13ธค.2556 น้องขอคำแนะนำจากพี่
คำแนะนำที่ดีพี่มีน้อง CBL นสค.คำเขื่อนแก้ว
วันที่ 13 ธันวาคม 2556 ในเวที
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ นสค. รุ่น 1 นี้ มีหลากหลายข้อคิดเห็นที่ผมประทับใจ
ขอยกมาเป็นตัวอย่างเช่น
(1) ดิฉันทำงานที่โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
เป็นหัวหน้า ER มากว่า 30 ปี แต่มีบ้านอยู่หมู่บ้านที่มี สถานีอนามัย เมื่อก่อนดิฉันมีความรู้สึกและมีคำถามในทางที่ไม่ค่อยดีว่า
ทำไม ทำไม มากมาย เช่น ทำไมต้องให้น้องทันตาให้บริการผู้ป่วย ทำไมน้อง
จพ.สาธารณสุขต้อง เย็บแผล ต้องตรวจรักษาโรค ทำไมบริการบางอย่างไม่ได้ตามมาตรฐาน ทำไมชาวบ้านไม่ไปรับบริการที่โรงพยาบาลเพราะมีคุณภาพมีมาตรฐานที่ดีกว่า
ทำไมต้องมารับบริการที่สถานีอนามัย แต่พอดิฉันได้มารับรู้ข่อมูลในอีกแง่มุมหนึ่งในวันนี้จึงได้รู้ว่า
ชาวบ้านทุกคนอยากได้รับบริการที่ดี แต่บริการที่ดีใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้รับ
เพราะมีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้เขาไม่สามารรถเข้าถึงได้ เช่น
ไปโรงพยาบาลมันหมายถึงค่าใช้จ่าย มันหมายถึงภาระ วัวควาย บุตรหลานทางบ้าน
มันหมายถึงความไม่ว้างใจ ไม่เชื่อใจเพราะเขาไม่รู้จักใครในโรงพยาบาล
กว่าเขาจะได้กลับเขาต้องฝ่าด่านคนที่ไม่รู้จัก มากมาย
และกลับออกไปด้วยความไม่รู้จัก แต่ที่สถานีอนามัย เขารู้จักคนที่ให้บริการของเขา
นั่นคือคุณหมอนที่ดีที่สุดของเขา คุณหมอรู้จักชื่อเขา รู้จักครอบครัวเขา
เขาไว้เนื้อเชื่อใจและมั่นใจว่าเขาฝากฝีฝากไข้ได้ แม้ว่าอุปกรณ์เครื่องมีอาจจะไม่ดีพอ
แต่อุปกรณ์ใจ เขาดีกว่า เวทีในลักษณะอย่างนี้จึงดีมากที่เราจะมาร่วมกันให้บริการที่ดีแก่ประชาชนภายใต้บริบทที่มีของคำเขื่อนแก้วเรา
ขอบคุณและชื่นชมคุรหมอที่ทำงานที่สถานีอนามัยทุกท่าน เพราะแต่ละแห่งสถานีอนามัยมีคน
2-3 คน แต่ต้องทำทุกอย่าง แสดงว่าเขาทำงานหนักมาก หากมีบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องช่วยเหลือ
สนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็ต้องให้การสนับสนุน ดิฉันให้คำมั่นว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทางในการก้าวเดินเพื่อให้บริการแก่ประชาชนให้ดีต่อไป
( นางสาววรนุช นามมั่น พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว)
(2) ดิฉัน เป็นนักวิชาการสาธารณสุขน้องใหม่ ทำงานที่ รพ.สต.โพนสิม
เมื่อก่อนเส้นทางมันกันดารมาก เข้าออกยากโดยเฉพาะหน้าฝน มี ผอ.กับดิฉัน 2 คน หากคนใดไม่อยู่ คนที่อยู่ คือ คุณหมอ
คือที่พึ่งเขา ดิฉันมีเพียงความตั้งใจและการถ่ายทอดประสบการณ์ที่ ดีจาก ผอ.รพ.สต. เพื่อให้สามารถให้บริการและเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้
ในเบื้องต้น เย็บแผล ฝ่าฝี ให้คำปรึกษา การฝากครรภ์ เป็นต้น โดยเฉพาะระยะหลัง
มีพี่วีมาทำงานด้วย พี่วีเป็นอาจารย์ด้านการพยาบาลที่ดีมากๆ สอนแนะให้กับดิฉัน
และตลอดทั้งให้คำปรึกษาได้ทางโทรศัพท์ หรือช่องทางอื่นๆ เช่น face Line เป็นต้น
(3) เรื่องการบริการกับโรงพยาบาล
ขอบคุณพี่เลี้ยงที่ดี หากมีปัญหาในการทำงานดิฉันจะนึกถึงที่ปรึกษาที่ดี จาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
