7/27/13

23 กค.2556 หลายคนUnseenเกล็ดลิ่นใหญ่สมุนไพรไทย:ดอก ใบ สวยงาม

 23 กค.2556 หลายคนUnseenเกล็ดลิ่นใหญ่สมุนไพรไทย:ดอก ใบ สวยงาม
วันที่ 22-23 กรกฎาคม 2556 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง พร้อมครอบครัว ไปพักผ่อน ทำสวน ทำไร่ เพื่อความเพลิดเลิน ของชีวิต ในเทศกาลวันหยุด ณ สวน หรือ ไร่ เล็กๆ ของเรา แหล่ง ฝึกประสบการณ์ ชีวิต ของ ลูกๆ บ้านบกน้อย ของเรา
วันนี้ เรียนเรื่อง การบำรุง รักษา และอนุรักษ์ พันธุ์ไม้ ท้องถิ่น ชื่อ เกล็ดลิ่นหรือเกล็ดลิ่นใหญ่ ที่มีอยู่ทั่วไป แต่ หากไม่    อนุรักษ์ ไว้ ในอนาคต อาจสูญพันธุ์ ได้   เกล็ดลิ่นหรือเกล็ดลิ่นใหญ่ มีต้น ดอก และใบ สวยงาม ตามธรรมชาติ
ตามภาพที่เห็น  หลายคนนำไปปลูก เป็นไม้ประดับ ตามบ้าน ตามสวน
อาจจะเป็น UNSEEN สำหรับ บางคน หรือ หลายๆคนก็ได้  เพราะ มันเป็น พันธุ์ไม้ประจำถิ่น ของ แถบภาคอีสานใต้ของเรา 
สำหรับผม เห็นต้นไม้ประเภทนี้ตั้งแต่เป็นเด็ก เริ่มจำความได้ จะเห็น คุณพ่อถวิล จันทร์สว่าง นำมาใช้เป็นไม้มงคล ในงานพิธีต่างๆของครอบครัว อาทิเช่น วางเสาเอกการปลูกสร้าง
และ ทุกๆปี ในดูกาล การเก็บเกี่ยว ก่อนจะนำข้างขึ้น เล้า หรือ ยุ้ง ฉาง ต้อง ต้นไม้ประเภทนี้ มา เสียไว้ตาม คาน ของ ยุ้ง ฉาง ทั้ง สี่ทิศ เพื่อเป็นสิริมงคล และจำไม่นำออก จนกว่า จะถึง วันเพ็ญ เดือนสาม ในปีนั้น ๆ ซึ่งจะ สามารถ นำข้าว ออกจาก เล้า หรือ ยุ้ง ฉางได้ เล้า หรือ ยุ้ง ฉาง  ฉะนั้น จึงต้อง สำรองข้าว ไว้ ให้พอกิน จนถึง วันเพ็ญ เดือนสาม
คุณพ่อบอกว่า ถ้า หาก นำข้าว ออกจาก เล้า หรือ ยุ้ง ฉาง ก่อนกำหนด ในวันเพ็ญ เดือนสามจะ คะลำ
(คะลำ แปลว่า ไม่เป็นมงคล หรือ ไม่เจริญ ก้าวหน้า หรือ ไม่ประสบผลสำเร็จ หรือไม่สบาย ไม่สบายใจ )






สรรพคุณด้านสมุนไพร
ขอบพระคุณ ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
รวบรวม สรรพคุณ ของ พันธุ์ไม้ประเภทนี้ ด้าน หมอยาพื้นบ้าน ไว้  เช่น
สรรพคุณ เกล็ดลิ่นหรือเกล็ดลิ่นใหญ่
หมอยาพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี  ใช้  ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ริดสีดวงทวาร
หมอยาพื้นบ้านจังหวัดมุกดาหาร  ใช้  ราก แก้ไข้
ยาพื้นบ้าน  ใช้  ราก รสจืดเฝื่อน ต้มน้ำดื่ม แก้โรคตับพิการ (อาการผิดปกติของตับ) ผสมกับรากกระดูกอึ่ง รากกาสามปีกใหญ่ รากโมกมัน และรากหางหมาจอก ต้มน้ำดื่ม แก้คุณไสย (มีอาการผอมแห้ง ใจสั่น บางเวลาเพ้อคลั่ง ร้องไห้) เปลือกราก รสจืดเฝื่อน ตำพอกแก้ปวด แก้เคล็ดบวม ใบ รสจืด ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ปัสสาวะดำ แก้ไข้จับสั่น
รายละเอียด  ที่ นี่

No comments:

Post a Comment