7/31/08

ต้อนรับพรชัย ทองบ่อ สาธารณสุขอำเภอไทยเจริญ




วันพฤหัสบดี ที่ 31 กรกฎาคม 2551 เช้า นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว เข้าร่วมประชุม หัวหน้าส่วนราชการ ที่ ห้องประชุมที่ว่าการชั้น 2 อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
ต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ ท่านพรชัย ทองบ่อ สาธารณสุขอำเภอไทยเจริญ และคณะ เนื่องในโอกาสมาให้คำแนะนำ ในการตรวจสอบภายใน สถานีอนามัยในเขต อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
ออกแบบและหาข้อมูลประกอบการจัดทำแผน การเงินการคลังประจำปี งบประมาณ 2552 ให้กับ สถานีอนามัยทุกแห่ง
ขอบคุณ นายวีระวัฒน์ กำศร จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สถานีอนามัยนาคำ ที่มาช่วยดูแลคอมพิวเตอร์ ใน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ให้สามารถใช้งานได้เป็นปกติ ทั้งนี้ นายวีระวัฒน์ กำศร นั้นเป็นทีมงาน IT ประจำอำเภอ ร่วมกับ นายสุนทร วิริยะพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว ที่พวกเราไว้วางและเชื่อมั่นในฝีมือ

ครู นักเรียน โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ บริจาคโลหิต




วัน พุธ ที่ 30 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.29 น. นางจำนรรจา บุญแจ้ง จนท.บริหารงานสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว ไปร่วมต้อนรับคณะศึกษาดูงาน จากอำเภอไทยเจริญ มาดูงาน ชมรมผู้สูงอายุ ที่ สถานีอนามัยนาเวียง
เวลา 08.39 น. นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นางอภิญญา บุญถูก นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว นายทศพล แสนสวาสดิ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว ทำทีม จนท.ไปร่วมอำนวยความสะดวก และให้บริการแก่ประชาชนที่มาร่วมทำความดี โดยการบริจาคโลหิต ให้กับสภากาชาดจังหวัดยโสธร ที่ โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ คุณความดีในงานวันนี้ต้องชื่นชม คณะลูกๆ นักเรียน และคณะครู จาก โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ ในงานวันนี้ เจาหน้าที่จาก สถานีอนามัยที่มาช่วยงานวันนี้ อาทิ นายสมัคร พุ่มทอง หัวหน้าสถานีอนามัยทุ่งมน นางฉลวยศรี ไชยนา พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยย่อ นางพิไลลักษณ์ จักรวรรณพร จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สอ.กู่จาน นางปราณี ศรีแสน นักวิชาการสาธารณสุข 7 สถานีอนามัยกุดกง นางเรณู พุ่มทอง จพ. สาธารณสุขชุมชน 6 สถานีอนามัยโพนทัน นางสุนิสา วงชาลี พยาบาลวิชาชีพ 7สถานีอนามัยนาคำ นางวงเดือน วงศ์อนันต์ พยาบาลวิชาชีพ 7 สอ.นาหลู่ เป็นต้น ซึ่งผมขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่แล้ว หากไม่ติดภารกิจด่วนจริง ท่านเหล่านี้จะเสียสละมาร่วมในงานที่เป็นกุศลเหล่านี้ด้วยดีเสมอมา

7/30/08

มาตรฐานระบาดวิทยา ณ สถานีอนามัยสงเปือย







วัน พุธ ที่ 30 กรกฎาคม 2551 เวลา 13.09 น. ท่าน วิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ให้เกียรติ อำนวยความสะดวก แก่คณะกรรมการ จาก สคร 7 โดยให้ใช้รถประจำตำแหน่ง พา คณะกรรมการมา ประเมิน จาก สำนักงานควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี ประกอบด้วย น.ส.เตือนใจ คำมูล น.ส.สำรวย ศรศรี ไป ประเมิน มาตรฐานระบาดวิทยา ณ สถานีอนามัยสงเปือย โดยมี นางป้อมเพชร สืบสอน หัวหน้าสถานีอนามัยสงเปือย นางดรรชนี เขียนอก จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สอ.สงเปือย นางสุพัตรา วิเศษโวหาร พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยสงเปือย ให้การต้อนรับ ผลการประเมินแบบ Surprise Visit ครั้งนี้ สถานีอนามัย ได้ ร้อยละ 66.67 สิ่งที่ผมประทับใจในวันนี้คือ แม้ว่าเราจะไม่บอกล่วงหน้าให้ จนท.สอ.สงเปือยรู้ เพราะ ท่านวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ต้องการทราบสถานการณ์ที่เป็นจริง จากการประเมินของ คณะกรรมการที่เป็นกลาง จาก สคร.7 แต่ ทีมงานของ สถานีอนามัยสงเปือย มีผลการประเมินใรระดับ ร้อยละ 66.67 ถือว่าสูมาก และความประทับใจที่ 2 คือ นางป้อมเพชร สืบสอน หัวหน้าสถานีอนามัยสงเปือย วันนี้พูดขอบคุณคณะกรรมการได้ดีมากๆ เหมาะสมแล้ว กับตำแหน่ง หัวหน้าสถานีอนามัยระดับ 7 เลิกงานไปปลูกมัน ซ่อม แซม ในส่วนที่ตาย และ ใบริเวณ พื้นที่ ที่เหลือ ซื้อมา 4 มัด มัดละ 60 บาท จากบ้านดอนชี

