พันธุ์ทอง จันทร์สว่างPT NEWS:จารึกทุกความดีที่คุณทำ ไม่จดจำคนที่ทำไม่ดี: 17 ธค.2556 สมาธิบำบัด แบบ SKT1-7พฤติกรรมดีเริ่มที่ ผู้บริหาร ยโสธร เข้ม

12/19/13

17 ธค.2556 สมาธิบำบัด แบบ SKT1-7พฤติกรรมดีเริ่มที่ ผู้บริหาร ยโสธร เข้ม

17 ธค.2556 สมาธิบำบัด แบบ SKT1-7พฤติกรรมดีเริ่มที่ ผู้บริหาร ยโสธร เข้ม

วันที่ 17 ธันวาคม 2556 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องการพัฒนาคุณภาพงานบริการโรคเรื้อรัง โดยการส่งเสริมสุขภาพ ด้วยวิธีสมาธิบำบัดแบบ SKT ณ โรงแรมเจพี เอมเมอรัลด์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

ประธาน โดย ภก.องอาจ แสนศรี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร (นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ)

วิทยากรหลักโดย รศ. ดร. สมพร กันทรดุษฎี-เตรียมชัยศรี เจ้าของผู้คิดค้นเล็ดลับวิชา และเจ้าของลิขสิทธิ์ และคณะ

เลขานุการปการจัดประชุมโดย นางประชุมพร กวีกรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร

สมาธิบำบัดแบบ SKT คืออะไร อะไรคือ SKT

SKT คือตัวย่อที่มาจากชื่อของ รศ. ดร. สมพร กันทรดุษฎี-เตรียมชัยศรี (Dr.Somporn Kantaradutsadee Triamchaisri:SKT) อาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคนิคนี้ขึ้นมา โดยอาจารย์ได้มีโอกาสศึกษาเรื่องระบบประสาทของมนุษย์ ในระหว่างการศึกษาระดับปริญญาเอก จึงเข้าใจถึงความเชื่อมโยงของการปฏิบัติสมาธิกับการทำงานของระบบประสาทมากขึ้น ประกอบกับเมื่อได้ทำงานวิจัยเรื่อง สมาธิเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จึงพบว่าแม้การทำสมาธิแบบสมถะ หายใจเข้าพุทธ หายใจออก โธ นั้นสามารถช่วยให้คลายเครียดได้อย่างดี แต่หากเราสามารถควบคุมการฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 6 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส และการเคลื่อนไหวด้วย ก็จะทำให้การทำสมาธินั้นมีผลดีต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ระบบประสาทส่วนปลาย ระบบประสาทอัตโนมัติ ระบบอารมณ์และพฤติกรรม ระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ระบบไหลเวียนเลือด และระบบอื่นๆในร่างกายได้เป็นอย่างดี จึงได้นำองค์ความรู้ทั้งเรื่องสมาธิ โยคะ ชี่กง การออกกำลังกายแบบยืดเหยียด การปฏิบัติสมาธิด้วยเทคนิคการหายใจ และการควบคุมประสาทสัมผัสทางตาและหู ผสมผสานกัน จนพัฒนาเป็นรูปแบบสมาธิบำบัดแบบใหม่ขึ้น 7 เทคนิค หรือเรียกว่า SKT 1-7 ที่ช่วยเยียวยาผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

ความน่าทึ่งคือ เป็นการฝึกในภาคปฏิบัติทั้ง 2 วัน ซึ่งหลังจากฝึกแล้ว ทุกคนต่างก็บอกว่าดี ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดคือ ปกติแล้ว วันที่ 2 ของการอบรม คนจะลดน้อยลง แต่ ในการอบรมครั้งนี้ วันที่ 2 กลับมีคนเพิ่มมากขึ้น เพราะ ผู้ที่ผ่านการฝึกวันแรก ไปชวนเพื่อนๆมาอีก และคนที่ฝึกแล้ว ก็ยินดีที่จะฝึกในท่าต่อๆไป ด้วยความเต็มใจ

ความวิเศษคือ เพียงฝึกแค่ 1 ท่า 2 ท่า ก็เห็นผลทันทีแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝึกทั้ง 7 ท่า

มีผู้เข้ารับการอบรม ที่ร่วม share ประสบการณ์ที่ดีดี ที่ประสบด้วยตนเอง ในการลดความดันโลหิต จาก 180 เป็น 130 หรือบางท่านสามารถลดลงเป็น 120 เช่น นายสมชาย แก่นของ นิภาภรณ์ ภาคพรหม เป็นต้น

"ดีมากที่ให้ ผอ.รพ.สต.ทุกคนมาร่วมรับทราบ พร้อมันทั้งจังหวัด เพราะนี่คือจุดเปลี่ยนที่จะเป็นผู้กระตุ้น ให้เกิดการส่งเสริมสุขภาพและรักษาโรคเรื้อรัง ด้วยต้นทุนต่ำที่สุด ทำได้แม้กระทั่งผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ แต่ยังสามรรถหายใจได้ ก็สามารถเยียวยาตนเองได้ ในท่าต่างๆที่เหมาะสมกับตนอง " นายคมสัน อดกลั้น กล่าว

รายละเอียดทั้ง 7 ท่า หรือ SKT 1-7 มีอะไรบ้าง ประกอบด้วย

ท่าที่เหมาะสำหรับการสร้างสุขภาพ 2 ท่าคือ

ท่าที่ 1 (SKT 1) “นั่งผ่อนคลาย ประสานกายประสานจิต”
ท่าที่ 2 (SKT 2) “ยืนผ่อนคลาย ประสานกาย ประสานจิต”

ท่าที่เหมาะสำหรับการซ่อมสุขภาพ 5 ท่าคือหรือรักษาเยียวยา แต่ละท่านั้น ตัวเลขยิ่งสูง ประสิทธิภาพยิ่งดี

ท่าที่ 3 (SKT 3) “นั่งยืด -เหยียดผ่อนคลาย ประสานกาย ประสานจิต”
ท่าที่ 4 (SKT 4) “ก้าวย่างอย่างไทย เยียวยากาย ประสานจิต”
ท่าที่ 5 (SKT 5) “ยืดเหยียดอย่างไทย เยียวยากาย ประสานจิต” หรือท่า อัสนีบาต พิฆาตโรคภัย
ท่าที่ 6 (SKT 6) “เทคนิคการฝึกสมาธิการเยียวยาไทยจินตภาพ”
ท่าที่ 7 (SKT 7) “เทคนิคสมาธิเคลื่อนไหวไทยชี่กง”

มีผู้เข้ารับการฝึกประสการณ์ การรักษาโรคได้ด้วยตนเอง ในรุ่นนี้ประกอบด้วย

หรือบางท่านก็เรียกว่า สมาธิบำบัด แบบ SKT1-7

จาก สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร

1. นางป้อมเพชร สืบสอน ผอ.รพ.สต.สงเปือย