6ส.ค.2556 รวมคนรวมเงินรวมงาน:รวมพลังเป็นหนึ่ง คปสอ.คำเขื่อนแก้ว
วันที่ 6 สิงหาคม 2556 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง เข้าร่วมประชุม คณะกรรมการ คปสอ.
คำเขื่อนแก้ว ณ ห้องประชุม กาญจนาภิเษก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
ประธานการประชุม โดย นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
โดยมี
พญ.เพชรวันชัย จางไววิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว นำคณะกรรมการบริหาร
โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จำนวน 26 คน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง
และ หัวหน้ากลุ่มงาน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว เข้าร่วมประชุม
โดยพร้อมเพรียงกัน
ในเวทีการประชุม มีการนำเสนอ
แนวคิด และเนื้อหาเชิงวิชาการ ให้กับ ผู้ร่วมประชุม ได้รับทราบ นำเสนอโดย
ภก.กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมชุมชน โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
“เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ภก.กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี นำเสนอผลงานในนามของ คปสอ . ของเรา
ต่อที่ประชุม ณ โรงแรม เจพี เอ็มเมอรัลด์
นำเสนอได้ดีมากๆ ผม และ ที่ประชุมในวันนั้น ประทับใจ มาก จึง ได้เชิย
ให้ท่าน มานำเสนอ ให้ที่ประชุม พวกเราได้รับทราบร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
ในวันนี้ก็เช่นกัน ภก.กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี นำเสนอได้ดีมาก หากพวกเราสามารถนำไปปฏิบัติได้
ผมเชื่อมั่นว่า คปสอ.คำเขื่อนแก้วของเรา
จะเป็นเครือข่ายบริการสุขภาพระดับดีเยี่ยมที่สุดในประเทสไทยต่อไป” นายวิทยา เพชรรัตน์
สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว กล่าว
วาระการประชุมที่สำคัญคือ การปฏิบัติงานร่วมกันที่เป็นรูปธรรม
ภายใต้ Concept
รวมคนรวมเงินรวมงาน:
รวมพลังเป็นหนึ่งคปสอ.คำเขื่อนแก้ว
การพิจารณาจัดสรรงบประมาณ
ตามหมวดกิจกรรม การพัฒนาร่วมกัน
มติที่ประชุม ให้คณะทำงานของ คปสอ.
ที่ได้รับมอบหมาย จัด ทำแผนงาน โครงการ เสนอ ต่อ ที่ประชุม คปสอ.ในครั้งต่อไป
ตามกิจกรรมงบประมารดังนี้
1. กิจกรรมการแก้ปัญหา
ตามบริบทของพื้นที่ จำนวน 62,000 บาท โดย
ผู้รับผิดชอบ
โดย นางชนัญชิดา จุฑาสงฆ์
หัวหน้างานส่งเสริมสุขภาพและรักษาพยาบาล
นางนัยนา ดวงศรี หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
2. การพัฒนาศักยภาพ
อสม . 109,000 บาทโดย
นายศุภสิทธิ์
ตั้งจิต หัวหน้างานสุขภาพภาคประชาชนสสอ.คำเขื่อนแก้ว
นางภัทรวรรณ
จันทร์ศิริ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
3. การออกปฏิบัติงาน
ณ ศูนย์บริการร่วม 5 เครื่อข่าย ( 5 Node
บริการประกอบด้วย ดงแคนใหญ่ กู่จาน ย่อ โพนทัน สงเปือย ) โดย ทีมแพทย์และสหวิชาชีพ
จาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว เป็นหัวหน้าทีม
ผู้ประสานการออกบริการโดย
นางอนงค์ลักษณ์ ฤทธิวุฒิ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ร่วมกับ
นางชนัญชิดา จุฑาสงฆ์
ผู้ประสานการจัดยาและเวชภัณฑ์สนับสนุน
โดย ภก.กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี ร่วมกับ นายทศพลนิติอมรบดี
4. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ODOP: 100,000 บาทโดย
นางอภิญญา
บุญถูก หัวหน้างานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สสอ.คำเขื่อนแก้ว
นางอนงค์ลักษณ์
ฤทธิวุฒิ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
5. การพัฒนาศักยภาพ
นสค. 114,000 บาทโดย
นายศุภสิทธิ์
ตั้งจิต หัวหน้างานสุขภาพภาคประชาชนสสอ.คำเขื่อนแก้ว
ภก.กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมชุมชน
โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
6. การบริหารและพัฒนาเครือข่าย
50,000 บาท โดย นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง
ทรงพล
พลไชย โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว กิจกรรม CBL
มติที่ประชุม
รับทราบ
เรืองเพื่อพิจารณา เรื่องการใช้งบประมาณ
ในการออกให้บริการ ณ Node บริการ
นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
แจ้งว่าในแต่ละปี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 16 แห่ง
จะได้รับเงินงบประมาณสำหรับค่ายาและเวชภัณฑ์ประเภทผู้ป่วยนอก ปีละประมาณ 2,800,000
บาท แต่สภาพปัญหาการดำเนินงานที่ผ่านมา
ทีมแพทย์จะสั่งจ่าย ยา และเวชภัณฑ์ จาก Stock ของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ที่เป็น Node ทำให้ จุดบริการต้องรับภาระเพิ่มขึ้นทั้งการให้บริการผู้ป่วยกลุ่มนี้