สคร. 7 ประเมินมาตรฐานระบาดวิทยา คำเขื่อนแก้ว


วัน พุธ ที่ 30 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.09 น. ต้อนรับคณะกรรมการ ประเมินมาตรฐานระบาดวิทยา ซึ่ง นายปรีชา ลากวงษ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร นำทีม คณะกรรมการมา ประเมิน จาก สำนักงานควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี ประกอบด้วย นายศักดา ธุระอบ น.ส.เตือนใจ คำมูล น.ส.สำรวย ศรศรี ประเมินมาตรฐาน ศูนย์ระบาดวิทยาอำเภอ คำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร วันนี้ ท่าน วิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วนำทีมต้อนรับคณะกรรมกาด้วยตนเอง มี นายสุนทร วิริยะพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ(วิชาการ) ร่วมรับการประเมิน เวลา 10.09 น. ต้อนรับคณะกรรมการตรวจสอบภายใน จาก อำเภอมหาชนะชัย นำโดย นายศุภเกียรติ บุญทศ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอมหาชนะชัย นางจำเนียร สนามทอง จนท.การเงิน โรงพยาบาลมหาชนะชัย และจนท.การเงิน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอมหาชนะชัย

7/29/08

อุทาหรณ์ ที่ดี สำหรับ ผู้ปกครองทุกท่าน

วันอังคาร ที่ 29 กรกฎาคม 2551 เวลา 08.39 น. นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นำทีมไปต้อนรับคณะกรรมการประเมิน โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร ที่ โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร อำเภอคำเขื่อนแก้ว นายเนอเกียรติ พราวศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ร่วมต้อนรับคณะกรรมการ จาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร นำทีมโดย นพ.จิณณพิภัทร ชูปัญญา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร
เวลา 10.09 น. ไปร่วมต้อนรับคณะศึกษาดูงาน จำนวน 150 คน จาก สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี นำทีมโดย นายสมัย พูลทอง สาธารณสุขอำเภอเขื่องใน
ประเมินผลงานการคัดกรองความเสี่ยงในงานส่งเสริมสุขภาพ ของ สถานีอนามัยประจำเดือน กรกฎาคม สัปดาห์นี้ สถานีอนามัยแคนน้อย สามารถมีผลงานระดับดีเยี่ยม 100 % เพิ่มเป็น แห่ง ที่ 10
ข่าวที่ น่าจะเป็นอุทาหรณ์ สำหรับ ผู้ปกครองได้ดี ในวันนี้ คือ ข่าวนี้ครับ วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุทธินันท์ หวังหอมกลาง นายมงคล ศรีพูล และนายชาตรี จูวรรณะ 3 นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนและพาอาวุธมีดติดตัวไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2549 จำเลยได้ร่วมกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 6 คน ก่อเหตุยิง นายเบญจพล วิริยารัมภะ นักศึกษาชั้นปี 2 คณะเทคโนโลยีภูมิทัศน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิตในซอยลาดพร้าว 124 สาเหตุเพราะความโกรธแค้นระหว่างสถาบัน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คำเบิกความของพยานโจทก์ที่นำสืบสอดคล้องกัน และรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย การที่จำเลยอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมให้รับสารภาพในชั้นสอบสวน ฟังไม่ขึ้น เพราะขณะสอบปากคำมีบุคคลอื่นร่วมรับฟังด้วย และรับสารภาพด้วยความสมัครใจ จึงเชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 3 กระทำความผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาให้ประหารชีวิตในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
ส่วนความผิดพาอาวุธมีดปรับ 90 บาท ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจำคุก 2 ปี และฐานพาอาวุธปืนจำคุก 1 ปี แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีมีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 ให้จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 60 บาท พร้อมให้ชดใช้เงินค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหาย จำนวน 4.25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง ...ตามความคิดเห็นของผม นับว่าการพิพากษาครั้งนี้ เป็นไปตามหลักของการมีกฎหมาย คือ เพื่อ สร้างหลักเกณฑ์ในการควบคุมมนุษย์ ที่อยู่ในสังคมให้อยู่ร่วมกันเป็นปกติสุข โดยแท้ ... และพวกเราต้องช่วยกัน ดูแลลูกหลานของเราให้ดี จะได้ไม่เกิดกรณีที่น่าสะเทือนใจเช่นนี้อีก

7/28/08

น้ำใจที่ดีมาก ของ พี่เครือวัลย์ คนชม มอบbonus ให้น้องแพร และ สมร


เวลา 14.29 น. หลังการประชุมท่านวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้มอบเงิน Bonus ให้กับ เจ้าหน้าที่ทุกคนด้วยตนเอง ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมกำลังใจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง เพราะ ถือว่าผลงานที่พวกเราได้ร่วมทำด้วยกัน ในลักษณะของการทำงานเป็นทีมที่ดีนั้น ถึงวันนี้พวกเราก็ร่วมรับผลแห่งการทำงานร่วมกัน ผลแห่งการทำงานอย่างมีความสุขของพวกเรา และจากการประชุมในวันนี้มีภาพที่ผมประทับใจ มากขอบันทึกไว้ เพื่อสดุดี ความมีน้ำใจของ นางเครือวัลย์ คนชม หัวหน้าสถานีอนามัยนาเวียง ท่านมอบเงิน Bonus ส่วนตัว ที่ได้รับ มอบให้กับ นายสมร พลทิพ์ ลูกจ้างชั่วคราว สสอ.คำเขื่อนแก้ว และ นางสาวสุภาภรณ์ เกษมณี พนักงานธรการ สสอ.คำเขื่อนแก้ว คนละจำนวน 200 บาท ในความเห็นของผม ถือว่าเป็นตัวชี้วัดกาทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข เพราะต่างคนต่างช่วยเหลือ และต่างคนต่างแบ่งปันความสุข ซึ่งกัน และกัน และถือเป็นตัวอย่างแห่งการทำความดี ที่ผมพบเห็นประจำวันนี้

