1/4/20

1ม.ค.63ชื่นชม 6 จุดบริการประชาชน_เทศกาลปีใหม่ ณ อำเภอไทยเจริญ


1ม.ค.63ชื่นชม 6 จุดบริการประชาชน_เทศกาลปีใหม่ ณ อำเภอไทยเจริญ
วันที่ 1 มกราคม 2563 บันทึกกิจกรรมตามที่ นายจักรพงษ์  พันธุ์โชติ นายอำเภอไทยเจริญ มอบหมายให้ นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ออกเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันให้บริการประชาชน  ประจำจุดบริการประชาชน  รวมถึง ด่านชุมชน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ช่วงเทศกาลปีใหม่  พ.ศ. 2563  ขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมกันปฏิบัติงานด้วยดี  ดังนี้
















จุดบริการประชาชนบ้านสามแยกภูกอย องค์การบริหารส่วนตำบลไทยเจริญ
จุดบริการประชาชน หน้าโรงเรียนบ้านส้มผ่อ หมู่ที่ 1 ตำบลส้มผ่อ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร
จุดบริการประชาชน บ้านศรีชมพู ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร
จุดบริการประชาชน ตู้ยาม สภ.ไทยเจริญ บ้านคำเตยแสงทอง หมู่ที่ 13 ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร
จุดบริการประชาชน หน้าตลาดชุมชนบ้านโนนหนองผือ หมู่ที่ 2 ตำบลคำไผ่ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร
จุดบริการประชาชน หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำคำ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร
            ของฝากทุกๆจุดจะเป็นแตงโมอินทรีย์หวานๆ ส่วนข้อความจากนี้ เป็นของฝาก ให้แก่ตัวผมเองด้วยว่า สักวันต้องเป็น สว.แน่นอนครับ สว.=ผู้สูงวัย  ขอบคุณ ข้อความจากโลก social ครับ
**ความจริงที่ผู้สูงวัยต้องเผชิญ...!!!
1. ความสันโดษในบั้นปลายชีวิต
จำนวนคนรอบตัวเรา จะลดลงตลอดเวลา
-คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ รุ่นปู่ย่าตายายส่วนใหญ่หนีหายกันไปหมดแล้ว
-คนที่อยู่ในวัยเดียวกับเราก็จะเริ่มประสบปัญหาในการดูแลตนเอง
-คนรุ่นหลัง รุ่นลูกหลานก็กำลังง่วนกับชีวิตการทำงานและความเป็นอยู่ของพวกเขา
-คู่ชีวิตของเราเอง ก็อาจจะจากไปก่อนแล้ว เร็วกว่าที่เราคาดไว้
* ดังนั้นเราอาจ ถูกทิ้งไว้อยู่กับวันเวลาที่ว่างเปล่าคนเดียวก็เป็นได้  เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวให้ได้ และยอมรับกับความสันโดษในบั้นปลายของชีวิตที่จะต้องเกิดขึ้น

2. *สังคม*จะเริ่มให้ความสำคัญกับเราน้อยลงไปเรื่อยๆ
-ไม่ว่าในอดีตเราจะเคยยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงมากขนาดไหนก็ตาม
-ความชราจะเปลี่ยนเราให้กลายเป็นเพียงชายแก่ๆหรือหญิงแก่ๆธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
-*สปอตไลท์จะหยุดฉายมาที่เรา และเราจะต้องหัดพอใจกับการยืนอยู่ในมุมห้องหรือเงามืดอย่างเงียบๆเพียงคนเดียว
-เราต้อง เรียนรู้ที่จะยอมรับและยินดีกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า โดยปราศจากการอิจฉาริษยาหรือคับแค้นใจใดๆทั้งสิ้น
3. ถนนสายเส้นทางชีวิตที่เหลืออยู่จะเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ 
คือ โรคภัยไข้เจ็บ ที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่นเส้นเลือดตีบตัน หรือแตกหัก  สมองฝ่อ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไธรอยด์เป็นพิษ อารมณ์แปรปรวน การหลงลืมหรือมะเร็ง เป็นต้น
***สิ่งเหล่านี้เราจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บป่วย หรือยอมรับมันและดำเนินชีวิตด้วยกุศโลบาย คือ
- *มีจิตใจและความคิดเป็นบวก
-*ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินวันละ 30-45นาที เป็นประจำ
-*ควบคุมการกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
-*พักผ่อนให้เพียงพอ
4. * เตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตติดเตียง*
เราจะถูกดูแลโดยคนอื่นเหมือนเมื่อแรกเกิดแต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ
ครั้งนั้นเราเคยมีแม่เป็นผู้ดูแล ด้วยความรักอย่างสุดหัวใจแต่เมื่อใกล้วันที่เราจะจากโลกนี้ไป  เราไม่มีแม่เหลืออยู่แล้ว แต่อาจมีญาติที่ใกล้ชิดมาดูแล หรือ อาจมีพยาบาลมาดูแล แต่ต้องยอมรับว่า มันไม่เหมือนกับการดูแลของ แม่ที่ดูแลเราในวัยนอนแบเบาะแน่นอน
ดังนั้น จงฝึกอยู่นิ่งๆ อย่าจู้จี้ขี้บ่น  อย่าทำตัวให้เป็นที่ลำบากของคนอื่น  จงรู้สึกพอใจในสิ่งที่เราได้รับ
ได้เป็น
5.* ทรัพย์สมบัติ เงินทอง ที่มี หลีกเลี่ยงการนำไปลงทุน หรือ ให้ใครหยิบยืมเด็ดขาด เพราะ เราหมดเวลาแสวงหาเงินทองทรัพย์สมบัติใดๆแล้ว
*** ดังนั้น ผู้สูงวัยทุกคนจงมองชีวิตตามความเป็นจริงของมัน 
-พอใจในสิ่งที่ได้รับ และยินดีกับสิ่งที่มีอยู่
-ใช้ชีวิตให้สนุกขณะที่ยังทำได้
- อย่าเอาเรื่องยุ่งเหยิงของสังคม เช่น เรื่องการเมือง หรือ แม้แต่เรื่องของลูกๆหรือหลานๆมาเป็นปัญหาของตนเอง
-จงใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและเรียบง่าย
-อย่าแสดงตัวว่า เก่งเพราะคิดว่า มีประสบการณ์สูงและผ่าน อะไรๆมามาก
- เมื่ออายุยิ่งมาก เรายิ่งต้องให้ความสำคัญกับการอ่อนน้อมและเคารพให้เกียรติผู้อื่น
***ชีวิตคนเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ควรปล่อยวาง จงใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบ สุขุม พอเพียงกับการเป็นผู้สูงวัย!!!  CR เครดิต : คัดลอก ย่อความ จาก ผู้ที่บอกว่า อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เป็นผู้โพสต์และ อ. เจิมศักดิ์ แจ้งว่า ใครเขียนไม่ทราบ เป็นเพียงนำมาโพสต์ต่อ


No comments:

Post a Comment