4/13/14

5เมย.2557:ฌาปนกิจ แม่เยี่ยม ชื่นตา ณ บ้านโคกยาว บิดาของ นายสงบ ชื่นตา

5เมย.2557:ฌาปนกิจ แม่เยี่ยม ชื่นตา ณ  บ้านโคกยาว บิดาของ นายสงบ ชื่นตา
วันที่ 5 เมษายน 2557  ข้าพเจ้า นายพันธุ์ทอง  จันทร์สว่าง ไปพร้อมกับ ภรรยา นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง
นาย ณัฐวุฒิ จันทร์สว่าง สาธารณสุขอำเภอค้อวัง   และคณะ ร่วมแสดงความอาลัย แสดงความเสียใจกับ ครอบครัวชื่นตา ในงาน ฌาปนกิจศพ คุณแม่เยี่ยม ชื่นตา  (มารดาของนายสงบ ชื่นตา ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอกุดชุม )
ณ วัดบ้านโคกยาว อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร  ในรูปแบบ งานศพปลอดเหล้า จังหวัดยโสธร  
ประธานสงฆ์ และเทศนา โดย พระครูศิริปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดบ้านโคกยาว และ เจ้าคณะตำบลทรายมูล อดีต เจ้าคณะอำเภอทรายมูล
ประธานในงาน โดย นายแพทย์สุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร
ดำเนินรายการในงาน ได้ดีมาก โดย นายพรชัย  ทองบ่อ สาธารณสุขอำเภอ ไทยเจริญ
            ทำดีได้ขี่รถใหม่ ทำชั่วไว้ เกิดใหม่ รถเก่าสัปรังเค
            คนไม่ได้อายุยืนเพราะทรัพย์
น ทีฆมายุง ลภเต ธเนน. คนไม่ได้อายุยืนเพราะทรัพย์  หากคนอายุยืนเพราะทรัพย์ จะไม่มีเศรษฐีคนใดตายก่อนคนจน แต่สภาพการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าเศรษฐี ไม่ว่าคนจน ก็ตายเหมือนกัน ทรัพย์ทั้งหลาย ที่ดิ้นรนหากันมามากมายอย่างเหน็ดเหนื่อยนั้น สุดท้ายเราจักใช้ประโยชน์จากมันได้มากน้อยสักเท่าใด  เมื่อเทียบประโยชน์ กับสุขภาพร่างกายสังขารที่ร่วงโรยไม่แน่นอน และบุญกุศลที่จักได้ทำนั้น ประโยชน์จึงห่างไกลกันมากนัก ฉะนั้น ทรัพย์เราจึงควรหามาแต่พอประมาณ พอตัวได้กิน พอให้บิดามารดาได้กิน มีเหลือพอให้ทานแก่ผู้อื่นได้กินเป็นพอ อายุจักสั้นหรือยาวนานนั้น อยู่ที่ผลของกรรมเก่าและกรรมใหม่ ผลของการกระทำในปัจจุบัน เช่นเราหาทรัพย์ในทางที่ผิดที่ชั่ว ความประมาณก็เกิดผลกรรมสนอง ด้วยอาฆาตฆ่าล้างทำร้ายเรา เช่นนี้จึงว่า หาทรัพย์แต่พอประมาณ ไม่ก่อกรรมกิเลสทั้งหลาย ชีวิตจักยืนยาว ได้อยู่สร้างบุญกุศลได้ยาวนาน ตามอายุสังขาร อย่างแท้จริง ดังที่กล่าวมานี้ คนย่อมไม่ได้อายุยืนได้ด้วยทรัพย์ แต่จิตเราจัก ยืนยาวนานด้วยอริยทรัพย์คือบุญกุศล ทั้งโลกนี้และโลกหน้า เพราะว่าดวงจิตของเราไม่ได้เสื่อมสลายไปด้วยเมื่อร่างกายเราสิ้นสภาพลง ดวงจิตของเราก็ย่อมหาร่างใหม่อยู่ การที่จะได้ร่างใหม่เป็นอย่างไร เป็น สัตว์ เดรัจฉาน เป็นมนุษย์ ที่พร้อมด้วยรูปสมบัติ โภคสมบัตร หรือง่อยเปลี้ยเสียขา นั้นขึ้นอยู่ที่ผลของกรรมเก่าและกรรมใหม่ ผลของการกระทำในปัจจุบัน เปรียบให้เห็นได้ง่าย คนที่สร้างกุศลไว้ดี ก็จะได้รูปเป็นรถ คันใหม่สวยงาม คนที่สร้างกุศลไว้ไม่ดี ก็จะได้รูปเป็นรถ คันเก่าสัปรังเค เป็นต้น พระครูศิริปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดบ้านโคกยาว และ เจ้าคณะตำบลทรายมูล อดีต เจ้าคณะอำเภอทรายมูล

มีผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และญาติมิตร เข้าร่วมงานอย่างอบอุ่น อาทิเช่น
นายโกวิท โพธิวรรณา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร
นายรัศมี ตรีแสน สาธารณสุขอำเภอกุดชุม     
นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว     
นายสง่า อยู่คง สาธารณสุขอำเภอทรายมูล    
นายอิสระ ยาวะโนภาสน์ สาธารณสุขอำเภอป่าติ้ว         
นาย ณัฐวุฒิ จันทร์สว่าง สาธารณสุขอำเภอค้อวัง         
นายพรชัย  ทองบ่อ สาธารณสุขอำเภอ ไทยเจริญ
นายสมคิด สุนทรไชย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนงาม
นายวิเชียร อยู่สุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรายมูล
นางสุวรรณี   แสนสุข หัวหน้างกลุ่มงานพัฒนาคุณภาพบริการและ สสม. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร
นายบรรจบ   แสนสุข หัวหน้างกลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร
นายสัญชาติ พลมีศักดิ์ งกลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร
นายประดิษ   ภูมิแสน ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอทรายมูล
นายสุรินันท์   จักรวรรณพร ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
นายไพศาล   กอมะณี ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอป่าติ้ว
นายสมชาติ   ยอดดี ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอป่าติ้วมหาชนะชัย
นายศักดา   ผาจำปา ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอค้อวัง
นายรักษ์ชัย   ไชยรักษ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอไทยเจริญ
นายเดชา   องอาจ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอไทยเจริญ
นายสง่า   ไชยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนงาม
นายยุทธกร ชมวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโส่ เป็นต้น
เจ้าภาพโดย
คุณพ่อสอน ชื่นตา สามี
นางนวลจันทร์ บุญปก บุตรสาว
นางบานเย็น ชื่นตา   บุตรสาว
นายสมชัย แสงสว่าง  บุตรเขย นางหนูเพ็ญ แสงสว่าง  บุตรสาว
นายสงบ ชื่นตา บุตรชาย นางรัชฎา ชื่นตา  บุตรสะใภ้  
นส.จันทร์บาล ชื่นตา  บุตรสาว
พร้อมลูกหลานและญาติทุกคน





















ประวัติวัดบ้านโคกยาว  โดยสังเขป ( History Of  The Temple )
วัดบ้านโคกยาว (เดิมเรียกวัดโพธ์ศรีทอง) ตามการบอกเล่าว่า สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๓๗ โดย ยาคูตุ เป็นผู้พาชาวบ้านสร้างขึ้น
วัด  มี่เนื้อที่ ๔ ไร่เศษ  ตามที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินซึ่งทางราชการออกให้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗ ได้รับพระราชทานเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗ โดยพระราชทานครอบพื้นที่วัดทั้งหมด  หลังจากได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้วก็ได้สร้างอุโบสถเป็นอาคารไม้ขึ้นแล้วประกอบพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต  พร้อมทั้งฉลองด้วยในปี พ.ศ.๒๔๖๙  ต่อจากนั้น  ประมาณ ๒๕ ปีต่อมาได้รื้อถอนอาคารไม้ลง  แล้วสร้างอาคารอิฐถือปูนขึ้นแทนโดยส่วนบนเป็นเครื่องไม้หลังคามุงสังกะสี  สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๔ เสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ฉลองอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๒ ต่อมาเมื่อปี ๒๕๓๔  อาตมา (พระครูสิริปริยัติกิจ) ได้ทำการรื้อถอนแล้วสร้างหลังใหม่ในปัจจุบัน  โดยเริ่มสร้างเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ เสร็จกลางเดือนเมษายนปี พ.ศ. ๒๕๓๗  ดังกล่าวแล้วในคำปรารภ  เมื่อเราได้อ่านความเป็นมาของวัดแล้ว  ก็จะเห็นได้ว่าวัดนี้ได้รับการทำนุบำรุงและสร้างสรรค์พัฒนามาโดยลำดับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  โดยพระสงฆ์  ชาวบ้าน  และญาติโยม  ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์จรรโลงมาทุกยุคทุกสมัย  ทั้งนี้ก็เพราะว่าวัดนั้นเป็นสถาบันของชาวบ้าน  เกิดขึ้นโดยชาวบ้านเพื่อชาวบ้านโดยแท้จริงไม่เหมือนสถาบันอื่น  เช่นสถาบันการศึกษาซึ่งเป็นของราชการจัดสร้างให้  ฉะนั้น  วัดจึงเป็นสถานที่สำคัญต่อชาวบ้านสูงสุดสถานที่หนึ่งทีเดียว  ถ้าจะกล่าวถึงสถานภาพของวัดแล้ว  อาจกล่าวได้ว่าวัดเป็นปูชณียสถานที่ชาวบ้านให้ความเคารพและสักการะ  วัดเป็นกุศลสถาน เป็นที่ชาวบ้านบำเพ็ญบุญกุศล  วัดเป็นธรรมสถานเป็นที่ชาวบ้านมาปฏิบัติศีลธรรม   วัดเป็นศาสนศถานเป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์  สามเณร  และเป็นที่บริหารกิจการของพระพุทธศาสนา  วัดเป็นโรงเรียนสำหรับชาวบ้านเพื่อศึกษาหาความรู้ต่างๆ  วัดเป็นสถานสงเคราะห์คนทั่วไป  ผู้ขาดแคลน หรือเดือดร้อน  วัดเป็นโรงพยาบาลโรคกลัว  โรคจิตต่างๆ  วัดเป็นสถานที่วัดระดับคุณธรรมของคน  วัดเป็นสถานที่ๆทางราชการได้อาศัยปฏิบัติงานตามโครงการต่างๆในท้องถิ่น  วัดเป็นศูนย์รวมความเสียสละและความสามัคคี  วัดเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของชาวบ้าน  วัดเป็นป่าช้าสำหรับชาวบ้านในปัจจุบัน-อนาคต  และวัดเป็นอะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่างของชาวบ้าน  เพราะเหตุที่สถาบันวัดเป็นที่ให้ประโยชน์แก่ชาวบ้านมากมายดังกล่าวแล้ว
            “ผู้มีจิตศรัทธาในการสร้างวัดเชื่อว่าการสร้างประโยชน์แก่ชุมชนทำให้ ได้บุญกุศลมหาศาล …… ด้วยประการฉะนี้
ขอบคุณแหล่งข้อมูล จาก พระครูศิริปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดองค์ปัจจุบัน เจ้าคณะตำบลทรายมูล
  Source by   


No comments:

Post a Comment