ประสานเงินBonus ที่คลาดเคลื่อนให้กับ จิราพร พัชรกมล

วันจันทร์ ที่ 28 กรกฎาคม 2551 ประชุมร่วมกับ สภาเทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว เพื่อให้ความเห็น และให้คำแนะนำในการจัดทำแผนงานด้านสาธารณสุขและอนามัยสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ 2552 ณ ห้องประชุม เทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว โดยมี นาย ประธานสภาเทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว เป็นประธานการประชุม และนายประพนธ์ โตจำเริญ นายก เทศมนตรีเทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว นำคณะ เสนอแผนงบประมาณประจำปี
ให้คำแนะนำแก่เทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว ใน 3 โครงการคือ โครงการเมืองน่าอยู่ โครงการหน้าบ้านน่ามอง โครงการชุมชนน่าอาศัย เพื่อให้เภอคำเขื่อนแก้ว เป็นเมืองน่าอยู่ และเป็นศักดิ์ เป็นศรีแก่ชาวคำเขื่อนแก้ว
ประชุม เชิงปฏิบัติการ การกระจายอำนาจด้านสุขภาพ กรณีศึกษาการถ่ายโอนสถานีอนามัยในจังหวัดยโสธร ณ ห้องประชุมพญาแถน ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย หัวหน้าสถานีอนามัย นายก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต. ) จากอำเภอทุกอำเภอ เวลา 14.09 น. ประชุม ข้าราชการในสังกัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เพื่อนำเสนอผลงานดีเด่น ของแต่ละแห่ง ประกอบ การจัดสรรเงินรางวัลประจำปี โดยใช้ผลงานประจำปีงบประมาณ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2550 ถึง 30 มิถุนายน 2551 และ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว มอบเงิน ให้กับ คณะข้าราชการตามปริมาณงานและผลงานที่ได้รับ ทั้งนี้ ในภาพรวมแล้ว อำเภอคำเขื่อนแก้ว ถือว่ามีผลงาน ในการทำงานเป็นทีมที่ดีหลายอย่างจนได้รับการจัดสรรค่าตอบแทนเป็นจำนวนที่มากพอสมควร จากผู้บังคับบัญชา ในระดับจังหวัด
ประสานงานสำหรับ จนท.ที่ได้รับเงินค่าตอบแทน(เงินางวัล) Bonus ประจำปี ที่คลาดเคลื่อน จำนวน 2 คน คือนางจิราพร เขาทอง พยาบาลวิชาชีพ 7สถานีอนามัยแคนน้อย และ นส. พัชรกมล ไศลบาท จพ.ทันสาธารณสุขชุมชน

7/27/08

เขาพระวิหาร คนไทย ตกเป็นเครื่องมือ เสวยอำนาจ ของชาวเขมร

วันอาทิตย์ ที่ 27 กรกฎาคม 2551 ท่ามกลางวิกฤติของประเทศ ทั้งน้ำมันราคาลิตรละ 50 บาท ปุ๋ยกระสอบละ 1,600 บาท ไก่ย่างไม้ละ 80 บาท การเมืองวุ่นวาย เกิดศึกแย่งชิงมวลชน รัฐบาลให้ร้ายอันธพาล ก่อความวุ่นวายกับกลุ่มผู้ชุมชุม อย่างไม่ลดราวาศอก บางจังหวัดถึงกับมีการทำร้ายกันบาดเจ็บมากมาย น่าประณามมากที่สุดคือ ผู้ที่สร้างกระแสให้เกิด การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่ม นปก. หรือกลุ่มต่าง เช่น ชมรมคนรักอุดรฯ ที่ จ.อุดรธานี เป็นต้น
ท่ามกลางวิกฤติ วันนี้ มีสิ่งที่ดีที่สุดสำหับประชาชน จังหวัดยโสธร วันนี้คือ มีฝนตก แม้จะไม่มีน้ำขังตามทุ่งนา แต่ ฝนที่ตก ปรอยๆ พรำๆ ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น นั้น ถือว่า เป็น น้ำมนต์วิเศษสุด ที่มาพรมหัวใจของประชาชน รู้สึกดียิ่งกว่า น้ำคำของผู้ใหญ่ในรัฐบาล ที่ออกข่าว เอาตัวรอดให้ตนเองไป ทุวันอาทิตย์ อย่างน้อยก็ พอมีน้ำ ให้ข้าว กล้าได้ฟื้นตัวบ้าง หลังจากที่ ฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลานาน ทำให้ข้าวในนาแห้งตายไปเป็นอันมาก ปีนี้ปี พ.ศ. 2551 นับเป็นปี ที่แล้งที่สุด ตั้งแต่ผมจำความได้... หากจะแก้ปัญหาของประเทศ ให้ยั่งยืนจริงๆ รัฐบาลใดทำได้ ผมจะถือว่าเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อน คือการจัดการ น้ำทั้งระบบให้กับประชาชน หากไม่มีท่วม ไม่มีฝนแล้ง มีน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตร แม้ไม่ตลอดปี แต่ขอให้มีตามฤดูกาล ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว นี่คือ เป้าหมายสูงสุดของราษฎร ซึ่งสำคัญ ยิ่งกวา คำสัญญาใดๆ ที่เป็นเพียงสัญญาลมๆ แล้งๆ ในการเลือกตั้งในทุกระดับ ของประเทศไทย
ไปส่ง ลูกชาย เด็กชายภูมิพันธุ์ จันทร์สว่าง ที่ หอพัก หน้า โรงเรียนเบญจะมะมหาราช อุบลราชธานี และ พา นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง ไปประชุม ผู้ปกครอง นักเรียน EP ที่โรงเรียนเบญจะมะมหาราช อุบลราชธานี ..... เรื่องเขาพระวิหาร ที่คนไทยกำลังแตกแยกกันอยู่ขณะนี้ อีกฝั่งหนึ่ง เขมร เขาบรรลุวัตถุประสงค์ของการปลุก กระแสชาตินิยม ตกเป็นเครื่องมือ ของ พ่อมด การเมือง ของต่างประเทศ โดยหวังผลพียงชนะการเลือกตั้ง ภายในประเทศ เท่านั้น รายละเอียดดังข่าว จาก Bangkokpost วันนี้
Hun Sen rides temple to victory .The border dispute with Thailand has fuelled nationalist sentiment, ensuring victory in the Cambodian national elections for Prime Minister Hun Sen, the former Khmer Rouge leader who has ruled for 23 years. Prime Minister Hun Sen's Cambodian People's Party is expected to further increase its dominance, with the opposition Sam Rainsy Party, the royalist Funcinpec party, the Human Rights Party and the Norodom Ranariddh Party expected to vie for the remaining seats.
The Cambodian People's Party, boasting 5 million members, currently holds 73 of the 123 parliamentary seats and conservatively predicted it could snare 80 seats Sunday.
Funcinpec currently holds 26 seats, and the Sam Rainsy Party 24.
Hun Sen has ruled for 23 years, but is enjoying a new surge in popularity due to Cambodia's rapid economic growth, which the International Monetary Fund placed at around 10.5 per cent in 2007.

