6 ส.ค.2557 ยินยอมบำบัดหรือกึ่งบำบัดยาเสพติด _ประกาศ คสช.108/2557
วันที่ 6 สิงหาคม
2557 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง และคณะ เข้ารับการฝึกอบรม
หลักสูตร ดูแล ช่วยเหลือต่อเนื่อง ผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด (หลักสูตร วิทยากร
ครู ข. ) จังหวัดยโสธร
ณ
โรงแรม เดอะกรีนปาร์ค ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
ประธานและบรรยายพิเศษโดย
นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร
ระบบการบำบัดรักษายาเสพติดในประเทศไทย ปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 ระบบ ดังนี้
1. ระบบสมัครใจ หมายถึง
การที่ผู้ติดยาเสพติดสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา ในสถานพยาบาลต่าง ๆ
ซึ่งดำเนินการรักษาทั้งระบบแพทย์แผนปัจจุบัน และแผนโบราณ
2. ระบบต้องโทษ หมายถึง การที่ผู้ติดยาเสพติดกระทำความผิดและถูกคุมขัง
ต้องเข้ารับการบำบัดรักษาภายใต้กฎข้อบังคับของกฎหมาย เช่น ทัณฑสถานบำบัดพิเศษต่าง
ๆ ของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย กรมคุมประพฤติ
และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สังกัดศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
กระทรวงยุติธรรม
3. ระบบบังคับ หมายถึง
การใช้กฎหมายบังคับให้ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา
ในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพที่จัดตั้งขึ้น
ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2534
จากนี้ไป
นับ ตั้งแต่ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป นั้น จะต้องเพิ่มการบำบัด
ขึ้นมาอีก ประเภทหนึ่ง คือ
การบำบัดระบบยินยอมบำบัด หรือ ระบบกึ่งบำคับบำบัด ตาม ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่
๑๐๘/๒๕๕๗ ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา หน้า ๑๘ เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๔๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ดังนี้ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๐๘/๒๕๕๗ ประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา หน้า ๑๘ เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๔๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗
เรื่อง
การปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยว่ากระทําผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเข้าสู่การบําบัดฟื้นฟูและการดูแลผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟู
เพื่อให้การดําเนินการบําบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดเป็นไปโดยเหมาะสม
สมควรกําหนดให้ผู้ต้องสงสัยว่ากระทําความผิดฐานเสพยาเสพติดหรือเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครอง
ตามลักษณะ ชนิด ประเภท และปริมาณที่กําหนดตามบัญชีท้ายประกาศนี้
ซึ่งไม่มีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือสังคม ได้รับการบําบัดฟื้นฟูโดยการยินยอม
และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องภายหลังผ่านการบําบัดฟื้นฟู
รวมทั้งกําหนดอํานาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดําเนินการดังกล่าว
เพื่อให้การบําบัดฟื้นฟูเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ
และมีประสิทธิผลสูงสุด คณะรักษา
ความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศ
ดังต่อไปนี้
ข้อ
๑ ในกรณีที่ผู้ใดต้องสงสัยว่ากระทําความผิดฐานเสพยาเสพติด
หรือเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครองตามลักษณะ ชนิด ประเภท
และปริมาณที่กําหนดตามบัญชีท้ายประกาศนี้
ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาหรืออยู่ในระหว่างถูกดําเนินคดีในความผิดฐานอื่นซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษจําคุกหรืออยู่ในระหว่างรับโทษจําคุกตามคําพิพากษาของศาล
และไม่มีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือสังคม
หากผู้นั้นยินยอมเข้ารับการบําบัดฟื้นฟู
ให้เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดดําเนินการให้ผู้นั้นเข้ารับการบําบัดฟื้นฟู
ในกรณีที่ผู้เข้ารับการบําบัดฟื้นฟูปฏิบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกําหนดเกี่ยวกับการบําบัดฟื้นฟู
และได้รับการประเมินเป็นผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟู
ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบออกหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐาน
การนําตัวผู้ต้องสงสัยเข้ารับการบําบัดฟื้นฟู การบําบัดฟื้นฟู
และการประเมินเป็นผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟู
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประกาศกําหนด
ข้อ
๒ ในกรณีที่ข้อเท็จจริงปรากฏภายหลังว่าผู้เข้ารับการบําบัดฟื้นฟูนั้นต้องหาหรืออยู่ในระหว่างถูกดําเนินคดีในความผิดฐานอื่นซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษจําคุกหรือต้องคําพิพากษาให้จําคุก
ให้ส่งตัวผู้นั้นดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อ
๓
