10/2/08

เมลามีน (Melamine) เกษตรกรหัวใส หรือ คนจัญไร กันแน่

1 ตุลาคม 2551   วันแรกของปีงบประมาณ 2552  ปี งบประมาณ ที่  19  ในชีวิตัรบราชการ 
            ปัจจุบัน มี ภรรยา นางอริยวรรณ (สุชาดา)  จันทร์สว่าง  พยาบาลวิชาชีพ 7 ปฏิบัติงานที่ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว   มีลูกจำนวน 2 คน    ปฎิบัติงาน ณ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว  ไปทำงานวันแรก ของปีงบประมาณ  2552
จัดอบรม การปฏิบัติงานประกันสุขภาพ ประจำปี 2552 เพื่อประสิทธิภาพ และความครอบคลุม ให้ได้ตามเป้าหมาย   ผู้เข้ารับการอบรม จาก สถานีอนามัยทุกแห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว  และ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว  รวม 40 คน  
เรื่องเด่น วันนี้ ต้อง ยกให้ เรื่องนี้ ครับ  
หากสนใจเรื่อง เมลามีน ต้องศึกษาจากนี่ได้ครับ เรื่อง รอบรู้เรื่องเมลามีนโดย รศ.ดร.เยาวมาลย์ ค้าเจริญ  ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านให้ความหมายว่า
            เมลามีน คือ พลาสติกชนิดหนึ่งมีสารฟอร์มาลดีไฮด์เป็นส่วนประกอบ หรือที่เรารู้จักคุ้นเคยกันคือ ฟอร์มาลีน ส่วนใหญ่เมลานีนจะถูกนำมาผลิตพลาสติก จานเมลามีน ถุงพลาสติก พลาสติกสำหรับห่ออาหาร นอกจากนี้เมลามีนยังอยู่ในอุตลาหกรรมเม็ดสีเป็นหมึกพิมพ์สีเหลือง นอกจากนี้ยังนำไปทำน้ำยาดับเพลิงคุณภาพดี น้ำยาทำความสะอาด และปุ๋ย เพราะโครงสร้างของเมลามีนมีไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบที่ค่อนข้างสูง

ส่วนที่ผมนำเสนอเป็นข้อคิด ความเห็นจากบุคคลและเหตุการณ์ในข่าวครับ...เช่น

Melamine contamination

เมลามีนเป็นสารที่มีการผสมลงในอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง   มาเป็นเวลานานแล้วเพื่อเพิ่มปริมาณโปรตีนให้กับสัตว์
อาจมีการปนเปื้อนบ้างในธรรมชาติแต่อยู่ในปริมาณต่ำมากแต่กรณีที่เกิดขึ้นที่จีนคือพ่อค้านมสดผสมน้ำเปล่าลงไป
เพื่อเพิ่มปริมาณนม และเติมเมลามีนเพื่อให้ได้สารไนโตรเจนแสดงในผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำนม
ว่าเป็นนมที่มีแร่ธาตุเหมือนก่อนการผสมน้ำ สัดส่วนที่พบ จะไม่ทำอันตรายกับคนที่ทานในปริมาณต่ำ เนื่องจาก ร่างกายสามารถขับออกได้เอง แต่ในกรณีเด็กที่ทานนมผง มีการทานเป็นประจำต่อเนื่องจึงทำให้ร่างกายขับออกไม่ ทันเกิดการสะสมและเป็นพิษจนถึงแก่ชีวิต