ที่เดิมต้องไปรับบริการที โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว แต่ เมือมารับริการที่ Node
ทำให้เพิ่มความแออัดที่ Node และมีมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ทั้ง ยา และเวชภัณฑ์ และสาธารณูปโภคอื่นๆ
ด้วย
นพ.ทัศนพงศ์ บุญล้น ให้ข้อมูลว่า
กิจกรรมการออกให้บริการ Node
นั้นมีข้อดีมากมาย ทั้งต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
เพราะเขาไม่ต้องเสียเวลามาแออัดที่ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
ซึ่งเกิดความสูญเสียด้านอื่นๆที่ตามมาทั้งจาก ผู้ให้บริการและผู้ป่วยและญาติ
ฉะนั้น เราจึงควรสนับสนุนให้มีการจัดบริการ ที่ Node ให้ดีและมีคุรภาพยิ่งๆขึ้นต่อไป
ภก.กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี เสนอว่า เพื่อให้เป็นไปตามการ Share DHS โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ควร Share กัน เช่น โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จะ Share
ทีมแพทย์และสหวิชาชีพ ออกปฏิบัติงาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จะ Share คนมาร่วมปฏิบัติงาน
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
และ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ควร จะ Share งบประมาณ
ร่วมกัน โดย มีงบประมาณตั้งต้น ที่ 2,800,000 บาท ตามที่ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วเสนอ
แล้ว โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จะสนับสนุนสมทบอีก 1,000,000 บาท
รวมเป็น 3,800,000 บาท สำหรับให้ บริการร่วมกัน ทั้ง 5
Node บริการด้วย
นายขจรเกียรติ อุปยโสธร
เสนอว่า ควรจะให้มี เพดานการเบิก งบประมาณ ค่า ยา และเวชภัณฑ์ เพราะหากไม่จำกัด
ทุกแห่งก็จะเบิกเกิน ทำให้ไม่เหลืองบประมาณสำหรับการพัฒนา เมื่อสิ้นปี
นายบัณดิษฐ์ สร้อยจักร
ให้ข้อมูลว่า นายทศพล นิติอมรบดี จะทำเพดานการเบิกจ่ายยาและเวชภํณฑ์ไว้ทุกปี
ซึ่งปกติ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ก็บริหารการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามแผนอยู่แล้ว
ปีนี้ก็ควรจะใช้แนวทางนี้เป็นทิศทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน
พญ.เพชรวันชัย จางไววิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
ให้ข้อมูลว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นวันที่ดี เพราะเราได้คุยถึงเรื่องของเรา
ว่าจะทำอะไรร่วมกัน โดยไม่มีการแบ่งว่าเป็นฝ่ายไหน เพราะเป้าหมายในการให้บริการคือ
ประชาชนของเราร่วมกัน เงินค่ายา ของ รพ.สตงก็ ถูกโอนมาไว้ที่ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วเท่านั้น
แต่ยังเป็นเงินของเรา และ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วยินดีที่จะสนับสนุน ตามที่
ภก.กาญจนพงษ์ เสนอ คือ 1,000,000
บาท รวมเป็น 3,800,000 บาท สำหรับให้
บริการร่วมกัน ทั้ง 5 Node บริการ หากมีเหลือ ก็ให้จัดสรรคืนตามสัดส่วนตามประสิทธิภสพการบริการตามที่
ผอ.ขจรเกียรติเสนอ
มติที่ประชุม
1. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว และ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จะสนับสนุน
ให้มีกิจกรรมการออกปฏิบัติงานร่วมกัน ใน 5 Node บริการ ( 5
Node บริการประกอบด้วย ดงแคนใหญ่ กู่จาน ย่อ โพนทัน สงเปือย )
2. ให้ Node
บริการทั้ง 5 แห่ง จัดทำบัญชี แยกต่างหาก
ให้สามารถตรวจสอบได้ ถึงการใช้ ยาและเวชภัณฑ์ สำหรับผู้ป่วยที่สั่งจ่าย โดย
แพทย์และสหวิชาชีพจาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ในวันออก Node สรุปการใช้เป็นรายเดือน
3. สนับสนุนงบประมาณค่ายาและเวชภัณฑ์
สำหรับปฏิบัติงานร่วมกัน จำนวน 3,800,000(สามล้านแปดแสนบาทถ้วน) โดยแหล่งงบประมาณ มาจากค่ายาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
2,800,000 บาท และโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วสนับสนุนสมทบอีก 1,000,000
บาท )
4. การปฏิบัติให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเบิกจ่ายตามเพดานการทำแผนการเบิกจ่ายตามที่หัวหน้างานกำหนด
5. หากมีงบประมาณค่ายาและเวชภัณฑ์
คงเหลือ ถือเป็นประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่คุ้มค่า ให้โอนเงินคืนให้กับแห่งที่สามารถประหยัดได้ตามประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
เพื่อเป็นงบประมาณสำหรับการพัฒนาเมื่อสิ้นปีงบประมาณต่อไป
No comments:
Post a Comment