19 ตค 2556 ไหลเรือไฟ_ไกด์:ครูพิสิษฐ์
ฉายวงษ์_นครพนม
วันที่
19 ตุลาคม 2556 ตอนเย็น ผมนายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ไปพร้อมกับญาติๆ
เข้าร่วมเยี่ยมชม
งานประกวดไหลเรือไฟ ประจำปี 2556 ณ บริเวณเวทีกลางริมฝั่งแม่น้ำโขง
ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม
ประธานในงานวันนี้
โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
โดยมีนายอดิศักดิ์
เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำข้าราชการ ประชาชน ร่วมพิธีเปิด
และให้การต้อนรับ
คณะของพวกเราจากยโสธร มี คุณครูพิสิษฐ์
ฉายวงษ์ และคุณครูไคสี ฉายวงษ์ หรือ ที่พวกเราเรียก คุณตาพิสิษฐ์ ทำหน้าที่
อำนวยความสะดวก ทั้ง เป็น ไกด์ นำเที่ยว และ เป็นเจ้าภาพ พาไปทานอาหาร เย็น
ริมฝั่งแม่น้ำโขง อันเอดร็ด อร่อย
คืนนี้มีกิจกรรมประกวดเรือไฟจากชาวบ้าน
ทั้ง 12
อำเภอ รวม 14 ลำ มีขนาดตั้งแต่ 50 -100
เมตร ใช้ตะเกียงไฟมากถึง 10,000 – 30,000 ดวง
ส่วนลวดลายในปีนี้ชาวบ้านได้ออกแบบเน้นเกี่ยวกับการเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคล ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะมีพระชนมายุ ครบ 86
พรรษา รวมถึงตราสัญลักษณ์ครบ 100 ปี
สมเด็จพระสังฆราช ไปจนถึงสัญลักษณ์ จ.นครพนม และการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
นอกจากนี้ยังมีการปล่อยกระทงสาย
หรือที่เรียกกันว่า ไข่พญานาค ที่เป็นตะเกียงไฟทำจากกะลามะพร้าว
ตลอดแนวลำแม่น้ำโขง วันละนับ 10,000 ดวง
ซึ่งจะต้องใช้คนนั่งเรือลงไปกลางแม่น้ำโขง
เพื่อทำการจุดไฟทีละดวงก่อนปล่อยไหลลงแม่น้ำโขง เพื่อสร้างความสวยงามระยิบระยับกลางแม่น้ำโขง
ส่วนหนึ่งถือเป็นการปล่อยเพื่อบูชาแม่น้ำโขง และบูชาพญานาคตามความเชื่อ
สร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก
“จุดเด่นที่น่าสนใจเป็นไฮไลท์ของงานในปีนี้ คือเรือไฟจาก อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม
แชมป์รางวัลชนะเลิศเรือไฟ ประเภทความคิดสร้างสรรค์ เมื่อปี 2555 นับเป็น 1
ในจำนวน 12 อำเภอ
ที่มีฝีมือเรื่องการทำเรือไฟได้รับรางวัลชนะเลิศทุกปี ในปีนี้อำเภอนาทมได้มีอาสาที่เป็นช่างทำเรือไฟ
รวมถึงแรงงานกว่า 200 คน
มาปักหลักประดิษฐ์เรือไฟร่วมไหลโชว์เหมือนทุกปี
โดยในปีนี้ได้ส่งเรือไฟเข้าประกวดในประเภทความคิดสร้างสรรค์
ที่สำคัญปีนี้มีการสร้างสถิติใหม่ทำเรือไฟยิ่งใหญ่กว่าทุกปี
หรือใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากปีที่ผ่านมายาว 90 เมตร
เพิ่มเป็นขาดความยาวถึง 100 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร ต้องใช้ตะเกียงไฟร่วม 29,000 ดวง ไม้ไผ่มากถึง 4,000
ลำ มูลค่าจัดสร้างนับล้านบาท” เสียงพิธีกร
บรรยายบนเวที ให้ผู้ชมได้ยินทั่วกัน
No comments:
Post a Comment