6/29/13

30 มิย.2556 บำเพ็ญกุศล 100 วัน พระครูวิสณฑ์ฯ(หลวงพ่อบุญมี คำภาวัดบกน้อย

30 มิย.2556 บำเพ็ญกุศล 100 วัน พระครูวิสณฑ์ฯ(หลวงพ่อบุญมี คำภาวัดบกน้อย
วันที่ 30 มิถุนายน 2556 แรม 7 ค่ำ เดือน 7 ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง มีกำหนดการ ไปพร้อมกับ ภรรยา นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง ลูกชาย นายภูมิพันธุ์ จันทร์สว่าง และสมาชิกลูกๆ ครอบครัว จันทร์สว่าง เข้าร่วม กิจกรรม การบำเพ็ญกุศล ครบ 100 วัน มรณะภาพ และ งานทอดถวายผ้าป่าสามัคคีสร้าง มณฑปบรรจุสรีระ หลวงพ่อพระครูวิสณฑ์ธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อบุญมี คำภา) อดีต เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว และ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านบกน้อย ซึ่ง นายพุทธา รวมธรรม ผู้ใหญ่บ้านบ้านบกน้อย และคณะได้จัดขึ้น ณ วัดบ้านบกน้อย หมู่ 7 บ้านบกน้อย ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
ประธานสงฆ์ โดย ท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนกวี (สำลี คุตตะสีโล) เจ้าคณะจังหวัดยโสธร
ประธานฝ่ายฆราวาสโดย นายสมเพชร  สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว
ตัวแทนผู้ร่วมงาน ถวายกัณฑ์เทศน์ โดย คุณป้าสำรวม ชูแก้ว ทายิกา ผู้มีจิตใจเป็นบุญุศล เสมอมา ประจำบ้านบกน้อย 
            บุคคลที่หาได้ยากยิ่ง มี 2 ประเภท คือ ความเป็นบุพการีบุคคล และ กตัญญู กติเวทิตาบุคคล 8ogikมากมาย ต่างจิตใจ ต่างอัธยาศัย แต่บุคคลที่ดีพร้อม ซึ่งหาได้ยากในโลกนี้ มีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น คือ
1. บุพการีบุคคล ผู้ทำอุปการะก่อน
2. กตัญญูกตเวทีบุคคล ผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้วทำตอบแทน 
                   เหตุผลที่คนสองประเภทนี้หาได้ยาก คือฝ่ายหนึ่งทำอุปการะก่อน แต่อีกฝ่ายหนึ่งได้รับแล้วแต่ไม่ตอบแทน ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติต่อกันไม่สม่ำเสมอ เพราะคนเรานั้นถูกอวิชชาและตัณหาครอบงำจึงมุ่งแต่ประโยชน์ตนฝ่ายเดียว เมื่อตนได้รับความสุขแล้ว ไม่คิดแลเหลียวผู้อื่น จึงเป็นการยากที่จะเป็นบุพการี
                   ส่วนผู้ที่ได้รับอุปการะจากผู้อื่นแล้วนั้น โดยมาก มักรู้จักแต่คุณ ไม่รู้จักตอบแทน จึงเป็นการยากเช่นกันที่จะทำตนให้เป็นผู้กตัญญูกตเวทีต่อบุพพการีได้ 