เกษตรกรหัวใส หรือ คนจัญไร กันแน่

...เกษตรกรจีน ตั้งใจเติมน้ำลงในน้ำนมดิบเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม แล้วเติมเมลานีนซึ่งเป็นผงคล้ายนมผงเมื่อละลายน้ำแล้วจะเป็นคอลลอยด์ไม่ตกตะกอนเหมือนน้ำนมทำให้น้ำนมข้นและมีปริมาณไนโตระจนสูง เมื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำนมจะทำให้ดูเหมือนน้ำนมมีคุณภาพ โปรตีนสูง แต่มันเป็นอันตรายสุขภาพผู้บริโภคอย่างที่เป็นข่าว ที่เขาเติมสารเมลานีนลงไป เพราะจากการตรวจสอบค่าโปรตีน ปรากฏว่าไม่ผ่านสักที .. เลยมักง่ายเติมสารเมลานินลงไป เพื่อให้การตรวจสอบค่าโปรตีนผ่านตามระดับที่กำหนดไว้ โดยเขาวัดจากค่าไนโตรเจนค่ะ ซึ่งการใส่สารเมลานินจะมีค่าไนโตเจนสูงขึ้นค่ะ ถึงได้ผ่านออกมาในการตรวจครั้งหลัง ที่สำคัญคนที่คิดเติมสารเมลานินลงไป เริ่มต้นจากคน 2 คนเอง คนเห็นแก่ตัวไร้จรรยาแค่ 2 คน ทำให้โลกปั่นป่วนได้ขนาดนี้ น่าเศร้าใจมากๆๆ

"เมลามีน" ถึงเวลาที่ต้องรู้จัก
ถึงคราวที่ทั่วโลกต้องตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อนมผงมรณะที่มีสารเมลามีนปนเปื้อนได้คร่าชีวิตทารก
ชาวจีนไป 4 คน และเด็กอีกครึ่งแสนต้องเผชิญกับโรคนิ่วในไต เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ของนมผงซึ่งนำเข้าจากประเทศจีน ถูกสั่งเก็บจากท้องตลาดมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ….หลายคนสงสัยว่า สารพิษชนิดนี้คืออะไร ทำไมถึงส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตได้ .... จะว่าไปแล้ว เราคงจะเคยได้ยินชื่อ "เมลามีน (Melamine)" มาบ้างแล้ว เช่น ชามเม ลามีน หรือ จานเมลามีน นั่นก็เพราะเจ้าสารเมลามีนนี้มีคุณสมบัติทนความร้อน จึงนิยมใช้ทำผลิตภัณฑ์พลาสติก ไม่ว่าจะเป็นภาชนะพลาสติก ถุงพลาสติก น้ำยาดับเพลิง น้ำยาทำความสะอาด กาว หมึกสีเหลือง รวมถึงพบในยาฆ่าแมลงด้วย
สารเมลามีนนี้จัดเป็นสารอินทรีย์ มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือที่เรารู้จักกันว่า ฟอร์มาลีน เป็น
ส่วนประกอบมีไนโตรเจนสูงถึง 66% เป็นผงสีขาว ลักษณะคล้ายนมผงจนแยกไม่ออก เมื่อนำไปละลายน้ำ หรือผสมในนมจะตรวจพบปริมาณไนโตรเจนสูง ซึ่งการจะตรวจว่าน้ำนมนั้นมีโปรตีนสูงหรือไม่ จะวัดจากค่าของไนโตรเจน ดังนั้นถ้าผสมสารเมลามีนซึ่งมีไนโตรเจนสูงเข้าไปในน้ำนม จะถูกทำให้เข้าใจว่า น้ำนมมีโปรตีนสูง ซึ่งไม่เป็นความจริง ….
นี่จึงเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการชาวจีนที่เห็นแก่ตัว และตั้งใจนำสารเมลามีนมาผสมกับนม
ผง เพื่อให้นมมีความเข้มข้นขึ้น เป็นการเพิ่มปริมาณโปรตีนให้ได้ตามที่มาตรฐานกำหนด
โกหกเครื่องตรวจ ว่างั้น เหอะครับ...

