ซ้อมใหญ่_รับปริญญา_นิติศาสตร_บัณฑิต มสธ.รุ่นที่30

วันที่ 21 มีนาคม 2556 ซ้อมใหญ่_รับปริญญา_นิติศาสตร_บัณฑิต มสธ.รุ่นที่30

ผม นายพันธุ์ทอง  จันทร์สว่าง และครอบครัว เดินทางเข้าร่วม กิจกรรมซ้อมใหญ่ งานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สำหรับผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2554  ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นนทบุรี 

เข้าพัก ณ อาคาร สัมมนา 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

ซึ่ง ดร.คณิต ณ นคร กรรมการสภามหาวิทยาลัย รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ พิชิตพรชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และคณะ ได้จัดเตรียม และอำนวยความสะดวกแก่บัณฑิตและญาติๆ ใน งานนี้ได้ดีมากๆ

เพื่อนร่วมรุ่น นิติศาสตร์บัณฑิต จาก จังหวัดยโสธร ที่ เข้าร่วมซ้อม ด้วยกันวันนี้ คือ พี่อ้น หรือ นางประชุมพร  กวีกรณ์ หัวหน้ากลุ่มงาน ควบคุมโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร

 ขอบพระคุณ พี่มด นส.สุดารัตน์ ทองอุ่น พี่ แมว นส.ศรัญญา ทองอุ่น  ที่มาร่วมให้กำลังใจด้วย

แจ้งเพื่อทราบ  เรือตรีสุเทพ อินทร์ม่วง ประธานกลุ่ม 5 นิติเขียวทอง 54 ตอนนี้เปลี่ยนนามสกุล เป็น เรือตรีสุเทพ พาณิชย์กุล ครับ 

บัณฑิตท่านอื่นๆ สามารถ รับชมภาพ กิจกรรม เพิ่มเติม พิธีพระราชทานปริญญาบัตร สำหรับผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2554  ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นนทบุรี  ทั้ง 3 วัน ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2556 ถึงวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2556 ได้ที่ นี่  http://ptjsw.blogspot.com/2013/03/3024-262556.html

บัณฑิต มสธ.รุ่นที่ 30 ปี 2554 อายุสูงสุด 91 ปี อายุ ต่ำสุด 18 ปี

อธิการบดีมสธ. ยึด“คนเป็นหัวใจ”  ไอซีทีและภาษาเป็นอาวุธ ในการพัฒนามหาวิทยาลัย พร้อม

มุ่งพัฒนามหาวิทยาลัยเปิดระดับโลก

รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ พิชิตพรชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารงานภายหลังการเข้ารับตำแหน่งอธิการบดีคนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2556 เป็นต้นมา ว่า ได้ยึดหลักพัฒนา มสธ.คือ I-DU  หรือ ICT-Driven University 

ทรัพยากรมนุษย์เป็นหัวใจ ไอซีทีและภาษาเป็นอาวุธ มาใช้ในการพัฒนามหาวิทยาลัย ต้องสอนให้เด็กไทยมีเครื่องมือในการหาข้อมูล เหมือนส้อมกับมีดเมื่อรับประทานอาหาร ส่วนไอซีทีคือ ส้อม ที่จะคว้าข้อมูลที่มากับไอซีทีที่ส่งมาถึงบ้าน และย่อยข้อมูลด้วยมีด

หรือภาษาเพื่อตักชิมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ จีน การเรียนการสอนจะเป็นลักษณะค็อกเทล เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ในสิ่งอยากเรียนรู้ เลือกเรียนรู้ด้วยตัวเอง และการให้ความรู้แบบทีละเล็กทีละน้อยแต่เรียนรู้บ่อยๆ ไม่ใช่ถูกรังแก เพราะครู โรงเรียนยัดทุกอย่างให้แก่เด็ก จนเด็กต้องสำรอกออกมาจนไม่เหลือความรู้อะไรแก่ตัวเอง

รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ พิชิตพรชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวต่อว่า ผู้ที่เข้าเรียนกับ มสธ.ขอเพียงอ่านออกเขียนได้ก็สามารถเรียนกับ มสธ.ได้ ซึ่งในปีนี้มีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจำนวน 15,379 คน โดยผู้สำเร็จการศึกษาที่มีอายุสูงสุดคือ 91 ปี

และน้อยที่สุดคือ 18 ปี เพราะนักเรียนมัธยมเรียนกับ มสธ.เมื่อจบ ม.6 ก็เทียบโอนสัมฤทธิบัตร และศึกษาต่อจนจบปริญญาตรี หลังจากจบ ม.6 ไม่นาน ส่วนผู้จบระดับปริญญาโทจำนวน 971 คน ปริญญาเอก 8 คน