7/25/08

ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขยโสธร


วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม 2551เวลา 13.29 น. ประสานงานบุคลากร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร เพื่อรับเอกสารของ นักเรียน โครงการกระจายแพทย์ หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ( One District One Doctor : ODOD) เพื่อนำไปคืนให้กับเจ้าตัว สรุป นร. ที่สมัคร ณ จุด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว มีผู้ผ่านรอบ 40 คนแรกถึง 9 คน นับว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก จากที่ส่งไปทั้งหมด 22 คน เตรียมเอกสาร ให้กับ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประกอบการพิจารณาจัดสรร Bonus UC ให้กับ จนท.ในสังกัด จำนวน 65 คน เวลา 13.49 น. เข้าปฏิบัติงานการตรวจสอบกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขยโสธร จำกัด ประจำเดือน มิถุนายน 2551 ณ สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขยโสธรจำกัด จนท. สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขยโสธรจำกัด อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานด้วยดี เช่น น้องติ๊ก น้องหมวย น้องหยก ป้าถั่วแปบ เป็นต้น แต่ดูๆแล้ว น้องๆ น่ารักๆกันทั้งนั้น นับว่าเป็นการส่งเสริมบรรยากาศที่ดีในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง

ปริญญา มาแสวง นักพัฒนา Web เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน




วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม 2551 เช้าประสานความช่วยเหลือ เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการรักษาพยาบาลแก่ นางสาวหทัยชนก รวมธรรม อายุ 16 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่ 6 ตำบล ดงเจริญ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งป่วยมีภาวะไตวายเรื้อรัง ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยผู้ป่วยต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล เดือนละ 4 ครั้ง ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 26,000 บาทต่อเดือน(ซึ่งใช้เงินจากประชาชนในหมู่บ้านที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินให้ความอนุเคราะห์เป็นค่ารักษาพยาบาล) จากการตรวจสอบจากสถานีอนามัยดงเจริญ ผู้ป่วยรายนี้มีฐานะยากจนมาก บิดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ไม่มีความสามารถในการร่วมจ่าย ปัจจุบัน อาการป่วยในปัจจุบันส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยจากอาการทรมานดังกล่าว จึงร้องขอความช่วยเหลือขอความอนุเคราะห์ด้านการักษาพยาบาล
เวลา 13.09 น. ประสานงานและส่งเอกสาร ให้กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร เพื่อ ขอUser และ Password ประกอบการปฏิบัติงานขึ้นทะเบียน โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้กับ สถานีอนามัย 16แห่ง และ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก ได้ ขอ User และ Password ทั้ง เจ้าหน้าที่นายทะเบียนหน่วยบริการ และ นายทะเบียนตรวจสอบสิทธิ และชื่นชมการ Create งาน ของ นายปริญญา มาแสวง หัวหน้างานIT กลุ่มงานประกันสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ที่ออกแบบ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ให้กับ จนท.หน่วยบริการ ทุกแห่ง โดย ออกแบบและสนับสนุนข้อมูล ทางหน้า Website และที่สำคัญมีการรับฟังความคิดเห็นจากเจาหน้าที่ผู้ปฏิบัติ พร้อมปรับปรุงให้ตรงตามความต้องการขอผู้ใช้งาน และวันนี้ ปรับปรุง เมนู การจัดการสิทธิว่าง สามารถดูรายละเอียดได้ ถึงในระดับหมู่บ้านรับผิดชอบ ถือว่าเป็นความก้าวหน้าอีกขึ้นหนึ่ง ในการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิ โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ของจังหวัดยโสธร หมายเหตุ : แนะนำ สมาชิกในครอบครัวที่น่ารักของเรา ประจำวันนี้ น้อง ออดี้ Audi เด็กชาย ภูริจักษ์ เขาทอง ลูกชายที่น่ารัก ของ นางจิราพร เขาทอง พยาบาลวิชาชีพ 7สถานีอนามัยแคนน้อย