                   บุพพการีบุคคล ผู้ทำอุปการะก่อน หมายถึงบุคคลผู้มีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี มีจิตประกอบด้วยความรัก ความปรารถนาดี มุ่งกระทำอุปการคุณ หวังความสุขความเจริญต่อผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทนในภายหลัง ซึ่ง จำแนกได้ เป็น 4 ประเภท คือ  1. มารดาบิดา  2. ครูอาจารย์  3. พระมหากษัตริย์  4. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 
                   มารดาบิดา เป็นบุพการีของบุตร ธิดา ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตของบุตรธิดา บำรุงเลี้ยงดูให้ได้รับความสุข คอยห้ามปรามไม่ให้กระทำความชั่ว แนะนำพร่ำสอนให้ตั้งอยู่ในความดี ให้ศึกษาวิชาความรู้ตามสมควรแก่ฐานะ จัดหาคู่ครองที่ดีให้ และมอบทรัพย์สมบัติให้ในเวลาอันเหมาะสม นับว่ามีพระคุณอย่างใหญ่หลวง 
                   ครูอาจารย์ เป็นบุพการีของศิษย์ เพราะเป็นผู้อนุเคราะห์ศิษย์ด้วยการแนะนำสั่งสอนต่อจากพ่อแม่ ให้ศิษย์รู้ว่าสิ่งใดดี มีประโยชน์ สิ่งใดไม่ดี ไม่มีประโยชน์ มีโทษ ควรหรือไม่ควรประพฤติ 
                   พระมหากษัตริย์  เป็นบุพการีของพสกนิกร เพราะทรงเป็นผู้ประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม ทรงบำเพ็ญทศพิธราชธรรม วางพระองค์เหมาะสม ทรงอดทนต่อกิเลสและทุกข์นานาประการ ไม่ทรงกริ้วโกรธโดยไร้เหตุผล ไม่ทรงเบียดเบียนให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ทรงประพฤติผิดทำนองคลองธรรม ทรงปกครองพสกนิกรโดยไม่ลำเอียง และทรงมุ่งประโยชน์สุขของประชาชนเป็นสำคัญ 
                   พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบุพการีของพุทธบริษัท เพราะทรงมีพระกรุณาคุณแก่พุทธบริษัทอย่างใหญ่หลวง เมื่อตรัสรู้แล้วทรงเมตตาแสดงธรรมสั่งสอนสรรพสัตว์ให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยพระโอวาทอันเป็นหลักสำคัญ 3 ประการ คือ ทรงสอนให้ละชั่วทุกอย่าง บำเพ็ญความดีทุกประการ และทำจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลสทั้งปวง 
                   กตัญญูกตเวทีบุคคล คือผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้วทำตอบแทนท่าน บุคคลที่รู้จักบุญคุณของผู้อื่นที่ทำแล้วแก่ตน โดยรู้คุณค่าแห่งการทำความดีของผู้อื่นและกระทำตอบแทน แสดงออกด้วยวิธีสุจริตธรรมเป็นการบูชาคุณความดีของท่าน แล้วมุ่งทำตอบแทนในภายหลัง เป็นการประกาศเปิดเผยคุณของบุพการีให้ผู้อื่นรู้ เปรียบเหมือนบุคคลที่เป็นหนี้ท่านอยู่ ไม่ลืมบุญคุณของท่าน ตั้งใจขวนขวายใช้หนี้ท่าน บุคคลเช่นนี้ชื่อว่า
                   กตัญญูกตเวทีบุคคล จำแนกเป็นบุคคล 4 ประเภท เพื่อให้ตรงกับบุพการี 4 ประเภท จัดเป็น 4 คู่ คือ
1. บุตรธิดา คู่กับ มารดาบิดา