ย้อนเหตุการณ์สารเมลามีนปนเปื้อนใน อาหาร
 นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตรวจพบสารเมลามีนปนเปื้อนมาในอาหารที่นำเข้าจากจีน เพราะหากย้อน
กลับไปเมื่อปีก่อน สหรัฐอเมริกาได้สั่งเก็บอาหารสุนัข และแมวที่ทำจากแป้งสาลีซึ่งนำเข้าจากจีนเช่นกัน  เนื่องจากตรวจพบสารเมลามีนในอาหารสัตว์เหล่านั้น โดยสารเมลามีนนี้มีคุณสมบัติเร่งการเจริญเติบโต เพิ่มปริมาณโปรตีน จึงทำให้พ่อค้าหัวใสเห็นช่องทางที่จะทำกำไร รวมทั้งผู้เลี้ยงสัตว์เมื่อเห็นราคาถูกกว่า
จึงไม่รีรอที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้
ในครั้งนั้นมีอาหารสัตว์กว่า 100 ชนิดถูกเรียกคืน และมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากเจ็บป่วยล้มตาย
จากภาวะตับ และไตล้มเหลว กระทรวงเกษตรฯ ของสหรัฐอเมริกาจึงประกาศห้ามเตือนไม่ให้มีการนำสารเมลามีนไปผสมในอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับสารเมลามีนเข้าไปในร่างกาย
การส่งออกของสารเมลามีน
ในประเทศจีนนั้น มีการผลิตเมลามีนจำนวนมาก และออกวางขายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เพราะได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งสารเมลามีนนี้จะใช้ในกระบวนการผลิตภาชนะ อาหารสัตว์ และ นอกจากจีนจะขายในประเทศแล้ว ยังส่งออกไปขายยัง 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในรูปของเศษเมลามีนที่เหลือจากโรงงานพลาสติก ซึ่งมีราคาถูกโดยผู้ขายจากจีนจะใช้ชื่อว่า "ไบโอโปรตีน" หรือโปรตีนเทียม แทนชื่อเมลามีน ให้ผู้เลี้ยงสัตว์นำไปผสมในอาหารสัตว์ เพราะมีราคาถูกกว่าโปรตีนอื่นๆ ที่เป็นพวกธัญพืชหรือเนื้อสัตว์เกือบ 5 เท่า จึงลดต้นทุนการผลิตได้ แต่ในประเทศไทยเองยังตรวจไม่พบว่ามีสัตว์เสียชีวิตจากสารอันตรายนี้อาหารที่เสี่ยงปนเปื้อนสารเมลามีน
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ มีสารเมลามีนปนเปื้อนมาในนมผง ดังนั้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วน
ประกอบของนมผงที่นำเข้าจาก 22 บริษัทของประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นขนม ลูกอม นม คุ้กกี้ ไอศกรีมโยเกิร์ต ฯลฯ ก็เข้าข่ายเสี่ยงไปด้วยในประเทศไทยเองสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ได้สั่งงดนำเข้า และขอร้องให้ร้านค้าต่างๆ งดจำหน่ายขนมที่มีแหล่งผลิตจากจีนแล้ว โดยสินค้าที่ต้องนำไปตรวจสอบก่อน เช่น ไอศกรีมวอลล์ มู ขนมปังกรอบ และข้าวโอ๊ตรส กาแฟ ตราเหมาฮวด หรือคอฟฟี่ โอทมีล แคร็กเกอร์ เวเฟอร์สติ๊กไวท์ช็อคโกแลต เวเฟอร์เคลือบช็อคโกแลตขาว เครื่องหมายการค้าโอรีโอ ช็อคโกแลตนมตราโดฟ ถั่วลิสงคาราเมล และ นูกัตเคลือบช็อคโกแลตนม ตราสนิกเกอร์ส  เมนทอส โยเกิร์ต มิกซ์ หรือ ลูกอมโยเกิร์ตกลิ่นผลไม้รวม  ลูกอมรสนม ยี่ห้อกระต่ายขาว  คุ้กกี้ช็อกโกแล็ตรูปการ์ตูนหมี  โคอาล่า และ ช็อคโกแลตนมเคลือบน้ำตาลสีต่างๆ ตราเอ็มแอนด์เอ็ม ซึ่ง 2 รายการหลังนี้ได้ผ่านการ ตรวจสอบแล้วว่าไม่พบสารเมลามีน ขณะที่รายการอื่นๆ ต้องรอผลการตรวจสอบต่อไป  นอกจากนี้ ยังพบสารเมลามีนปะปนในอาหารสัตว์ ไม่ว่าจะปลาป่น รำสกัด โปรตีนจากพืชโปรตีนจากวุ้นเส้น ฯลฯ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งผลให้สัตว์หลายตัวในสวนสัตว์ของจีนป่วยเป็นโรคไต

