2/17/09

การประเมินผลการปฏิบัติราชการรายบุคคล ข้าราชการต้องผ่าน 248 2K4S8C


วัน ที่ 13-18 กุมภาพันธ์ 2552  เข้ารับการอบรม  ณ โรงแรม ทาวน์ อินทาวน์ กรุงเทพมหานคร    หลักสูตรการประเมินผลการปฏิบัติราชการรายบุคคล เพื่อการเลื่อนเงินเดือน และเลื่อนระดับตำแหน่ง รวมถึง หลักสูตรการประเมินผลการปฏิบัติราชการรายบุคคล เพื่อการเลื่อนเงินเดือน และเลื่อนระดับตำแหน่ง วิทยากรหลักในวันนี้คือ
ดร.ปัทมา สุขสันต์ สำนักงาน กพ.และ ดร.ภิญโญ นิลจันทร์ จากสถาบันพัฒนศาสตร์

ข้าราชการ ยุคใหม่ ที่พึงประสงค์ ต้องมีคุณสมบัติ 4 ประการคือ เก่ง ดี กล้า ร่าเริง(มีความสุข)
ซึ่งเนื้อหา ตาม พรบ.ข้าราชการพลเรือน 2551 ทั้งมาตรฐานการกำหนดตำแหน่ง
การประเมินผลการปฏิบัติราชการรายบุคคล เพื่อการเลื่อนเงินเดือน และเลื่อนระดับ
สรุป คนที่จะได้รับการเลือนระดับ ต้องมีคุณสมบัติครบ ทั้ง เงินเดือน อายุการดำรงตำแหน่ง การประเมินค่างาน การประเมินสมรรถนะ เอกสารวิชาการ และต้องได้รับการชี้ตัวจากหน่วยงานหรือผู้บังคับบัญชา
พรบ.ข้าราชการพลเรือน 2551 มีที่มาจากทฤษฎีที่สำคัญ คือ ทฤษฎี New Public Managements: NPM และ GG: Good governance. (ด้านล่างเพิ่มเติม)
การประเมิน ข้าราชการต้องผ่าน 248 2K4S8C ดังนี้
2 K (know) คือ K1 ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน และ
K2 ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
4S (Skill) คือ S1 การใช้คอมพิวเตอร์
S2 การใช้ภาษาอังกฤษ
S3 การคิดคำนวณ
S4 การจัดการข้อมูล
8 C (Competency) คือ 5C หลัก และ 3 C ประจำกลุ่มงาน ดังนี้
5C หลัก ประกอบด้วย อาจจำได้ง่ายๆว่า RESET
C1 การมุ่งผลสัมฤทธิ์   RBM
C2 การให้บริการที่ดี  SERVICE
C3 การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงาน Expertise
C4 ยึดมั่นในความถูกต้อง เป็นธรรม Equity
C5 การทำงานเป็นทีม (ร่วมแรงร่วมใจ )Teamwork
3 C ประจำกลุ่มงาน HAT 
C6 การพัฒนาศักยภาพคน Human
C7 การบริการเชิงรุก Active 
C8 การคิดวิเคราะห์ Thinking 

ผม(พันธุ์ทอง ) เขียนให้จำได้ง่ายๆว่า RESET

ทั้งนี้ GG หลักธรรมาภิบาล  ประการ ประกอบด้วย Good governance หรือ หลัก การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
กอบด้วยหลักพื้นฐาน ประการ หรือ Good governance : 
ผม(พันธุ์ทอง ) ขอ แปลงเป็น Slogan ให้จำง่ายๆ เป็น MR APLE ดังนี้
Good governance: MR APLE
แต่ ต้อง ยก เอา ตัว L ขึ้นมาก่อน เพราะ กฎหมายปกครอง หรือการบริหารราชการ ต้อง ยึดตามระเบียบกฎหมาย กำหนด จึงจะสามารถปฏิบัติได้ ส่วน กม.เอกชน หาก กม.ไม่มีข้อห้าม สามารถปฏิบัติได้
1.หลักนิติธรรม Legislative หมายถึง การตรากฎหมายที่ถูกต้อง เป็นธรรม การบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย การกำหนดกฎ กติกาและการปฏิบัติตามกฎ กติกาที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิทธิ เสรีภาพความยุติธรรมของสมาชิก
2.หลักคุณธรรม Morality หมายถึง การยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม การส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนพัฒนาตนเองไปพร้อมกัน เพื่อให้คนไทยมีความซื่อสัตย์ จริงใจ อดทน มีระเบียบวินัย ประกอบอาชีพสุจริตจนเป็นนิสัยประจำชาติ
3.หลักความพร้อมรับผิด Responsibility หมายถึงความตระหนักในสิทธิหน้าที่ความสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหา
4.หลักความโปร่งใส Accountability หมายถึง การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ
5.หลักความมีส่วนร่วม Participation หมายถึง การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้และเสนอความคิดเห็นในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ เช่น การประชาพิจารณ์ การแสดงประชามติ
สาธารณะของบ้านเมือง การกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา ตลอดจนเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และมีความกล้าที่จะยอมรับผลดีและผลเสียจากการกระทำของตน
     โบสถ์ วิหารที่มีคุณค่า ไม่ได้มาจาก เจ้าภาพรายใดรายหนึ่ง หนุ่งคุณค่าที่สำคัญ อยู่ที่การมีส่วนร่วมคนละเล็กละน้อย แต่มีผู้มีส่วนร่วมทุกคน 
6.หลักความคุ้มค่า Economize หมายถึง การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนร่วม เช่น รณรงค์ให้คนไทยมีความประหยัด ใช้ของอย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ 


ความหมายของสมรรถนะ  Competency (สำนักงาน  ก.พ.)

