4/14/14

4มย.2557: หมอ Fit &Firm บริหารกาย ใจ สังคม อารมณ์ ให้สมดุล คุณภาพชีวิตดี

4มย.2557: หมอ Fit &Firm บริหารกาย ใจ สังคม อารมณ์ ให้สมดุล คุณภาพชีวิตดี
วันที่ 4 เมษายน 2557 วันนี้ ผม นายพันธุ์ทอง  จันทร์สว่าง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น ๕ โรงพยาบาลยโสธร
เรื่อง  การพัฒนาสมรรถนะด้านร่างกายและจิตใจบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดยโสธร
วิทยากรโดย นพ.วิวัฒน์ วิริยกิจจา เจ้าของฉายา หมอฟิต แอนด์ เฟิร์ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เจ้าของบทความ ผลงานหลายๆเรื่องที่โด่งดัง เช่น "ถ้าไม่อยากตาย หายใจเข้าไว้
และ ที่ผมจำท่าน นพ.วิวัฒน์ วิริยกิจจา ได้เสมอ คือ ก่อนจะบรรยายในทุกเวที ท่านจะต้อง มีกลอนบทนี้ที่ประทับใจ  ว่า ฉันเชื่อเพราะฉันกระจ่าง
ฉันสร้างเพราะฉันเชื่อ
ฉันรู้ว่าไฟต้องอาศัยเชื้อ
ฉันจึงพลีเลือดเนื้อเพื่อเป็นเชื้อไฟ

นายแพทย์สุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร นายแพทย์ธนิต สุขผ่องศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร นางเยาวดี   ชาญศิลป์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร นางประชุมสุข โคตรพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร นำผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัด ทุกๆ ส่วนเข้าร่วมประชุม กว่า 300 คน
ฝ่ายเลขานุการการจัดประชุม โดย นางประชุมพร กวีกรณ์ หัวหน้างกลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร และคณะ

บทสรุปการรับฟังการบรรยายที่ได้เนื้อหาและอรรถรส ดีมากในวันนี้ ทั้งวัน สรุปว่า
            ใน 100 % ของการเรียนรู้ชีวิตของคน เรามีความรู้เพียง 2% คือ
เรารู้ว่าเรารู้อะไร 1% เรารู้ว่าเราไม่รู้อะไร 1% อีก 98% คือเราไม่รู้
เพราะว่า80%ในชีวิตประจำวัน เราใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อดำรงชีวิต ฉะนั้น เราจึงควรหันมาใส่ใจในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
เปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ  เริ่มจากวิธีง่ายที่สุด 3 ข แขม่วท้อง  ขมิบก้น ขยับตัว
ความอบอุ่นของครอบครัว ขึ้นอยู่กับสามีเป็นหลัก แต่ความสำเร็จของลูกๆขึ้นอยู่กับภรรยาเป็นหลัก
ความผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ หากความผิดพลาดนั้นมันเป็นปัญหาของเรา
พยายามทำปัญหาเหล่านั้นให้เป็นปัญหาของเรา เพราะปัญหาของคนอืนเราไม่สามารถเข้าไปแก้ขะไรได้
ผิดคือ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ พลาดคือ ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ
การแก้ไขที่ดีที่สุดคือ เลิกทำในสิ่งที่ไม่ควรทำและรีบทำในสิ่งที่ควรทำ
            เคล็ดลับ ความสุข ของครอบครัว
การบริหารอารมณ์ ของคู่สามี ภรรยา นั้น มีเวลาที่เหมาะสมคือ 29 นาที ให้อิ่ม ทั้งคู่ ครอบครัวก็จะมีความสุข
เราเป็นบุคลากรสาธารณสุข มีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข การที่จะให้คนอื่นมีความสุข เราต้องมีความสุขก่อน การพัฒนาสมรรถนะด้านร่างกายและจิตใจบุคลากรสาธารณสุข ให้มีความสุข ที่สมดุลทั้ง 4 ด้าน ถือเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องจิตใจให้รวมความถึงเรื่องอามรณ์ด้วย การบริหารอารมณ์ ที่ดี ก็ช่วยสร้างสุขให้ตนเอง เมื่อตนเองมีความสุข ก็จะมอบความสุข มอบความรักให้คนในครอบครัว เมื่อแต่ละครอบครัวมีความสุข สังคมของเราก็จะมีความสุข
            บุคลากรสาธารณสุข มีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข ให้บริการคนอื่น อาจจะเหนื่อยบ้าง แต่ทุกครั้งที่ท้อ อย่าลืมคำนี้ เหนื่อยจากการได้ช่วยเหลือคนอื่น ยังดีกว่า เหนื่อยจากการไปขอให้คนอื่นช่วยเหลือเรา