เช่นการฝากครรภ์จะโทรหา พี่หรั่ง(ศุศราภรณ์) พี่เขาให้คำแนะนำที่ดีมากๆ
ด้านสุขภาพจิตก็จะนึกถึง พี่ตุ้ม(เยาวเรศ) ซึ่งจะได้รับคำแนะนำที่ดีในทุกๆครั้ง
เป็นที่ประทับใจมาก ( นางสาวกาญจนา ไชยมาตร นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนสิม)
(4) ดิฉัน พึ่งรู้ว่า
นสค.คืออะไร นสค.นักสุขภาพคนสำคัญ ที่เป็นที่พึงสำคัญให้กับญาติ
พี่น้องของเราในชนบท นสค.ไม่มีคำว่า แพทย์ ทันตะ เภสัช สาธารณสุข พยาบาล
แพทย์แผนไทย นสค.คือคุณหมอ ในความหมายของชาวบ้าน เมื่อเขาก้าวย่างมาหาเรา
เขาต้องรับบริการที่ดีกลับไป เขาไม่เข้าใจว่าเรามีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพใดหรือไม่
หากทุกข์ของเขาได้รับการเยียวยาให้บรรเทาเบาบางลงไป เขาก็มองเห็นเราเป็นคุณหมอของเขา
ดิฉันเองภูมิใจมากในบทบาทของ
นสค.เพราะมันคือการที่เราได้เรียนรู้ร่วมกันระหว่างสหวิชาชีพ
เพื่อให้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ ดิฉันไม่เพียงแค่ถอนฟันเด็ก ขูดหินปูน ในห้องฟัน
ดิฉันต้องทำงานแบบครบวงจรเฉกเช่นเดียวกับ นสค.คนอื่นๆ เพราะดิฉันเป็นทีมงานของ
รพสต. มีอะไรที่จะช่วยเหลือกันได้ ก็ต้องให้ความช่วยเหลือกัน(นางหอมไกร อาจวิชั
จพ.ทันตสาธารณสุข ชำนาญงาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ดงแคนใหญ่)
(5) ดิฉันเป็นน้อง จพ.สาธารณสุข ให้บริการในชุมชนมากว่า
8 ปีแล้ว
ทักษะต่างๆได้รับการฝึกฝนและถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่ากัน
เพื่อให้เป็นที่พึ่งของเขาได้ วันนี้ดีใจมากที่ ทีมงานเราได้จัดทำ ระเบียบปฏิบัติในการปฏิบัติงานด้านต่างๆ
โดยเฉพาะด้านเวชปฏิบัติครอบครัว เพราะหากจะปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพแล้ว มีเพียงพยาบาลวิชาชีพเท่านั้นที่สามารถให้บริการตรวจรักษาแก่ประชาชนได้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะให้พยาบาลวิชาชีพ รับผิดชอบคนเดียว
ไปไหนไม่ได้ มันเป็นงานที่หนักมาก และเป็นงานที่ไม่มีวันแล้วเสร็จ เขาทุกข์มาหาเรา
ต้องการได้รับคลายทุกข์ หากดิฉันจะปัดความรับผิดชอบไม่ให้บริการก็สามารถส่งต่อได้
แต่ในบางครั้ง การส่งต่อเราทำง่ายเพียงเขียนเอกสาร แต่มันเป็นการเพิ่มความทุกข์ให้กับเขาไปอีกไม่รู้กี่เท่า
ไหนจะค่าเหมารถเที่ยวละ 400 บาท ไหนจะค่ากินตนเอง
ค่ากินญาติๆ ค่าจ้าง เพื่อนบ้านไปดูแลสวนผัก ไปดูแล วัวควาย และค่าอื่นๆ อีกมากมาย
ฉะนั้น
การที่เรามาร่วมกันพัฒนาศักยภาพของพวกเรากันเองให้สามารถคลายทุกข์ให้ชาวบ้านได้
ถือว่าพวกเราได้ทำบุญที่ยิ่งใหญ่ ขอบคุณ ท่าน สสอ.และท่านผอ. ที่จัดให้มีเวทีนี้ขึ้นดิฉันประทับใจมาก
( นางจิตร์สุดา
นามวาท จพ.สาธารณสุข ปฏิบัติงาน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บกน้อย )
(6)
ผมเป็น จพ.เภสัช จบมาผมก็คิดว่า
มีหน้าที่เพียงจ่ายยาตามใบสั่งเท่านั้น นั่นคือภารกิจของ น้องใหม่ พอทำงานไปประสบการณ์เริ่มสอนผม
เมื่อผมต้องอยู่ รพ.สต.คนเดียว ใส่ชุดฟอร์มฟ้าขาว ชาวบ้านมาเรียกว่าคุณหมอ
ก็เริ่มเรียนรู้ว่าเราต้องพัฒนาตนเองให้มีความสามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้
ในทักษะต่างๆ ครูที่ดีที่สุดคือเพื่อนร่วมงาน อาจารย์ที่ดีที่สุดคือประชาชน
