12/20/08

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนะโหวตในสภา เป็น นายกฯคนที่27

วัน ที่  13 ธันวาคม 2551 ไปเยี่ยมลูกที่อุบล ตัดเลนส์แว่นตาให้เพียรใหม่ ที่ Top เจริญ รับประทานอาหารเที่ยงที่ กกขาม ลูกชาย เด็กชายภูมิพันธุ์ จันทร์สว่าง สอบ Math Contest ที่ โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช อุบลราชธานี  ข่าวเด่นประจำวันนี้ ทักษิณ โฟนอิน ในรายการความจริงวันนี้สัญจร  ที่สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าอัฒจันทร์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้สัญจร ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง

วัน ที่  15 ธันวาคม 2551   เช้า ประชุม Morning talk หัวหน้ากลุ่มงานใน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว

จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี 2552 ประกอบการเสนอของบประมาณ จาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร

ภาคบ่าย ประชุม หัวหน้าสถานีอนามัย หัวหน้ากลุ่มงานใน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว และคณะกรรมการกีฬา คปสอ. ที่ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก  ( นายวิทยา  เพชรรัตน์  สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นเจ้าภาพอาหารกลางวันที่ โจ้ คาร์แคร์)

Hot News วันนี้   การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (15 ธ.ค.) มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม  ข้อมูลจาก  http://www.thairath.co.th

จากนั้น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เสนอ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี  ผลการโหวตเป็นรายบุคคลแบบเปิดเผยปรากฏว่า นายอภิสิทธิ์ ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียง 235 เสียง พล.ต.อ.ประชา 198 เสียง และ งดออกเสียง 3 เสียง โดยที่น่าสนใจ คือ พล.ต.อ.ประชา ลงมติสนับสนุนตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจชาติพัฒนา ลงมติสวนมติพรรคสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ งดออกเสียง 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีชื่อเล่นว่า "มาร์ค" เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2507 ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นบุตรของ ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ และ ศ.พญ.สดใส เวชชาชีวะ สมรสกับ ทพญ.พิมพ์เพ็ญ ศกุนตาภัย มีบุตร-ธิดา 2 คน การศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ แล้วได้รับทุนไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่ Eton College ประเทศอังกฤษ จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในสาขาปรัชญาการเมือง และเศรษฐศาสตร์ (PPE) เมื่อปี 2529  แล้วกลับมาคว้าปริญญาตรี ได้อีกใบหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์  ในปี 2531 กลับไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษในมหาวิทยาลัยเดิม จนสำเร็จเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต เมื่อปี 2533  

นายอภิสิทธิ์ เป็นคนสนใจในเรื่องการเมืองมาตั้งแต่เด็ก ได้มีโอกาสร่วมงานทางด้านการเมืองเป็นครั้งแรก ด้วยการช่วยนายพิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หาเสียงในพื้นที่ เขต 6 หลังจากจบปริญญาโท ได้เข้าเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนนายร้อยจปร. เป็นแห่งแรก และยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษ สอนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ  และครั้งสุดท้ายสำหรับชีวิตการสอน คือ ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

นอกจากนี้ ยังได้รับเลือกเป็น ประธานคณะกรรมการสัมมนาฯ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย ต่อมาได้ลาออกมาเล่นการเมืองโดยลงสมัคร ส.ส.กทม.เขต 6 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในเดือนมีนาคม 2535 เป็นสมัยแรก และก็สามารถแทรกเบียด เข้ามาได้เพียงคนเดียวท่ามกลางกระแส "จำลองฟีเวอร์" และได้รับตำแหน่งทางการเมืองครั้งแรก ด้วยตำแหน่ง "โฆษกรัฐบาล" และได้รับเลือกเป็น ส.ส.กทม.อีกในปี 2535/2, 2538 และล่าสุดปี 2539 รวม 4 สมัยในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ตลอด

ทั้งนี้ ยังได้รับตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในปี 2538, ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาปี 2538-2539รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  และคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ ปี 2539, ส.ส.กทม. เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์17 พฤศจิกายน 2539, รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 14 พฤศจิกายน 2540 และประธานกรรมาธิการวิสามัญ (ร่าง) พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ, ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พรรคประชาธิปัตย์  6 มกราคม 2544, รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 20 เมษายน 2546

และดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 10 กุมภาพันธ์ 2548 , ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคประชาธิปัตย์ 6 กุมภาพันธ์ 2548, ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 23 เมษายน 2548, ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 5 มีนาคม 2548 และส.ส. ระบบสัดส่วน กลุ่ม 6 พรรคประชาธิปัตย์ 23 ธันวาคม 2550 และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 27 กุมภาพันธ์ 2551

1 comment:

  1. Anonymous25/1/09

    ขอบใจจ้า สำหรับบทความ

    ReplyDelete