10/19/13

14 ตค 2556 เปลี่ยนแบบ_ไม่เปลี่ยนวิถีชุมชนคนดงแคนใหญ่_ถนน 4 เลน

14 ตค 2556 เปลี่ยนแบบ_ไม่เปลี่ยนวิถีชุมชนคนดงแคนใหญ่_ถนน เลน
วันที่ 14 ตุลาคม 255ผม นายพันธุ์ทอง  จันทร์สว่าง เข้าร่วม กิจกรรมให้ข้อคิดเห็น ในเวทีประชาคม รับฟังความคิดเห็นของราษฎร ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 10 ตำบลดงแคนใหญ่ นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
                   เรื่อง รับฟังความคิดเห็นของราษฎร เกี่ยวกับการก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร เส้นทาง ถนนแจ้งสนิท จากบ้านบกน้อย ถึง บ้านลุมพุก ระยะทาง 16 กิเมตร          มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดงแคนใหญ่ และตัวแทนประชาชน จาก ทุกหมู่บ้าน เข้าร่วมในเวทีกว่า 300 คน
                   ประธานการประชาคม โดย นายสมเพชร  สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว
ดำเนินการและอำนวยการการประชาคม โดย นายกนก ประมูลพงศ์ นายกเทศมนตรีตำบล ดงแคนใหญ่
นายประสิทธิ รวมธรรม กำนันตำบลดงแคนใหญ่ และคณะ



ข้อมูลนำเข้า
1.     ปัจจุบัน ทางราชการโดยแขวงการทางยโสธร ได้ลงนามกับผู้รับเหมาให้มีการก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร เส้นทาง ถนนแจ้งสนิท จากบ้านบกน้อย ถึง บ้านลุมพุก ระยะทาง 16 กิเมตรงบประมาณ 425 ล้านบาท ตามแบบแปลนเดิม เป็นแบบ ที่มี คลองกั้นระหว่างกลาง ตลอดเส้นทาง  หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข แบบแปลน จะส่งผลต่อ ความล่าชา ของการก่อสร้าง ได้ ตามสัญญา จะเริ่มก่อสร้าง ประมาณ พฤศจิกายน 2556
2.     การส่งมอบพื้นที่ ให้กับผู้รับเหมา ปัจจุบัน แขวงการทาง ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ ให้ผู้รับเหมาได้ครบ เนื่องจาก บางจุด ยังติดขัดเรื่องต้นไม้ หวงห้าม ตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้:ออป.)
3.     หากมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงแบบ ตามที่ประชาชนต้องการ จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น ประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่ง จะส่งผลต่อ ความล่าชา ของการก่อสร้าง ได้
ที่มาของการประชาคม
                   ประชาชนตำบลดงแคนใหญ่ไม่ต้องการให้ก่อสร้างตามแบบแปลน ที่มีคลองกั้นกระหว่างกลางถนน จึงได้ร่วมกันลงลายมือชื่อ เสนอขอเปลี่ยนแปลงแบบการก่อสร้าง ด้วยเหตุผล ปลูกเรือน ตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ ตามใจผู้นอน ดังนี้
1.     เกรงว่าจะกระทบกับวิถีชีวชิตชุมชนของคนดงแคนใหญ่ 5 หมู่บ้าน 800 หลังคาเรือน ที่อยู่ด้วยกัน
อย่างปกติสุขมาโดยตลอด สามารถสัญจร ไปมา หาสู่ กัน ได้ เป็นปกติ  หากมีเกาะกลางถนน หรือ มีคลองกั้นกลาง จะเป็นการแบ่งแยกชุมชนไปโดยสภาพภูมิศาสตร์ ไม่สามารถข้ามไปมา หาสู่กันได้สะดวก
2.     หลายครอบครัว มีที่นา อยู่ฝั่งตรงข้าม เกรงว่าจะไม่สะดวกในการสัญจรไปมา ซึ่งวิถีชีวิต ต้องต้อนวัว ต้อนควาย ข้ามถนน รวมทั้ง รถไถนา ก็ไม่สะดวก ที่จะต้องใช้ระยะทางในการไป กลับ รถ ตามจุดที่กำหนด ซึ่ง อยู่ห่างจากหมู่บ้านไป ในทุก 2 กิโลเมตร
3.     หากมีการจัดงาน ตามประเพณี ต่างๆ ตามวิถีชีวิตชุมชน ก็จะไม่สะดวก หากเป็น ถนน ที่ไม่มีคลองกั้นกลาง ก็จะสะดวกกว่า สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้ ตามความจำเป็น และเหมาะสม
4.     หากมีคลองระหว่างกลางถนน เกรงว่าจะเป็นแหล่งสะสมขยะ และน้ำเสียจากชุมชนได้
สรุปมติการประชาคม
1. ให้ทางราชการแก้ไขแบบแปลน การสร้างถนนแจ้งสนิท ช่วงดังกล่าว เฉพาะ ระยะทางที่ผ่านชุมชนดงแคนใหญ่ ตั้งแต่ด้านหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงแคนใหญ่ ถึงด้านหน้าร้านประทานพรสังฆภัณฑ์ ระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร จากแบบแปลนที่มีคลองกั้นกระหว่างกลางถนนเป็นแบบที่ไม่มีคลอง ไม่มีเกาะกลางถนน ก่อสร้างให้เป็นถนนเต็มพื้นที่ ทั้งสองด้าน ทั้งนี้ ให้คำนึงถึง การอำนวยความสะดวก ของการจอดรถ บริเวณ ตลาดสด แห่งใหม่ ที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคตด้วย
2. การเสนอขอแก้ไขแบบ ที่จะส่งผลต่อ ความล่าชา ของการก่อสร้าง รวมทั้ง งบประมาณ ที่เพิ่มขึ้น นั้น ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะ ระหว่าง ที่เสนอขอ แก้ไขแบบ และเสนอขอ งบประมาณ เพิ่มเติม ตามระบบราชการ นั้น ให้ ประสานผู้รับเหมา ก่อสร้าง พื้นที่อื่นๆก่อนได้ เว้น ช่วงระยะนี้ไว้ ก่อสร้างช่วงสุดท้ายของสัญญาจ้างได้
ให้นายกนก ประมูลพงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลดงแคนใหญ่ เสนอความต้องการของราษฎร ตำบลดงแคนใหญ่ (แนบรายชื่อราษฎรที่ได้ร่วมลงชื่อไว้ จากทุกหมู่บ้าน) ไปยัง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว  ส.ส.บุญแก้ว สมวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยโสธร เขต ๒ แขวงการทางยโสธร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ ทางราชการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบการก่อสร้าง ตามความต้องการของประชาชนคนดงแคนใหญ่ต่อไป
3.     ข้อห่วงใย ด้านความปลอดภัย จากการจราจร นั้น เทศบาลตำบลดงแคนใหญ่ และประชาชน ยินดีที่จะดูแลรักษา ความสะอาด และความปลอดภัย ต่อไป
ขอบพระคุณผู้ร่วมประชุมและให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในเวทีวันนี้ทุกๆท่านอาทิเช่น
ส.จ. ชื่น วงษ์เพ็ญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร
นายช่างเสรี จากแขวงการทางยโสธร  
นายสินอุดม ศิลารักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ดงแคนใหญ่
นายถาวร บุญแท้ อดีตนายก องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต. )  ดงแคนใหญ่ เป็นต้น









                   

No comments:

Post a Comment