            หลักการดำรงชีวิต เพื่อความสุข ความแข็งแรง ของร่างกาย นพ.วิวัฒน์ วิริยกิจจา
เอาห้องครัวเป็นโรงพยาบาลของบ้าน
เอาการทำงานมาเป็นการออกกำลังกาย
เอาโรคในอนาคตมารักษาในปัจจุบัน
เพื่อชีวิตประจำวันถึงซึ่ง อโรคยา

















วิธีการปฏิบัติ โดย กินอาหารที่ปลอดภัย มาสนใจออกกำลัง มิหยุดยั้งดูแลใจ สุขอนามัยจะล้ำเลิศ
เนื้อหาอื่นๆ จากเอกสารของท่าน นพ.วิวัฒน์ วิริยกิจจาเช่น  ปัจจุบัน เรายังไม่เป็น   ผู้สูงอายุ ในอนาคต เราทุกคน จะต้องเป็นผู้สูงอายุ ทุกคน ท่านจะเป็น ผู้สูงอายุแบบใด  แต่ถ้าจะเป็นจะเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพควรเตรียมและปฏิบัติตนให้สมดุล เหมาะสมทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญาวิญญาณ ดังนี้
ด้านที่ ๑. ด้านร่างกาย  หากท่าน ต้องการเป็นผู้สูงอายุที่มีโรคน้อยที่สุด  ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน  และหมดอายุขัยด้วยความสงบ  ทำง่ายๆ ดังนี้
กินอาหารที่ปลอดภัย
๑. กินอาหารมื้อเช้ามากๆ  มื้อเย็นน้อยๆ  เพราะเมื่ออายุมากขึ้น  การดูดซึมอาหารทำได้น้อยลง  กินอาหารเสริม หรือวิตามินบ้างเป็นครั้งคราว  โดยสามารถหาอาหารเสริมได้ง่ายๆ  จากอาหารตามธรรมชาติของคนไทย  เช่น  สมุนไพรต่างๆ  เป็นต้น  ทั้งนี้โรคภัยไข้เจ็บในผู้สูงอายุ  มักเกิดจากการกินเกินขนาดมากกว่าการขาดอาหาร 
๒. กินอาหารที่เป็นธรรมชาติ   ดีกว่ากินอาหารดัดแปลง  และควรกินอาหารหวานให้น้อยลง  เพราะน้ำตาลทำให้ภูมิต้านทานลดต่ำลง ๒ ชั่วโมง  ดังนั้น จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาทำร้ายร่างกายได้ง่าย 
๓. กินพออิ่ม เพื่อไม่ให้อ้วน  เพราะโรคภัยไข้เจ็บจะถามหา  วิธีการคือ เคี้ยวช้าๆ และนานๆ  จะช่วยให้อิ่มเร็ว
๔. เลือกกินอาหารแทนยา  มิใช่เลือกกินยา แทนอาหาร  เช่น  เป็นไข้หัวลม  ให้กินแกงส้มดอกแค  ท้องอืดกินขมิ้นขาว หรือโหระพา   เป็นความดันโลหิตสูง  กินน้ำขึ้นฉ่าย  เป็นต้น         
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  ให้เหนื่อย ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ หลักการออกกำลังกายที่ดีคือ ต้องให้เหนื่อย ก่อนเมื่อย อย่าหักโหม เพราะจะทำให้เมื่อยก่อนเหนื่อย ซึ่งได้ประโยชน์น้อย  หากเป็นผู้สูงอายุอย่าพยามเล่นกีฬาที่เป็นการแข่งขันกัน  เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย  จะทำอะไรก็ได้  แต่ต้องให้เหนื่อยอย่างสม่ำเสมอ  เช่น  เดินเร็งๆ  ขี่จักรยาน  รำกระบอง  รำมวยจีน  ถางหญ้า  ปลูกต้นไม้  กวาดลานบ้าน  เลี้ยงสัตว์  และทำอาหาร  เป็นต้น  ควรออกกำลังกายวันเว้นวันดีกว่าออกทุกวัน  เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

