1/21/22

20 ม.ค.65 ครบ 40 ปี สักการะแด่โองการ ท่านท้าวสหัมบดีพรหม ณ อำเภอเลิงนกทา_คำอาราธนาธรรมจะมีคำว่า พรหมา จโลกาธิปติ สหัมปติ กัตอัญชลี อันธิวรัง

20 ม.ค.65 ครบ 40 ปี สักการะแด่โองการ ท่านท้าวสหัมบดีพรหม ณ อำเภอเลิงนกทา_คำอาราธนาธรรมจะมีคำว่า พรหมา จโลกาธิปติ สหัมปติ กัตอัญชลี อันธิวรัง

วันที่ 20 มกราคม 2565 นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง   สาธารณสุขอำเภอเลิงนกทา และคณะ ร่วม พิธี ครบรอบ 40 ปี แห่เครื่องสักการะและบวงสรวงแด่ โองการท่านท้าวสหัมบดีพรหม ประจำปี 2565 ณ บริเวณศาลประทับ บริเวณที่ว่าการอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร 

ประธานในงานโดย นายสุพิช สามารถ นายอำเภอเลิงนกทา

 

ทั้งนี้ วันที่ 5 มกราคม 2525 อำเภอเลิงนกทาได้ร่วมกัน ประกอบพิธีอัญเชิญโองการท่านท้าวสหัมบดีพรหม มาประทับ ณ ศาลแห่งนี้ สำหรับเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยมจิตใจ เพื่อความเป็นสิริมงคล ของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเลิงนกทา

การจัดงานจะจัดในห้วงเดือนมกราคมของทุกปี  ประกอบด้วยการทำบุญถวายเครื่องสักการะแด่โองการท่านท้าวสหัมบดีพรหม ปีนี้ ปี 2565 ครบรอบ 40 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 41

มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กำนันผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าและประชาชนชาวอำเภอเลิงนกทา เข้าร่วมพิธี




 




สหัมบดีพรหม

            คำที่เราได้ยินเสมอ ใน คำอาราธนาธรรมจะมีคำว่า พรหมา จโลกาธิปติ สหัมปติ กัตอัญชลี อันธิวรัง อยาจถ

ท้าวสหัมบดีพรหม  ผู้ซึ่ง สถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ ๑๖ อกนิฏฐสุทธาวาสภูมิ

เป็นผู้สำเร็จจตุตฌานชั้นสูงสุด

เป็นผู้ส่งเสด็จพระพุทธองค์ครั้งเสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพุทธมารดา

เป็นผู้ถวายอัฐบริขาร

เป็นผู้ทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้แสดงพระสัทธรรมเทศนาโปรดเวไนยสัตว์ และ

เป็นผู้พยากรณ์พุทธกัลป์
ตำนานกล่าวเล่าว่า ครั้งหนึ่งเมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จะไม่แสดงพระสัทธรรมเทศนาที่ได้บรรลุโปรด ด้วยทรงเห็นว่าเป็นธรรมที่มีความละเอียด จะมีใครรู้เรื่องสักกี่คน

ท้าวสหัมบดีทราบความและกล่าวคำปริ วิตก ว่า "โอ้หนอ โลกจะฉิบหายแหลกราญลงเสียแล้วหนอ" เสียงดังทั่วหมื่นโลกธาตุ จึงเสด็จลงมาพร้อมด้วยเทพบริษัท ทรงกราบทูลอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แสดงพระสัทธรรมเทศนา

ในคำอาราธนาธรรมตอนหนึ่งว่า พรหมา จโลกาธิปติ สหัมปติ กัตอัญชลี อันธิวรัง อยาจถ สันตีธ ปรซักข ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อนุกัม ปิมัง ปซัง ซึ่งแปลความหมายว่า ท้าวสหัมบดีพรหม อัญชลีกราบทูลอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ว่า สัตว์ในโลกทั้งหลายนี้ ที่มีกิเลสเบาบางพอที่จะฟังธรรมของพระองค์ได้นั้นยังมีอยู่ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงพระสัทธรรมเทศนาโปรดชาวโลกในครั้งนี้เทอญ 
พระพุทธองค์ทรงกล่าวตอบท้าวสหัมบดี "เราตถาคตจะได้เปิดประตูอมตธรรมต้อนรับชนผู้ใคร่สดับซึ่งเราชำนาญดีในหมู่มนุษย์" และทรงเห็นความแตกต่างของระดับสติปัญญาแบ่งได้ ๔ ระดับ ดังนี้
ระดับที่ ๑ เปรียบเหมือนดอกบัวที่ชูดอกออกไสวอยู่บนพื้นน้ำพอได้รับแสงพระอาทิตย์ก็บาน เปรียบได้กับมนุษย์ที่ฉลาดมาก เพียงฟังธรรมครั้งแรกก็เข้าใจได้ทันที
ระดับที่ ๒ เปรียบเหมือนดอกบัวโผล่พ้นน้ำและจะบานในวันรุ่งขึ้น เปรียบได้กับมนุษย์ที่ฉลาดพอประมาณ ต้องใช้เวลาฟังธรรมถึง ๒ ครั้ง จึงจะเข้าใจ
ระดับที่ ๓ เปรียบเหมือนดอกบัวที่อยู่ภายใต้น้ำหล่อเลี้ยงไว้ ต้องรอเวลาหลายวันจึงจะโผล่ขึ้นมาบาน เปรียบได้กับมนุษย์ที่ฉลาดน้อยต้องใช้เวลาในการอบรมสั่งสอนจึงจะเข้าใจ
ระดับที่ ๔ เปรียบเหมือนดอกบัวที่จมอยู่ลึกภายใต้น้ำไม่มีโอกาสจะโผล่พ้นน้ำต้องเป็นเหยื่อปลาและเต่า เปรียบได้กับมนุษย์ที่โง่ทึบและสอนให้รู้ได้ยาก

ท้าวสหัมบดีพรหม เมื่อทราบว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดมนุษยโลกทั้งหลายก็อัญชลีแล้วกระทำประทักษิณ อันตรธานหายไปจากสถานที่นั้น กลับสู่พรหมวิมานในพรหมโลก

No comments:

Post a Comment