4/27/12

ว่าที่ ผบ.ตร. พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้การฯนครศรีธรรมราช : ถ้าตำรวจกลัวโจร แล้วประชาชนจะพึ่งใคร


วันที่ 27 พฤษภาคม 2555 ว่าที่ ผบ.ตร. พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้การฯนครศรีธรรมราช : ถ้าตำรวจกลัวโจร แล้วประชาชนจะพึ่งใคร

ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ได้รับชม ช่อง 3 ข่าวภาคค่ำ วันที่ 26 พฤษภาคม 2555  แล้วรู้สึกชื่นชมและประทับใจมากๆจาก การทำงานของ  พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรี ธรรมราช
 และช่วงท้ายๆ ประทับใจมาก จากการตอบคำถามของ คุณ สรยุทธ ที่ว่า ทำอย่างนี้ ไม่กลัวอำนาจปืน อำนาจมืด อำนาจเงิน ของเครือข่ายยาสพติดหรือ .. หากกลัวผมคงไม่มาเป็นตำรวจ ถ้าตำรวจกลัวโจร แล้วประชาชนจะพึ่งใคร.. :ว่าที่ ผบ.ตร.ในอนาคต* พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรี ธรรมราช ตอบด้วยความภาคภูมิใจ
ว่าที่ ผบ.ตร.ในอนาคต* เป็นความคาดหวังส่วนตัวของผม ที่อยากจะเห็น ตำรวจที่ดีดีอย่างนี้สามารถก้าวสู่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรต่อไปในอนาคตครับ
            รวมความแล้ว ข่าวนี้สามารถที่แก้ภาพพจน์ พฤติกรรมการเรียกรับผลประโยชน์ ที่ไม่เหมาะสมของตำรวจ บางส่วนได้บ้าง


รายละเอียด สรุปไว้ดีมากๆแล้ว โดยเดลินิวส์ ดังนี้

ดึงแผน 'นครศรีธรรมราชโมเดล' ล้างแก๊งยานรกเรือนจำทั่วประเทศ

สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในการจับกุมคดียาเสพติด ก็คือ คำซัดทอดของผู้ต้องหา ที่ส่วนใหญ่มักจะชอบอ้างว่า สั่งยาบ้า-ยาไอซ์จากในเรือนจำจนหลายครั้งการขยายผลเพื่อสืบสวนจับกุมของตำรวจต้องหยุดลงเพราะไม่สามารถล้วงลึกไปจนถึงผู้ค้าที่ถูกซัดทอดได้  ทั้ง ๆ ที่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง ?
มีชื่อเรือนจำหลายแห่งที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างถึงอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น 1 ในเรือนจำที่ถูก   นักค้ายาซัดทอดว่า สั่งยาเสพติดมาจากในคุกเมืองคอน
รุ่งสางของวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย. 2555 ที่ผ่านมา จึงได้ก่อเกิดแผน ปฏิบัติการสะท้านเมืองคอนของ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช โดยมี นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.นครศรีธรรมราช นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์  พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันวางแผนมานาน ก่อนจะใช้สนธิกำลังคอมมานโด ทั้งตำรวจ นปพ. จากบช.ภ.8 (สุราษฎร์ธานี), นปพ.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, ตชด.42, ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งกำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และทหารกองทัพภาคที่ 4 จำนวนมากถึง 560 นาย บุกเข้าจู่โจมไปตรวจค้นแดนที่  4, 5 และ 6 เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช 
ถึงแม้ปฏิบัติการดังกล่าว จะถูกปกปิดเป็นความลับสุดยอด แม้แต่นายณรงค์ ยงค์ณรงค์เดชกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์บางคนยังไม่ทราบเรื่อง แต่ก็ยังมีกระแสข่าวว่ามี เกลือเป็นหนอนแอบส่งข้อมูลให้นักโทษบางคนรับรู้ได้!
การเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว นายวิโรจน์  จิวะรังสรรค์ และนายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ได้คอยอำนวยการปฏิบัติ ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด เน้นการตรวจค้นอย่างละเอียด รอบคอบและรัดกุม เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกันลายนิ้วมือแฝง ที่จะต้องนำสิ่งผิดกฎหมายทุกชิ้นที่ตรวจยึดได้ไปเข้าสู่กระบวนการตรวจทางวิทยาศาสตร์ เป็นหลักฐานมัดตัวผู้เกี่ยวข้องต่อไป 
ภายหลังปฏิบัติการชนิดสายฟ้าแลบก็ต้องตะลึงกับสิ่งผิดกฎหมายที่ซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง ๆ รวม 284 เครื่อง โดยเฉพาะแดน 6 มีจำนวนมากถึง 110 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ หลายร้อยชุด และในโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ยังมีโทรศัพท์มือถือราคาแพง อย่าง ไอโฟน ไอแพด และแท็บเล็ต กว่า 10 เครื่อง   ยาบ้า 1,700 เม็ด ยาไอซ์ 500 กรัม อุปกรณ์การเสพยาเสพติดจำนวนมาก  เงินสด 470,000 บาท อุปกรณ์การเล่นการพนัน อาวุธมีดปลายแหลม   มีดดาบอีกนับพันเล่ม รวมทั้งสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ อีกจำนวนมาก