7/24/08

ประชุมสรุปผลการซ้อมแผนไข้หวัดนกที่ รพ.คำเขื่อนแก้ว




วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551การซ้อมแผนควบคุมโรคไข้หวัดนก นอกจากรายชื่อที่กล่าวไปแล้ว มี จนท.ที่ไปร่วมงานในวันนี้ นางเดือน ตั้งจิต หัวหน้าสถานีอนามัยนาหลู่ นายวีระวัฒน์ กำศร จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สถานีอนามัยนาคำ (ทำหน้าที่ช่างภาพ) นายพรรณลิน อาจวิชัย จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สถานีอนามัยนาเวียง (ทำหน้าที่ช่างภาพ) นางสาวอุทัยวรรณ สุภี จพ.ทันตสาธารณสุข 6 สถานีอนามัย่อ นายบุญทศ ประจำถิ่น จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สถานีอนามัยดงเจริญ นายอรุณ ฉายแสง หัวหน้าสถานีอนามัยโพนทัน นางดรรชนี เขียนอก จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สอ.สงเปือย นายทศพล แสนสวาสดิ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว นางจิราพร ขอสุข พยาบาลวิชาชีพ 7สถานีอนามัยโพนสิม นางปฏิมา เจริญทรัพย์ พยาบาลวิชาชีพ 7 โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และ นายสมร พลทิพย์ ลูกจ้างชั่วคราว สสอ.คำเขื่อนแก้ว เวลา 15.29 น. ประชุม สรุป ผลการปฏิบัติงานเพื่อหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ที่ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ประธานการประชุม โดย นางจินตนา ศรีภักดี หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค งานนี้ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นำทีม จนท. ทั้งจาก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ร่วมรับฟัง ต้องขอขอบพระคุณ นางอนงค์ลักษณ์ ฤทธิวุฒิ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล นางนัยนา ดวงศรี พยาบาลวิชาชีพ 7 และทีมงาน ที่จัดเตรียมการประชุมสรุปผลงานในวันนี้ได้อย่างดี
วันนี้ลูกสาว กลับมาถึงบ้าน 6 โมงเย็น สังเกตเห็น ว่าลูกสาว สูงขึ้น จึงยืนเทียบกันดู พบว่าสูงเท่าพ่อแล้ว พรุ่งนี้จะพา ลูกสาว  ไปทำบัตรประชาชน

นางจินตนา ศรีภักดี ให้เกียรติออกมาร่วมสังเกตการณ์ซ้อมแผน




วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551การซ้อมแผนควบคุมโรคไข้หวัดนก การปฏิบัติงานในวันนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายสุดใจ รวมธรรม ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนบ้านหนองแปน นางสุภาวดี ขอสุข หัวหน้าสถานีอนามัยบกน้อย นางเกษรินทร์ วงเวียน พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยบกน้อย นส.จิตร์สุดา อรจันทร์ จพ.สาธารณสุขชุมชน สอ.บกน้อย ในฐานะเจ้าของพ้นที่รับผิดชอบ นายคมสัน อดกลั้น หัวหน้าสถานีอนามัยนาแก ที่นำ คณะ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม . ) บ้านปลาอีด มาร่วมงาน พร้อมทั้ง จนท. จาก องค์การบริหารส่วนตำบลดงแคนใหญ่ นางนัยนา ดวงศรี พยาบาลวิชาชีพ 7 และคณะ จนท. โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว
การซ้อมแผนในวันนี้ ต้องขอขอบพระคุณคณะ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ที่ให้เกียรติออกมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย นำโดย นางจินตนา ศรีภักดี หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค นส.จรรยา ดวงแก้ว นายปรีชา ลากวงษ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสจ.ยส. และนาย ธนชัย ยุตะวัน 086 872 2433

ซ้อมแผนสอบสวนโรคไข้หวัดนก โดยทีม ทีม SRRT




วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551การซ้อมแผนควบคุมโรคไข้หวัดนก จุดที่ 2 เป็นการให้สุขศึกษาเรื่องไข้หวัดนก และการป้องกันการแพร่ระบาด โดย นายนภดล หล้าแหล่ง ปศุสัตว์อำเภอ นางมนัชยา กองทำ หัวหน้าสถานีอนามัยแคนน้อย และ นางดรรชนี เขียนอก จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สอ.สงเปือย
จุดที่ 3 เป็นการออกสอบสวนโรค โดยทีม ทีม SRRT (Surveillance and Rapid Response Team) ซึ่งวันนี้คือ นายสุนทร วิริยะพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว นายสุรินันท์ จักรวรรณพร นักวิชาการสาธารณสุข 7 สถานีอนามัยโพนทัน สอบสวนเสร็จ รายงานการสอบสวนให้ นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ(วิชาการ) ฐานะผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อ ตัดสินใจการป้องกันควบคุมโรค จากนั้น ประสานไปยัง โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว เพื่อนำรถมารับผู้ป่วยไป โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และประสานงานไปยัง ปศุสัตว์อำเภอ เพื่อนำทีมเจ้าหน้าที่ มาพนทำลายเชื้อ และเก็บซากสัตว์ปีก ไปส่งตรวจที่จังหวัดสุรินทร์ ต่อไป จุดที่ 4 เป็นจุดการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ชุมชนอื่น โดย ให้ อปพร. จากบ้านหนองแคน บกน้อย และหนองแปน ตั้งจุดสกัดรถ พร้อมทั้งพ่นทำลายเชื้อ ให้กับรถทุกคันที่ผ่านเข้าออก

2551การซ้อมแผนควบคุมโรคไข้หวัดนก หนองแปน




วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551การซ้อมแผนควบคุมโรคไข้หวัดนก การปฏิบัติงานวันนี้ จำลองกรณีเหตุการณ์เมื่อได้รับแจ้งว่าพบผู้ป่วยสงสัยเป็นไข้หวัดนก จำนวน 2 คน เป็นผู้สูงอายุ 1 คน คนหนุ่ม 1 คน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม . ) รายงานไปที่ จนท. สถานีอนามัยบกน้อย จนท. สถานีอนามัยรายงาน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประสาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร และประสนไปยัง ปศุสัตว์อำเภอ เพื่อร่วมกันออกควบคุมโรค กับทีม SRRT ทีมควบคุมโรคระดับอำเภอ ทีม SRRT (Surveillance and Rapid Response Team) เป็นทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ประจำหน่วยงานสาธารณสุขที่มีพื้นที่รับผิดชอบในด้านการป้องกันควบคุมโรค ซึ่ง แบ่งเหตุการณ์จำลองออกเป็น 4 จุด คือ จุดที่ 1 นายสุดใจ รวมธรรม ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ทางหอกระจายข่าว ให้ประชาชนทราบถึงการปฏิบัติ และ นัดหมายให้ไปรับคำชี้แจงจาก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ ศาลากลางบ้าน