2. ศิษย์ คู่กับ ครูอาจารย์
3. พสกนิกร คู่กับ พระมหากษัตริย์
4. พุทธบริษัท คู่กับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีหลักการแสดงความกตัญญูกตเวที ดังนี้ 
                   บุตร-ธิดา พึงแสดงกตัญญูกตเวทีต่อมารดาบิดา โดยสำนึกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณและยอมรับด้วยว่าอุปการคุณที่ทำแก่ตนนั้นเป็นความดีจริงแล้วสนองตอบพระคุณท่านด้วยการเลี้ยงดูปรนนิบัติ เชื่อฟังตั้งอยู่ในโอวาทของท่าน 
                   ศิษย์ พึงแสดงกตัญญูกตเวทีต่อครูอาจารย์ โดยสำนึกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณแก่ตนและยอมรับด้วยใจว่าการอบรมของท่านนั้นเป็นความดีจริงแล้วสนองตอบพระคุณท่านด้วยการแสดงความเคารพ ปรนนิบัติรับใช้ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นท่าน 
                   พสกนิกร พึงแสดงกตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ โดยสำนึกว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้มีพระคุณแก่ตนจริง แล้วรับด้วยใจว่าการที่พระองค์ทรงดูแลทุกข์สุขปกป้องผองภัยต่างๆ แก่ตนนั้นเป็นความดีจริงแล้วสนองตอบพระคุณของพระองค์ด้วยการแสดงความจงรักภักดี หรือการประพฤติตนเป็นพลเมืองดี รู้รักสามัคคี เป็นต้น 
                   พุทธบริษัท พึงแสดงกตัญญูกตเวทีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยสำนึกว่าพระพุทธองค์ทรงมีพระกรุณาคุณต่อมวลมนุษย์และสรรพสัตว์จริง และยอมรับด้วยใจว่าการที่พระองค์ทรงสั่งสอนหลักธรรมที่ตรัสรู้นั้นเป็นความดีอันยิ่งใหญ่ แล้วสนองตอบพระคุณด้วยการน้อมนำหลักพุทธธรรมไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
                   ผู้มีปัญญาควรทำอุปการะแก่ผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็ระลึกถึงอุปการะของท่าน และทำตอบแทนสนองคุณท่านตามหน้าที่ดังกล่าวมา จัดว่าเป็นคนดีที่หาได้ยากในพระพุทธศาสนา 
                   อานิสงส์ของความกตัญญูกตเวทีมีหลายประการ คือจัดว่าเป็นคนดีเป็นที่ยกย่องสรรเสริญของนักปราชญ์ เป็นเหตุให้ได้มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ มุ่งไปสู่มหากุศลตามลำดับ เป็นผู้ไม่ประมาท มีแก่นธรรมประจำใจ ได้รับประโยชน์ทั้งรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ ชื่อว่าเจริญรอยตามนักปราชญ์ มีที่พึ่งอันประเสริฐ เลิศด้วยคุณธรรมคือ ศีล สมาธิ ปัญญา
พวกเราทุกหมู่เหล่า ทั้งคณะสงฆ์ จากทุกวัด ประชาชนทุกหมู่บ้าน ที่มาร่วมกันบำเพ็ญกุศล ต่างมาร่วมกัน แสดงน้ำใส ใจจริง ทั้งกาย วาจา ใจ ขออโหสิกรรรม ซึ่งกันและกัน ทั้งเราและท่าน บำเพ็ญบุญ ด้วยการให้ส่วนบุญ  
ร่วมกันให้ทาน ทั้งข้าวปลาอาหาร โรงทาน มาร่วมกันรับศีลบุญ ภาวนาบุญ พวกเราร่วมกัน อุทิศ ส่วนบุญ ที่ได้ร่วมกันทำ ทั้ง ส่วน ให้แด่ ท่านพระครูวิสณฑ์ธรรมาภรณ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว และ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านบกน้อย พวกเราต่างมาร่วมอนุโมทนาบุญ ด้วยความรัก และความปราถนาดีต่อกัน เมื่อครั้งที่ท่าน ยังอยู่ ท่านให้เรามากมาย ทั้ง วัตถุธรรม และ นามธรรม เมื่อท่านจากไป ก็ขออุทิศบุญให้ท่านไปสู่สุคติ ด้วยกันร่วมกันปฏิบัติในฐานะ ที่เป็นศิษย์ ที่ดี ของท่าน ในฐานะ ที่เป็น พสิกนิกรที่ดี ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะ พุทธบริษัท ที่ดีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
            เป็นการแสดงพระธรรมเทศนา ที่ ประทับใจจาก ท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนกวี เจ้าคณะจังหวัดยโสธร
ในวันนี้
            บันทึกภาพและถ่ายทอดออกอากาศโดย พระอาจารย์ทองใส จันทสิริ เจ้าอาวาสวัดดอนมะฮวน ตำบลแคนน้อย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร และคณะ

























มีศิษยานุศิษย์ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน จากหลากหลายหมู่บ้าน ตำบล และศิษย์ต่างจังหวัด มากมาย อาทิเช่น
ส.จ. ชื่น วงษ์เพ็ญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร
นายวิทยา  เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว
นายกนก ประมูลพงศ์  นายกเทศมนตรีตำบลดงแคนใหญ่
นางปุณยวีร์ มาลัย วัฒนธรรมอำเภอคำเขื่อนแก้ว
นายชาติชาย สิงห์พรมสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์
พ.ต.ท.ทิพากร สุทธิอาจ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว
นายประสิทธิ์ รวมธรรม กำนันตำบลดงแคนใหญ่
นายสินอุดม ศิลารักษ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต . ) ดงแคนใหญ่
นายขจรเกียรติ   อุปยโสธร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ดงแคนใหญ่  
นายอรุณ  ฉายแสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บกน้อย เป็นต้น
ให้คำปรึกษาในการจัดงานด้วยดี โดย ท่านพระครูสิริโชติธรรม (พระมหาอภินันท์ โชติปาโล) เจ้าอาวาสวัดบ้านบกน้อย และเจ้าคณะตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 

No comments:

Post a Comment