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจัดตั้งศูนย์เพื่อการคัดกรองผู้เข้ารับการบําบัดฟื้นฟูในทุกอําเภอและทุกเขต
และจัดตั้งศูนย์เพื่อประสานการดูแลผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟูในระดับอําเภอหรือเขต
และระดับจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร
ข้อ
๔
ให้ศูนย์เพื่อการคัดกรองผู้เข้ารับการบําบัดฟื้นฟูมีอํานาจหน้าที่ดําเนินการคัดกรองและจัดทําข้อมูลเกี่ยวกับการคัดกรองเพื่อจําแนกผู้เข้ารับการบําบัดฟื้นฟู
และการส่งต่อผู้เข้ารับการบําบัดฟื้นฟูไปยังสถานบําบัดฟื้นฟูหรือสถานที่อื่นตามที่หัวหน้าศูนย์กําหนด
ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครประสานการดําเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อ
๕ ให้ศูนย์เพื่อประสานการดูแลผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟูมีอํานาจหน้าที่จัดระบบดูแล
ช่วยเหลือ และสนับสนุนผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟู ในจังหวัดให้มอบหมายกํานัน
ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําองค์กรชุมชน อาสาสมัครคุมประพฤติ
หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน
เป็นผู้ติดตามดูแลและช่วยเหลือผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟู สําหรับกรุงเทพมหานครให้มอบหมายผู้อํานวยการเขต
ผู้นําองค์กรชุมชน อาสาสมัครคุมประพฤติ หรืออาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร
ดําเนินการดังกล่าว
ข้อ
๖ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการบําบัดฟื้นฟู
ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล เลขประจําตัวประชาชน และที่อยู่ของผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟู
ต่อสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
เพื่อใช้ในการดําเนินการจัดส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่ดําเนินการดูแลผู้ผ่านการบําบัดฟื้นฟูต่อไป
ทั้งนี้
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
บัญชียาเสพติดท้ายประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๐๘/๒๕๕๗
______________________
๑.
ลักษณะชนิดและประเภทของยาเสพติดสําหรับความผดฐานเสพติดมีดังต่อไปนี้
(๑) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ มี๖ ชนิด ได้แก่
(ก) เฮโรอีน
(ข) เมทแอมเฟตามีน
(ค) แอมเฟตามีน
(ง) ๓, ๔ -เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน
(จ) เมทิลลีนไดออกซีแอมเฟตามีน
(ฉ) เอ็น เอทิล เอ็มดีเอ
หรือเอ็มดีอี
(๒) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ มี ๒ ชนิด ได้แก่
(ก) โคคาอีน
(ข) ฝิ่น
(๓) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ มี๑ ชนิด ได้แก่กัญชา
(๔) สารระเหยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย
ยาเสพติดให้โทษตาม
(๑) และ (๒) ให้รวมถึงวัตถุที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น แต่มีสูตร
โครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกันกับยาเสพติดให้โทษดังกล่าว
และเกลือใด ๆ ของยาเสพติดให้โทษดังกล่าวด้วย
๒.
ปริมาณของยาเสพติดตาม ๑. สําหรับความผิดฐานเสพและมีไว้ในครอบครอง
มีดังต่อไปนี้
(๑) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑
(ก) เฮโรอีนมีน้ําหนักสุทธิไมเกินหนึ่งร้อยมิลลิกรัม
(ข) เมทแอมเฟตามีนมีปริมาณ ไม่เกินห้าหน่วยการใช้ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
ให้โทษ
หรือมี น้ําหนักสุทธิไม่เกินห้าร้อยมิลลิกรัม
(ค) แอมเฟตามีนมีปริมาณ ไม่เกินห้าหน่วยการใช้ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ
หรือมีน้ําหนักสุทธิไม่เกินห้าร้อยมิลลิกรัม
(ง) ๓,๔-เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนมีปริมาณ
ไม่เกินห้าหน่วยการใช้
ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ
หรือมีน้ําหนักสุทธิไม่เกินหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบมิลลิกรัม
(จ)
เมทิลลีนไดออกซีแอมเฟตามีนมีปริมาณ ไม่เกินห้าหน่วยการใช้
ตามกฎหมาย
ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ
หรือมีน้ําหนักสุทธิไม่เกินหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบมิลลิกรัม
(ฉ) เอ็น เอทิล เอ็มดีเอ
หรือเอ็มดีอี มีปริมาณ ไม่เกินห้าหน่วยการใช้
ตามกฎหมาย
ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ
หรือมีน้ําหนักสุทธิไม่เกินหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบมิลลิกรัม
(๒) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒
(ก) โคคาอีนมีน้ําหนักสุทธิไม่เกินสองร้อยมิลลิกรัม
(ข)
ฝิ่นมีน้ําหนักสุทธิไม่เกินห้าพันมิลลิกรัม
(๓) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ได้แก่กัญชามีน้ําหนักสุทธิ ไม่เกินห้าพันมิลลิกรัม
ยาเสพติดให้โทษตาม
(๑) และ (๒) ให้รวมถึงวัตถุที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น แต่มีสูตร
โครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกันกับยาเสพติดให้โทษดังกล่าว
และเกลือใด ๆ ของยาเสพติดให้โทษดังกล่าวด้วย
No comments:
Post a Comment