ประชุมเรื่องโรคไข้หวัดนก ที่บ้านหนองแปน




วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.09 น . ประชุม การป้องกันและเฝ้าระวัง โรคไข้หวัดนก ที่ ห้องประชุม ศาลากลางบ้าน บ้านหนองแปน หมู่ที่ 8 ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย หัวหน้าสถานีอนามัย และผู้รับผิดชอบงาน ควบคุมโรค ทุกแห่ง จนท.จากปศุสัตว์อำเภอ จาก องค์การบริหารส่วนตำบลดงแคนใหญ่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม . ) จาก บ้านบกน้อย หนองแคน ปลาอีด และประชาชนบ้านหนองแปน รวมจำนวน 100 คน
เวลา 13.09 น . ก่อนการซ้อมแผน นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้ชี้แจงการปฏิบัติงานให้กับประชาชนทราบถึง เหตุผลความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติงานในวันนี้ พร้อมทั้ง ขอบพระคุณ ประชาชนทุกท่านที่เสียสละเวลามาร่วมงาน ทั้งๆที่ เป็นฤดูกาล การทำนาก็ตาม

7/23/08

ประสิทธิภาพการบันทึกฐานข้อมูลสถานีอนามัย (HCIS)











วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม 2551 ประสิทธิภาพการบันทึกฐานข้อมูลสถานีอนามัย (HCIS) ลำดับ6กู่จาน 89.98 ลำดับ7แคนน้อย 89.91 ลำดับ8โพนทัน89.70ลำดับ9ทุ่งมน89.63ลำดับ10โพนสิม 89.50 ลำดับ11ย่อ 89.13 ลำดับ12บ้านนาเวียง88.77ลำดับ13สงเปือย88.64 ลำดับ14กุดกุง 88.48ลำดับ15นาคำ88.17 ลำดับ16คำเขื่อนแก้ว87.21 ลำดับ17ดงแคนใหญ่ 85.56 บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยบรรยากาศที่มีความสุข เจ้าหน้าที่จากสถานีอนามัยทุกแห่ง ต่างชื่นชมและพอใจในผลงานของตนเอง และที่สำคัญ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ในส่วนตัวผมเอง ต้องชื่นชม นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ที่มีนโยบายในเรื่องนี้ที่ชัดเจน และ รางวัล Handy Drive ที่ มอบให้ถือว่ามากด้วยคุณค่า และ คนรับก็ภาคภูมิใจ ที่ทีมงานช่วยกัน อย่าง ขะมักเขม้น ผมเองรู้สึกประทับใจในความพยายามในการปฏิบัติงานนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ สถานีอนามัยที่มีปริมาณงานมากเช่น สถานีอนามัยย่อ สถานีอนามัยสงเปือย แต่ผลงานที่ออกมาผมถือว่า อยู่ในระดับที่ดีมากๆ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะ Clean ข้อมูล จำนวน Record ที่มากๆ ในระยะเวลาอันสั้น และในขณะที่งานด้านอื่นๆก็ต้องปฏิบัติเป็นปกติ

มอบรางวัล สอ.ที่ผลงานดี การบันทึกผลงาน 18 Files




วันอังคาร ที่ 23 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.09 น . ประชุมวิชาการ การดำเนินงานป้องกันและคบคุมโรคเอดส์ สำหรับ จนท. ที่ปฏิบัติงาน ที่ สถานีอนามัยทุกแห่ง และ โรงพยาบาล ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร วิทยากร จาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
เวลา 11.09 น . แก้ไข และประมวลผล ประสิทธิภาพ การบันทึกฐานข้อมูลสถานีอนามัย (HCIS) ของ สถานีอนามัยทุกแห่ง และเตรียมไฟล์ประกอบการประชุม
เวลา 13.09 น . ประชุม หัวหน้าสถานีอนามัย และเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันบันทึกข้อมูล เพื่อติดตาม ผลประสิทธิภาพการบันทึกฐานข้อมูลสถานีอนามัย (HCIS) ของ สถานีอนามัยทุกแห่ง วันนี้นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ร่วมชื่นชมในผลการปฏิบัติงานที่ดีมากๆ ของ สถานีอนามัยทุกแห่ง ท่านได้มอบรางวัล และ ใบประกาศเกียรติคุณ ให้กับ สถานีอนามัย ดงเจริญ ได้รับ 2 รางวัลทั้ง ผลงานการปฏิบัติงานดีอย่างต่อเนื่อง สถานีอนามัยบกน้อย ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศหลังจากครบกำหนดส่งข้อมูล และสถานีอนามัย ต่างๆ ซึ่งมีผลงานในภาพรวมทั้ง 18 แฟ้มดังนี้
ลำดับ1 บ้านบกน้อย 91.76 Handy Drive 1 ตัว พร้อมเกียรติคุณบัตร
ลำดับ2เหล่าไฮ 91.02 Handy Drive 1 ตัว พร้อมเกียรติคุณบัตร
ลำดับ3นาแก 90.78 Handy Drive 1 ตัว พร้อมเกียรติคุณบัตร
ลำดับ3บ้านนาหลู่ 90.78 Handy Drive 1 ตัว พร้อมเกียรติคุณบัตร
ลำดับ5ดงเจริญ 90.03 Handy Drive 1 ตัว พร้อมเกียรติคุณบัตร