ปัจจุบัน ก่อนจะได้จ่ายยาผมต้องตรวจบ้าง ล้างแผลบ้าง บางครั้งก็ต้องได้ให้ Oxygen
คนไข้ก็มี ก็เป็นเรื่องที่ภูมิใจ ที่ได้ช่วยชาวบ้าน (นายณรงค์เดช บุญไธสง จพ.เภสัชกรรมชุมชน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ดงแคนใหญ่)
(7) ดิฉันเองทำงานในห้องคลอด
ซึ่งเป็นฝ่ายตั้งรับ ได้มารับรู้การทำงานของฝ่ายรุกของเราในด้านการส่งเสริมสุขภาพ
ประทับใจทีมงานน้องๆทุกคนที่รพ.สต.มาก เพราะมันคือการทำงานแบบบูรณาการทุกอย่าง
ตั้งแต่ต้องร่วมกันสร้างศรัทธาให้กับประชาชน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะสร้างได้ง่ายๆ
และไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง มันต้องสร้างกันเป็นทีม
และใช้เวลาสร้างอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้คำว่าความรับผิดชอบ และจิตสำนักที่ดี
จากนี้ไปดิฉันจะให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือในการทำงานร่วมกันของพวกเราให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ขอบคุณทุกคนที่ร่วมให้ข้อมูลที่ดีในเวทีดีๆนี้ด้วย (
นางรัจนา นามวาท พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว)
(8) ดิฉัน
มี2 ความรู้สึก ความรู้สึกที่ 1 เสียใจว่า
ทำไมดิฉันและพวกเราจึงพึ่งร่วมกันจัดบรรยากาศแบบนี้ขึ้นทำไมเรา มันเป็นเวทีที่ดีมากๆ
ในการให้แต่ละคนมาร่วม share สิ่งต่างๆ ที่เป็นสิ่งดีๆ
ของกันและกัน
ความรู้สึกที่ 2 ดีใจและประทับใจเหลือเกินกับ
ทุกๆความรู้ใหม่ ทุกๆแนวคิดที่ดีๆ จากน้องๆ ที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยน
แม้ว่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ในโอกาสต่อไพวกเราควรมีเวทีลักษณะอย่างนี้ให้เขา
อาจจะเป็นทางการบ้างไม่เป็นทางการบ้างก็ได้ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากๆ
เพราะเราต่างคนต่างเสริม ต่างมาเติมกำลังใจให้แก่กันและกัน (นางภัทรวรรณ
จันทร์ศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว)
(9) หนูทำงานที่
รพ.สต.แคนน้อย เคยทำงานที่ รพ.สต.ทุ่งมน
แต่ละแห่งมากด้วยประสบการณ์และการเรียนรู้ ดูเหมือนว่าพวกหนูจะน่าเป็นห่วงจากพี่ๆมากที่สุดในการให้บริการด้านเวชปฏิบัติ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถนัดมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อใน รพ.สต.จำเป็นต้องเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้
เราจะเลือกทำในแต่สิ่งที่เราถนัด หลีกเลี่ยงไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถนัด
เราไม่สามารถทำได้เพราะ ความรับผิดชอบของเรามีมากกว่าในรั้งของ รพ.สต. ความเป็นผู้ให้บริการ
ความเป็นคุณหมอของเรา ครอบคลุมออกไปทั่วทั้งตำบล แทรกซึมเข้าไปในทุกครอบครัว
ครอบคลุมแทรกเข้าในใจของประชาชน ที่สื่อสารมาถึงเราได้ในการมรรับริการจากเรา
เขารู้ดีว่าเรามีศักยภาพแค่ไหน แต่เขาก็ไว้วางเรา
ขขอบพระคุณพี่ๆทุกคนที่ถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆให้พวกเราในการทำงานและ
ในอนาคตพวกเราก็ยังต้องการได้รับการถอดทอดคอยสอนแนะ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการกับประชาชนต่อไป
(นส.สุภาพร บุญเชื้อ นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแคนน้อย ) เป็นต้น