ใช้สารเมลามีนในอาหารสัตว์ ทำไม จึงปนเปื้อนในนม

ในความเป็นจริงแล้ว การที่พบสารเมลามีนในอาหารสัตว์ และนมล้วนมีความเชื่อมโยง
กันอยู่ นั่นคือ ผู้ผลิตอาหารสัตว์จะผสมเมลามีนในอาหารสัตว์ที่ขาย เมื่อคนเลี้ยงวัวให้วัวรับประทาน อาหารสัตว์นี้ วัวจะผลิตน้ำนมที่มีโปรตีนในน้ำนมต่ำกว่าร้อยละ 3 ไม่ถึงเกณฑ์ที่โรงงานนมกำหนดจะรับซื้อ ดังนั้นคนเลี้ยงวัวจึงเติมสารเมลามีนเข้าไปในน้ำนมอีก
เพื่อหลอกเครื่องตรวจให้ผ่านการตรวจคุณภาพ เมื่อนมนั้นผ่าน มาตรฐานแล้วก็จะนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ต่อไป
ส่วน การปลูกพืชอาหารสัตว์ที่อาจมีการผสมเมลามีนลงในดิน เพื่อเพิ่มโปรตีน และ
เร่งการเจริญเติบโต นั่นหมายความว่า เมลามีนได้ถูกผสมมาตั้งแต่ต้นทางของห่วงโซ่อาหารก่อนจะมาถึง ปลายทางที่ผู้บริโภค ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์นมเท่านั้นที่เสี่ยงต่อสารเมลามีน แต่ทั้งดิน น้ำ พืชผัก หรือเนื้อสัตว์ก็มีโอกาสปนเปื้อนสารเมลามีนได้เช่นกัน  ….
ขณะที่ทางไต้หวันยังพบว่า มีสารเมลามีนปนเปื้อนมาในชีสซอสบรรจุซอง สำหรับทานกับพิซซ่า จึงเป็นผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งประเภทที่ต้องถูกตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับกรณีนมผงที่ปนเปื้อนหรือไม่
พิษของสารเมลามีน  ทำลายเด็กกว่า 100,000 คนฤทธิ์ของสารเมลามีนนั้น ไม่จำเป็นต้องรับประทานเข้าไปโดยตรง เพียงแค่สูดดมเข้าไป
หรือผิวหนังสัมผัสก็ทำให้เกิดการระคายเคือง จนส่งผลให้ผิวหนังอักเสบได้แล้ว ฉะนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าถ้ารับประทานเข้าไป จะเกิดอะไรขึ้น เพราะร่างกายเราไม่สามารถย่อยสารเมลามีนได้ ไตจึงไม่สามารถขับสารพิษออกมาทางปัสสาวะ ดังนั้นเมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปสะสม จนกลายเป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ และไต ก่อให้ เกิดมะเร็งที่ท่อปัสสาวะ ทำลายระบบสืบพันธุ์ และทำให้ไตวายได้อย่างเฉียบพลัน เช่นเดียวกับเด็กทารก ชาวจีนทั้ง 4 คนที่เสียชีวิต เพราะรักษาไม่ทันการณ์ ขณะที่ยังมีเด็กอีกกว่า 53,000 คน ทั้งชาวจีน
ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊า กำลังป่วยเป็นนิ่วในไตอันเป็นผลพวงมาจากสารเมลามีนนี้
แล้ว จาน เมลานีน ละ จะอันตรยหรือไม่
ในส่วนของภาชนะที่ทำจากเมลามีนก็ต้องระวังการใช้เช่นกัน แม้ผู้ผลิตจะบอกว่า สามารถทน
ความร้อนได้ถึง 100 องศา แต่ก็ควรใช้งานที่อุณหภูมิไม่เกิน 60 องศาเซลเซียส เนื่องจากหากใช้งาน กับความร้อนสูง เช่น น้ำเดือดๆ อาหารที่ทอดใหม่ๆ ก็อาจทำให้สารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง แพร่ออกมาได้ เช่นนั้นแล้ว หากจะใช้ภาชนะปรุงอาหาร หรืออุ่นไมโครเวฟ ควรใช้ผลิตภัณฑ์จากเซรามิกจะดีกว่า..data by..
http://www.thaiday.com...

1 comment:

  1. Anonymous28/1/09

    ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูล

    ReplyDelete