หมายถึง  คุณลักษณะเชิงพฤติกรรมที่เป็นผลมาจากความรู้ทักษะ/ความสามารถ  และคุณลักษณะ อื่น  ๆ  ที่ทำให้บุคคลสามารถสร้างผลงานได้โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมงานอื่น  ๆ  ในองค์กร

 ประวัติความเป็นมา     การศึกษาของ  David  C”Meclelland  จากมหาวิทยาลัย  Harvard  ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มของผู้ที่ประสบความสำเร็จในงาน  และกลุ่มของผู้ที่ประสบความสำเร็จน้อยกว่า  เพื่อดูว่าสองกลุ่มนี้แตกต่างกันในเรื่องใด  (เรียกว่าสมมรรถนะใด)

            กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ  สมรรถนะเป็นกลุ่มพฤติกรรมที่องค์กรต้องการจากบุคลากร  เพราะเชื่อว่าหากบุคลากรมีพฤติกรรมการทำงานในแบบที่องค์กรกำหนดแล้ว  จะส่งผลให้บุคลากรผู้นั้นมีผลปฏิบัติงานดี  และส่งผลให้องค์กรบรรลุเป้าประสงค์ที่ต้องการ

 มุมมองของสมรรถนะ  (Competency)

            การกำหนดความสามารถ  หรือสมรรถนะ  (competency)  แบ่งออกเป็น  3  มุมมอง   ได้แก่  KSA

            K  :  ความรู้  Knowledge  หมายถึง  ข้อมูลหรือสิ่งที่ถูกสั่งสมมาจากการศึกษา  ฝึกอบรม  สัมมนา  รวมถึงข้อมูลที่ได้รับจากการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  และประสบการณ์กับผู้รู้

            S  :  ทักษะ  (Skills)  หมายถึงสิ่งที่จะต้องพัฒนา  และฝึกฝนให้เกิดขึ้นโดยจะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อฝึกปฏิบัติให้เกิดทักษะนั้นขึ้นมา ทักษะจะแบ่งออกเป็น  2  ด้าน  ได้แก่

            1.  ทักษะด้านการบริหาร/จัดการ  (Management  Skills)  หรือบางตำราเรียก Conceptual Skills หมายถึงทักษะในการบริหารควบคุมงาน  ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับระบบความคิด และการจัดการในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ

            2.  ทักษะด้านเทคนิคเฉพาะงาน  (Technical  Skills)  หมายถึง  ทักษะที่จำเป็นในการทำงานตามสายงานหรือกลุ่มงานที่แตกต่างกันไป   

            2.  ทักษะด้านความสัมพันธ์  (Human Skills)  หมายถึง  ทักษะที่จำเป็นในการทำงานเป็นทีม ทักษะการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ทักษะการปรับตัว ทักษะการส่อสาร ทักษะการประสานงาน

            ( ผม พันธุ์ทอง เพิ่มเติม : ภาษากลางเรียกว่า รู้จักคน ภาษาอีสาน เรียกสั้นๆ ว่า รู้จักความ )

 ดังนั้นทักษะที่ต้องการของคนที่ทำงานในแต่ละกลุ่มงานจะแตกต่างกัน

            A  :  คุณลักษณะส่วนบุคคล  (Attributes)  หมายถึง  ความคิด  ความรู้สึก  เจตคติ  ทัศนคติ  แรงจูงใจ  ความต้องการส่วนบุคคล  ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวมา

 สมรรถนะแบ่งออกเป็น  2  ประเภท

            1.  สมรรถนะพื้นฐาน  ความรู้หรือทักษะพื้นฐานที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจำเป็นต้องมีเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้  แต่ไม่ได้แยกผู้ปฏิบัติงานดี  ออกจากผู้ปฏิบัติงานปานกลาง

            2.  สมรรถนะที่แยกความแตกต่าง   ปัจจัยต่าง  ๆ  ที่ผู้ปฏิบัติงานที่ดีมี  แต่ผู้ที่ปฏิบัติงานปานกลางไม่มี

 การประเมินผลการปฏิบัติงาน  แบ่งการประเมินเป็น  2  ส่วน  คือ

ส่วนของงานที่มอบหมาย

พฤติกรรมในการทำงาน  หรือ  สมรรถนะ  (คุณลักษณะเชิงพฤติกรรม)

 ความแตกต่างระหว่างสมรรถนะของงาน  และสมรรถนะของคน

สมรรถนะของงาน หมายถึงสิ่งที่บุคคลต้องทำในการทำงาน

สมรรถนะของคน  หมายถึงคุณลักษณะที่ทำให้บุคคลสามารถทำงานได้ดี


ครั้งนี้ มีผู้เข้ารับการอบรม ประมาณ 550 คน จาก จังหวัดยโสธร 7 คน มี นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง นายสาคร ขอสุข หัวหน้าสถานีอนามัยโพนสิม นายอาณัติ ศรีเธาว์ หัวหน้าสถานีอนามัยดงเจริญ นายกันตภณ รัตนปัญญา นายยุทธภัณฑ์ อ่อนพุทธา จาก โรงพยาบาลทรายมูล นางรัชนี สุทธิธรรมจาก โรงพยาบาลกุดชุม 

3 comments:

  1. Anonymous25/2/09

    ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล

    ReplyDelete
  2. People Active Analyzes 3 สมรรถนะประจำกลุ่มงาน

    ReplyDelete
  3. การสร้างสม ความเชี่ยวชาญในอาชีพ เพราะ ขรก เรา ต้องเจริญ เติบโต ในหน้าที่การงาน ฉะนั้น ต้อง รู้ทันต่อ โลก และ โรค รู้ทันโลกภายใต้ การเปลี่ยนแปลง ส่วนชาว สาธารณสุขเรา ต้อง รู้ทัน ต่อ โรค

    ReplyDelete