3/10/09

สธ. ขึ้นทะเบียนอสม. จ่ายเบี้ย 600/เดือน

วันที่ 8 มีนาคม 2552: พาลูก ลูกชาย เด็กชายภูมิพันธุ์ จันทร์สว่าง ปลูก และดูแล ต้นไม้ ในบริเวณบ้านต่อ จริงๆแล้ว ผลงานที่ออกมา ของ ลูก ไม่ดีนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างแรงงานในหมู่บ้าน แต่ สิ่งที่ได้มากกว่า คือการฝึกวินัย ความรับผิดชอบ และประสบการณ์ให้กับลูกๆ ซึ่งเป็นความมุ่งหมายหลักในการฝึกให้ลูกๆทำงาน ตามความสามารถที่ลูกๆจะทำได้ หิวน้ำก็ให้สอยมะพร้าว มาผ่ามะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก่ มะพร้าวแห้ง ให้สามารถทำได้ หิวข้าวก็ให้ไปสอยมะม่วง มาทำอหาร ของหวานก็ มะละกอสุก มะยางต้น หรือ แอ๊ปเปิ้ลอีสานเป็นต้น ใบไม้ กิ่งไม้ แห้ง ก็ช่วยกัน ขนใส่ท้ายรถไปใส่ที่นา เพื่อทำปุ๋ยเป็นต้น
ข่าววันนี้ จาก ไทยรัฐออนไลน์ : ขึ้นทะเบียนอสม. จ่ายเบี้ย 600/เดือน
วันที่ 8 มี.ค. นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดประชุมประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล จากจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จำนวน 1,600 คน ณ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมนำนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคแก่ประชาชนในพื้นที่ และการสร้างขวัญกำลังใจของ อสม.ปี 2552 ว่า การประชุมวันนี้ เป็นการเตรียมความพร้อม ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินงานส่งเสริมบทบาทของ อสม. กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 8 จังหวัด ซึ่งมี อสม.แจ้งยืนยันสถานภาพแล้ว จำนวน 202,787 คน
ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อการป่วยและเสียชีวิตของคนไทย ที่ส่วนใหญ่เกิดมาจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือต้องให้ประชาชนมีความรู้เพียงพอที่จะป้องกันตนเอง ใช้ชีวิตถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค ที่ผ่านมา อสม. ที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ และบางครั้งต้องควักกระเป๋าตนเองเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างทำงาน รัฐบาลชุดนี้จึงมีนโยบายที่จะให้ค่าตอบแทน อสม.เป็นรายเดือน เดือนละ 600 บาท ซึ่งไม่ถือว่าเป็นเงินเดือน โดยค่าตอบแทนนั้นจะต้องผูกโยงกับงานที่รับไปทำกับทางรัฐบาล หรือพูดง่ายๆต้องแลกด้วยผลงาน โดย อสม. จะต้องผ่านการฝึกอบรมและขึ้นทะเบียน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ฝากงานให้ อสม.ทำเพิ่มเติม 2 เรื่องใหญ่ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องเด็ก เด็กอ่อน หรือเด็กเล็กมากขึ้น เพราะเรื่องเรียนฟรีก็เป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนแล้ว แต่เด็กของเราควรได้รับโอกาสตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ที่สำคัญมากคือการปรับปรุงในเรื่องโภชนาการ อาหารการกินของแม่ ระหว่างตั้งครรภ์ จนถึงการดูแลเด็กเล็กที่ถูกต้อง และเรื่องที่ 2 คือการกระตุ้นให้คนไทยรักการอ่านหนังสือ โดยจะให้ อสม.รณรงค์ให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ให้เด็กมีความคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้วางความพร้อมในการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม.ทั่วประเทศกว่า 8 แสนคนแล้ว โดยได้จัดประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่และ อสม.ในเรื่องแนวทางการทำงานในหมู่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยเน้น 2 เรื่องหลัก คือการส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนมีสุขภาพดีทุกวิถีทาง และการป้องกันโรคทั้งโรคติดเชื้อต่างๆ และโรคที่เกิดจากพฤติกรรมหรือโรคจากวิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง

No comments:

Post a Comment