7/22/08

ประเมินประสิทธิภาพการบันทึกฐานข้อมูลสถานีอนามัย (HCIS)




วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม 2551เวลา 13.09 น. ประชุม ชี้แจงเรื่องการเบิกเงิน เงิน พตส. คือ เงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่งด้านสาธารณสุข เป็นค่าตอบแทนการปฏิบัติงานสำหรับพยาบาล และเรื่องการเพิ่มพูนความรู้สำหรับพยาบาล ที่ปฏิบัติงานใน สถานีอนามัย ทุกคน โดยเชิญ นางอนงค์ลักษณ์ ฤทธิวุฒิ หัวหน้กลุ่มงานการพยาบาล มาเป็นวิทยากรให้ความรู้เพิ่มเติม ณ ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
เวลา 14.09 น ประเมินประสิทธิภาพการบันทึกฐานข้อมูลสถานีอนามัย (HCIS) ของ สถานีอนามัยทุกแห่ง ประกอบข้อมูลนำเข้าในการประชุม หัวหน้าสถานีอนามัยและผู้รับผิดชอบงานในวันพรุ่งนี้ ภาพที่ผมประทับใจมากในวันนี้คือ ภาพการที่ น้องจาก สถานีอนามัยต่างๆ กระตือรือร้น และติดตาม ที่จะแก้ไข ให้ถูกต้องและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ที่เห็นมาส่งและมาติดตามถึง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว เมื่อวานนี้มี นางทานตะวัน คำวัง พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยย่อ นางระพีพรรณ สว่างแสง พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยดงเจริญ นางดรรชนี เขียนอก จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สอ.สงเปือย นางพิไลลักษณ์ จักรวรรณพร พยาบาลวิชาชีพ 6 สอ.กู่จาน เป็นต้น ส่วนวันนี้ มี นางมนัชยา กองทำ หัวหน้าสถานีอนามัยแคนน้อย นางสุนิสา วงชาลี พยาบาลวิชาชีพ 7สถานีอนามัยนาคำนายอาณัติ ศรีเธาว์ หัวหน้าสถานีอนามัยดงเจริญ นางรัศมี โซ่เงิน พยาบาลวิชาชีพ สถานีอนามัยนาหลู่ นางวงเดือน วงศ์อนันต์ พยาบาลวิชาชีพ 7 สอ.นาหลู่ เจ้าหน้าที่ สถานีอนามัยทุกคนถือว่าเป็นการทำงานในความรับผิดชอบของตนเองให้ดีที่สุด ผมเองในฐานะที่รับผิดชอบการปฏิบัติงานนี้ในระดับอำเภอ เข้าใจ ขอชื่นชมและภูมิใจ รวมทั้งเห็นอกเห็นใจ ในการทำงานหนักของแต่ละคนเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะแก้ไขและบันทึกข้อมูล ให้แต่ละแฟ้มได้ประสิทธิภาพ 100% ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยความจริงใจอีกครั้งหนึ่งครับ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจได้ออกแบบใบประกาศเกียรติคุณ สำหรับ สถานีอนามัยที่มีผลงานดี ตั้งแต่ร้อยละ 99 ขึ้นไป

กรรมการประเมินโครงการหน้าบ้าน น่ามอง อบต .กุดกุง




วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.09 น. ออกประเมินโครงการหน้าบ้าน น่ามอง โดยประชุมคณะกรรมการที่ องค์การบริหารส่วนตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เป็นโครงการร่วม ของ อบต .กุดกุง และ สถานีอนามัยกุดกุง นายอุตส่าห์ โพธิ์ศรี หัวหน้าสถานีอนามัยกุดกุง ประสานงานได้ดีมาก กับ นายก องค์การบริหารส่วนตำบล กุดกุง ในการปฏิบัติงานตามโครงการนี้ ออกประเมินในภาพรวมผลงานของหมู่บ้าน ใน 7 หมู่บ้าน
ทำหน้าที่ ประธนกรรมการ และมีกรรมการออกประเมินทั้งสิ้น 12 คน ประกอบด้วย 1. นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ(วิชาการ) ประธานกรรมการ2. นายเอ ยวนใจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านกุดกุง 3. นายสุดที กกเปือย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านโนนม่วง4. นายนิยม สร้อยหล้า ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านนาโพธิ์5. นายทองสัน สืบญาติ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านเหล่ามะเขียว6. นายบุญตา หัวดอน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านทรายงาม7. นายทองหล่อ ทองจิตร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านใหม่มงคล8. นางดรรชนี เขียนอก จพ.สาธารณสุขชุมชน 6 สอ.สงเปือย 9. นางจำนรรจา บุญแจ้ง จนท.บริหารงานสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว 10. นายอาณัติ ศรีเธาว์ หัวหน้าสถานีอนามัยดงเจริญ 11. นายสุรินันท์ จักรวรรณพร นักวิชาการสาธารณสุข 7 สถานีอนามัยโพนทัน 12. นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ(วิชาการ) 13. นายอุตส่าห์ โพธิ์ศรี หัวหน้าสถานีอนามัยกุดกุง ผลการประกวดจะแจ้งและมอบรางวัลในการปะชุมใหญ่ประจำตำบล โดยเชิญ นายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมมอบรางวัลด้วย ในโอกาสต่อไป

