเวียงจันทน์สุดถนนล้านช้าง ถูกสร้างเสร็จในปี พ.. 2512 เป็นประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้งคล้ายถนนใหญ่ใจกลางเมืองที่ทุกเส้นทางจะตรงมาที่แหล่งนี้ การก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนคอนกรีต ที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน มีการออกแบบลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย แบบศิลปะที่รับอิทธิพลจากอินเดีย และล้านช้าง นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์เมืองเวียงจันทร์ ด้านบนยอดของประตูชัยอีกด้วย  ด้านบนประตูชัย แบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก ชั้นบนสุดต้องเดินด้วยบันไดวนจนถึงชั้นบนสุด หากเดินทางไปได้จังหวะก็จะได้เห็นน้ำพุและแสงสีในยามเย็นอย่างงดงามอีกด้วย














หอพระแก้ว กรุงเวียงจันทน์
หอพระแก้ว สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรล้านนาทาภาคเหนือของไทย เพราะหอพระแก้วใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต สมัยที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชอัญเชิญมาจากเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ 2101 และอยู่ที่เวียงจันท์นานถึง 225 ปี จึงถูกอัญเชิญกลับพระนคร (สยามประเทศ) โดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ในสมัยที่ยกทัพมาตีกรุงเวียงจันทน์ 
หอพระแก้วที่กรุงเวียงจันทน์นี้ เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่มีความงดงามมาก ทั้งภายในและภายนอกไม่ได้ทาสีหรือใช้กระจกสีแต่งประดับเหมือนกับวิหารในเมืองไทย จึงมองเห็นเนื้อปูนที่ผสมออกเป็นสีน้ำตาลปนแดง ดูคล้ายกับเป็นของเก่าที่ดูเคร่งขรึม ออกไปแนวคลาสสิค ภายในวิหารหอพระแก้วมีของเก่าแก่ล้ำค่ามากมายเช่นพระพุทธรูปปางต่างๆ ส่วนภายนอกก็ตั้งแสดงวัตถุโบราณในยุคขอม เช่นศิลาจารึก พระพุทธรูป และเทวรูปต่างๆ ที่งดงาม ล้ำค่ามาก นึกในใจว่าหากเป็นเมืองไทยก็คงไม่ยอมนำมาตั้งให้เสี่ยงต่อการโจรกรรมแบบนี้แน่ 
... จากหอพระแก้วหากเดินข้ามถนนไป เป็น วัดสีสะเกด จากข้อมูลบอกว่า มีพระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่รายล้อมรอบระเบียงคดเกือบทุกองค์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก บางองค์ก็เป็นโลหะสัมฤทธิ์เก่าแก่มากเช่นกัน วัดนี้สร้างในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น จึงมีศิลปะคล้ายกับประเทศไทย...








สภาพทั่วไป กำลัง ก่อร่างสร้างเมือง ทั้ง ถนน หนทาง ตึก อาหาค สถานที่ราชการ ห้างร้าน บริษัท ต่างๆ รวมทั้ง ศูนยืการค้า ย่าน ไชน่าทาวน์ ชานเมือง ที่กำลังก่อสร้างด้วย โดยให้สัมปทานแก่ ประเทศจีนเป็นผู้สร้างเมือง เป็นต้น















ขอบพระคุณ พาหนะ เดินทาง ซึ่งเป็น รถยนต์ ของลูกๆ  คุณพ่อถวิล จันทร์สว่าง จำนวน 4 คัน  รวม 20 คน
คันที่ 1 ครอบครัว นายณัฐวุฒิ  จันทร์สว่าง และครอบครัว นายสุริยา เหมือนทอง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสีสุก
คันที่ 2 ครอบครัว นายพันธุ์ทอง  จันทร์สว่าง  และครอบครัว คุณพ่อถวิล จันทร์สว่าง
คันที่ 3 ครอบครัว นายบุญหลาย  จันทร์สว่าง  
คันที่ 4 รถ อัยการ อินทราพร จันทร์สว่าง และ หลานๆ 
ออกจากบ้านสีสุก ตี 2 ครึ่ง รวมพล กัน รับประทานอาหารเช้า ที่ อาคาร OTOP ในตัวเมือง หนองคาย  
เช่าเหมารถตู้ 2คัน x 1,500 บาท รับประทาน เฝอ ชามละ 100 บาท ข้าวผัด จานละ 100 บาท ร้านอาหารกลางกรุง เวียงจันทน์ ขากลับ แวะ ตลาดผ้า บ้านาข่า อุดร ธานี กลับถึง บ้าน 5 ทุ่ม 

No comments:

Post a Comment