ถือว่าการตรวจค้นครั้งนี้สามารถตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในการตรวจค้นเรือนจำทั่วประเทศ ที่สำคัญยังเป็นสิ่งยืนยันคำว่า สั่งยาบ้าจากคุกไม่ใช่แค่คำซัดทอดอีกต่อไป นอกจากนี้เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก! หลังตรวจค้นไปวันเดียว ตกเย็นวันที่ 23 เม.ย. ฉวยโอกาสไปตรวจค้นซ้ำอีก ยังพบโทรศัพท์มือถือตกค้างอยู่อีกถึง 15 เครื่อง
พล.ต.ต.รณพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครศรี ธรรมราช ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวเดลินิวส์ว่า         ก่อนจะนำมาสู่ความสำเร็จในครั้งนี้ หลังเข้ารับตำแหน่งตนได้แต่งตั้งชุดเฉพาะกิจ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียด ทั้งเส้นทางการค้า เส้นทางการเงิน บุคคลที่เป็นเครือข่ายเกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มาช่วยทำงานอย่างครบวงจร ซึ่ง    ตนได้ใช้ประสบการณ์การทำงานเมื่อปลายปี 2554 สมัยดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ เคยนำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำรัตนบุรี สามารถจับกุมทั้งนักโทษและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 4 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องยา         เสพติด ขยายผลไปจนอายัดทรัพย์ได้กว่า 10 ล้านบาท สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้รวบรวมข้อมูลซึ่งต้องใช้เวลานานนับเดือน ก่อนที่เราจะวางแผนเข้าปฏิบัติการพร้อมนำพยานหลักฐานขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจค้นบ้านพักเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอีก 6 จุด

ขณะนี้ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.8 ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนจาก สภ.ต่าง ๆ ในพื้นที่ภาค 8 ให้เข้าทำคดี ทั้งการสอบสวนปากคำ สอบสวนขยายเพราะมีผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในข่ายร่วมกระทำความผิด ที่จะส่งให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการนับร้อยคดี โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำร่วมอยู่ด้วยหลายสิบคน คาดว่าจะนำไปสู่การดีเดย์ตรวจค้น จับกุมและตามยึดทรัพย์ของเครือข่ายยานรกได้นับพันล้านบาทอย่างแน่นอน
ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดในเมืองไทยที่มีศูนย์กลางการสั่งจำหน่ายมาจากเรือนจำทั่วประเทศให้        ได้ผลนั้นจะต้องระดมสรรพกำลังดีเดย์เข้าจู่โจมปฏิบัติการ รวมทั้งนำมาขยายผลจับกุม ตามยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งทำพร้อม ๆ กันทั่วประเทศ หากสามารถทำได้อย่างนี้มั่นใจว่าการแก้ปัญหา ยาเสพติดจากเรือนจำทั่วประเทศจะลดลงส่งผลให้การแพร่ระบาดลดลงโดยปริยาย ที่สำคัญผู้ที่มีอำนาจในการรับผิดชอบ จะต้องเอาจริงเอาจัง   และใส่ใจต่อการทำงาน ปัญหาก็จะลดลงอย่างแน่นอน
ด้านนายโสภณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า วิธีการและแนวทางของ พล.ต.ต.รณพงษ์ ที่ปฏิบัติการอย่างจริงจัง มีขั้นตอน จนสามารถตรวจยึดสิ่งของผิดกฎหมายได้มากที่สุดเท่าที่มีการตรวจค้น   เรือนจำทั่วประเทศ และจะนำไปสู่การสืบสวนขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องในอนาคต ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์จะนำแนวทางกรณีการปฏิบัติการของตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชเป็นโมเดลในการดำเนินการกับเรือนจำทั่วประเทศ มั่นใจว่าปฏิบัติการ นครศรีธรรมราชโมเดลจะสามารถ    ขยายผลไปสู่การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีต้นตอ      จากเรือนจำต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน
หลังการปฏิบัติการสะท้านเรือนจำในครั้งนี้ เกิดผลกระทบมากมายเป็นลูกโซ่ของกรมราชทัณฑ์ติดตามมาทันที พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ประกาศกร้าวให้จัดการปัญหาอย่าง     เด็ดขาด โดยเฉพาะหากพบพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาทันที พร้อมประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาร่วมสะสางด้วย
ที่สำคัญมีการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือ      ทุกเครื่อง ตรวจสอบว่าเชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มไหนและเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่คนใดบ้าง เพราะมีคำบ่นเปรยออกมาจากเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจทำงานว่า ได้พยายามทุกรูปแบบทุกวิธีการแล้วแต่ไม่ได้ผล เพราะ แพ้อำนาจเงิน
ดังนั้นหากรัฐบาลมีนโยบายตั้งใจแก้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องระดับชาติอยู่แล้ว คงจะต้องสอบสวนขยายผลกันแบบขุดรากถอนโคนให้ต่อเนื่อง ใครบ้างที่อยู่ในอาการแพ้อำนาจเงิน เพื่อแก้ภาพลักษณ์   ไม่ทำให้เรือนจำต้องกลับกลายเป็นศูนย์บัญชาการค้ายาเสพติดเสียเอง.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ข้อมูล / ศูนย์ เดลินิวส์ สุราษฎร์ธานี รายงาน 

No comments:

Post a Comment