(10) ในแต่ละปี เราเสนอโครงการปีละกี่โครงการ ในจำนวนนั้นทำสำเร็จกี่โครงการ
มีกี่โครงการที่ติดตามอย่างต่อเนื่องจนสำเร็จตามวัตถุประสงค์ แต่ละคนมากน้อยไม่เท่ากัน
แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือ บางคนเหนื่อย บางคนมีความสุขกับมัน ผมก็เป็นผมก็เคยท้อ
แต่เมื่อหวนระลึกวันแรกที่เราก้าวมาทำงานตรงนี้ เราตั้งจุดประสงค์ไว้ว่า
เราจะมาเพื่อ... เพื่อให้บริการด้วยความเมตตากับประชาชนผู้มีความทุกข์ เราไม่ได้มุ่งหวังจะมาเอาตำแหน่ง
เอาขั้น เอายศ เราก็สบายใจ และที่สำคัญเมื่อระลึกถึงว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงงานปีลพกี่โครงการและแต่ละโครงการติดตามผลตลอด
ท่านทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ท่านคงจะเหนื่อยมากกว่าพวกเราเป็นหลายๆพันเท่า
เราทำแค่นี้เหนื่อยแล้วหรือ เราท้อแล้วหรือ เป็นสิ่งที่สามารถเสริมเติมพลังของผมได้
( ภก.กาญจนพงษ์
เพ็ญทองดี เภสัชกรชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว)
(11) ผมเฝ้าดูอยู่ตลอดทั้ง 3 วัน
ตั้งแต่หลักสูตรผู้บริหาร จนมาถึงวันนี้ ชื่นชมและประทับใจบรรยากาศของพวกเรามาก ตั้งแต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะผู้จัดและคณะวิทยากร
เพราะมันเป็นความยากมากที่เราใช้วิทยากรของพวกเรากันเอง แรกทีเดียวผมคิดว่าจะใช้วิทยากรข้างนอก
แต่เห็นผลงานและกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้ จึงค้นพบว่า วิทยากรของเรานี่แหละดีที่สุดเพราะรู้และเข้าใจบริบทของพวกเรากันเองดีที่สุด
และต้องชื่นชมและขอบคุณพวกเราทุกรุ่นทุกคนที่ให้ความร่วมมือ รวมทั้งในการร่วม Share
ประสบการณ์ทั้งในด้านที่ดีอยู่แล้ว
และด้านที่เป็นโอกาสในการพัฒนาให้แก่กันและกัน
ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาองค์กร คปสอ.ของเราให้มีคุณภาพต่อไป ( นายวิทยา
เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว)
.... ความรู้สึกอื่นๆ สามารถส่งเข้ามแลกเปลี่ยนได้นัครับ...
วันที่
13 ธันวาคม 2556 ผมนายพันธุ์ทอง
จันทร์สว่าง ทำหน้าที่วิทยากรและ Project manager กิจกรรม
ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของ ผู้บริหาร คปสอ.คำเขื่อนแก้ว ตามหลักสูตร พัฒนาศักยภาพบุคลากรสำหรับนักสุขภาพครอบครัว
จาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และจากโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ในรูปแบปการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
เพื่อพัฒนาระบบการบริการและการสนับสนุนบริการให้มีประสิทธิภาพ ขึ้นในวันที่ 11-13 ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุม ม่านเมฆา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
ดำเนินการ
นำส่งเสริมการทำงานร่วมกันของ ผู้บริหาร
คปสอ.คำเขื่อนแก้ว โดย นายวิทยา
เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
แพทย์หญิง เพชรวันชัย จางไววิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
โดยมีผู้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันจาก
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
No comments:
Post a Comment