สภาพแวดล้อม   สุขภาพเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่าง  พยายามจัดการทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม  เช่น  ทางเดินเข้าบ้านไม่ควรขรุขระ  เพราะจะทำให้หกล้มได้ง่าย  ประตูบ้านควรเป็นแบบเปิดออก  ดีกว่าแบบเปิดเข้า  เพราะถ้าหากเป็นลมอยู่หน้าประตู  จะทำให้เปิดเข้าไปลำบาก  ประตูควรกว้างพอที่จะเข็นเตียงเข้าไปได้  และห้องน้ำควรมีที่จับกันล้มกันลื่น  เป็นต้น

ด้านที่ ๒. ด้านจิตใจ   หากท่าน ต้องการเป็นผู้สูงอายุที่ใจดี  รักลูก  ห่วงลูก  ไม่มีภาระงานที่เครียค  เป็นที่ปรึกษาให้เด็กๆ ลูกๆ หลานๆ  ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ  ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆที่อยากไป  และเขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ของตัวเอง   จิตใจที่ดีจะต้องเข้าใจธรรมชาติ  จิตใจจะเป็นปกติ  สมองต้องดี  คุณหมอวิวัฒน์ฯ  ยกตัวอย่าง  การออกกำลังสมองของเตี่ยคุณหมอวิวัฒน์ฯ    ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ดังนี้   
เช้า   คุยกับเพื่อนๆ ที่ชมรมออกกำลังกาย   สาย  เขียนบันทึกประจำวัน  กลางวัน  ดูโทรทัศน์  
บ่าย  เล่นซออู้  เล่นดนตรี  กลางคืน  เล่นกับหลาน 

การเล่นเป็นการออกกำลังสมองที่ดีมาก  เพราะนอกจากได้ใช้สมองแล้ว  ยังสนุกและมีความสุขด้วย  แต่การทำงานพร้อมกับความเครียดนั้นเป็นการทำลายเนื้อสมอง  

ด้านที่ ๓. สังคม   หากท่าน  ต้องการเป็นผู้สูงอายุที่มีสังคม  มีเพื่อน  มีประโยชน์ต่อสังคม  และเป็นที่นับถือของคนอื่นๆ  โดยเริ่มจากการให้  เช่น  ให้ของ  ให้ความเอื้ออาทร  ให้คำแนะนำ  และให้อภัย  เป็นต้น  ซึ่งขณะนี้คุณหมอวิวัฒน์ฯ  ได้ทำแล้วโดยการเป็นที่ปรึกษาโครงการหนึ่งอยู่

ด้านที่ ๔. ปัญญาวิญญาณ    หากท่าน  เมื่อมีอายุมากขึ้น  ต้องการที่จะมีปัญญามากขึ้น  ปัญญาที่ว่าคือ  การเข้าใจกฎของธรรมชาติ  การเกิด  แก่  เจ็บ  ตาย  อย่างถ่องแท้  เพื่อยอมรับกฎนั้นอย่างมีความสุข

สรุปว่า  ต้องการเป็นผู้สูงอายุที่มีร่างกายแข็งแรง  โรคภัยไข้เจ็บรบกวนน้อยที่สุด  มีจิตใจอิสระและแจ่มใส  ลูกหลานรัก  มีเพื่อน  มีปัญญาในการเข้าใจกฎของธรรมชาติ  และสามารถเตรียมรับทุกสถานการณ์อย่างนิ่งสงบ   ต้องรู้จักการกินอาหารที่ปลอดภัย  ออกกำลังกาย  ออกกำลังสมอง คิดอย่างเหมาะสม  ปฏิบัติตามหลักวิชาในการส่งเสริมปัญญา   หลักการกระทำที่อาศัยคุณธรรม  จริยธรรม  สะสมทรัพย์สมบัติทางธรรมชาติมากกว่า สะสมทรัพย์สินเงินทอง  ที่เอาไว้ให้ลูกหลานฆ่ากันตาย  เพื่อแย่งสมบัติ  และทำตัวเองให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น 
ตายไปก็จะมีความสุข  และ  ได้ไปในสู่สุคติภูมิในสัมปรายภพอีกด้วย”   

No comments:

Post a Comment