7/21/08

รวมพล คนใจเด็ด งดเหล้า เข้าพรรษา


วันจันทร์ ที่ 21 กรกฎาคม 2551 ตรวจสอบประสิทธิภาพ ผลการขึ้นทะเบียน UC ประจำงวดที่ 2 ให้กับ สถานีอนามัยและ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว ก่อนส่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร
ตรวจสอบประสิทธิภาพการบันทึกผลงานตามระบบข้อมูลสถานีอนามัย ใน HCIS รายละเอียดตาม 18 แฟ้ม E_pcu เพื่อหา เกณฑ์ประกอบการให้รางวัล สำหรับ สถานีอนามัย ที่มีผลงานดี ...... ตรวจสอบรายชื่อ กระทู้ ทำความดี งดเหล้าเข้าพรรษา นอกจาก ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง และ นายวิทยา เพชรรัตน์ แล้ว มีผู้ที่แสดความจำนง ตั้งปณิธาณ เพิ่มเติม มาอีก 4 คน ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ คือ นายอุตส่าห์ โพธิ์ศรี หัวหน้าสถานีอนามัยกุดกุง นายพ้น ปัญญาใส หัวหน้าสถานีอนามัยเหล่าไฮ นายสุนทร วิริยะพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว และ นายสมร พลทิพย์ ลูกจ้างชั่วคราว สสอ.คำเขื่อนแก้ว

ทำดี ให้เด็กดู เป็นครูได้ดีกว่าทุกสิ่ง




อาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม 2551 การทำบุญและการร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน ในหมู่ญาติพี่น้อง เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวให้พวกเรา ลูกหลาน พ่อถวิล จันทร์สว่าง รัก สามัคคีและ สืบทอดวัฒนธรรมที่ดีงามประจำครอบครัว จากรุ่น สู่ รุ่น เพื่อให้ เด็กๆ ได้เห็น เป็นตัวอย่างที่ดี เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ทีดี ในอนาคต จะได้ไม่เป็นภาระสังคม ทั้งนี้ เพราะพ่อถวิล ยึดคติที่ว่า “ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน” ...
หลังทำบุญเสร็จ ทานพระครูสนิท ได้เจิมรถ ให้ ครอบครัว นายณัฐวุฒิ จันทร์สว่าง ป้าเรืองลักษณ์ จันทร์สว่างและ เอฟเอ็ม ดช.พงศธร จันทร์สว่าง ที่นำรถ HONDA CIVIC คันใหม่มาให้ท่านพระครูสนิท เจิมให้เพื่อเป็นสิริมงคล เวลา 13.09 น. พา นายอินทราพร จันทร์สว่าง น้องชายคนเล็ก กลับ ยโสธร เพื่อจะต่อรถ ไปสถานที่ทำงาน องค์การบริหารส่วนตำบล เมืองปราสาท อำเภอโนสูง จังหวัด นครราชสีมา

ทำบุญอุทิศ ส่วนกุศลให้ คุณแม่ สมร จันทร์สว่าง




วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม 2551 เวลา 11.09 น. เลี้ยงพระเพล ถวายสังฆทานและ และ บังสุกุลทำบุญ ทำบุญ ครบรอบ 26 ปี วันคล้าย เสียชีวิต ของคุณแม่ สมร จันทร์สว่าง ที่วัด ศรีโสภณ บ้านสีสุก พร้อมทั้ง เลี้ยงอาหารสำหรับ ทายก ทายิกา ที่มาร่วมงานที่วัด ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะเป็นญาติผู้ใหญ่ ที่พวกเราเคารพนับถือ ต้องขอขอบพระคุณ คุณพ่อชม พยุงวงษ์ และ คุณลุงไพรินทร์ กล้าหาญ ที่เป็นผู้นำในการประกอบพิธีในงานบุญวันนี้ .....เห็นภาพคุณแม่ทีไร อดคิดถึงคุณแม่ไม่ได้ ...ในใจลึกๆ ยังเสียดาย ที่ คุณแม่ สมร จันทร์สว่าง ของพวกเรา ท่านสู้อดทนทำงานหนัก และเสียสละ ทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งชีวิต เพื่อให้พวกเรามีโอกาสได้ศึกษาต่อ แต่ท่านไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จ ของลูกๆ หลังจากสำเร็จการศึกษา ... และบทกลอน ความรักของพ่อแม่ 7 ประการ ที่ ลูกหลาน พ่อถวิล ท่องจนติดปาก และผมยังระลึกถึงอยู่เสมอ คือ 1อุ้มไม่หนัก 2เหนื่อยไม่พัก 3รักไม่ลวง 4ห่วงไม่เลิก 5เบิกไม่คิด 6ผิดไม่แค้น 7ตายแทนได้ ซึ่ง น้องอินทร ได้ เขียนติดไว้ ให้หลานๆ ได้อ่านจนถึงทุกวันนี้

ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง ร่วมทำบุญกับครอบครัว จันทร์สว่าง




วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม 2551 เวลา 08.29 น. คณลุงไพรินทร์ กล้าหาญ อดีต ผอ. รร.บ้านสีสุก ให้เกียรติมาร่วมงานด้วย และท่าน ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร ได้มาร่วมสมทบกองบุญด้วย จำนวน 229 บาท พร้อมทั้งได้มอบ เสด็จพ่อ ร. 5 ให้ นายอินทราพร จันทร์สว่าง เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นกำลังใจ ในการ สอบสัมภาษณ์ ข้าราชการอัยการ ในวันที่ 2 สิงหาคม 2551 นี้ด้วย นอกจากผมจะภูมิใจในตัวท่าน ผอ.ประจิตร ในฐานะ คุณครูที่ผมเคารพแล้ว ยังนำความปลาบปลื้มติใจ ให้กับ พ่อถวิล จันทร์สว่าง เป็นอย่างมาก

เศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนบ้านสีสุก ได้ทำแล้ว และทำได้จริง




วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม 2551 ส่วนสิ่งที่ โรงเรียนบ้านสีสุกกำลังพัฒนาและสาธิตให้ชาวบ้านได้เห็นเป็นรูปรรม คือ การปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนบ้านสีสุก ที่ว่า สบู่ดำ พืชเศรษฐกิจ พลาสติคบ่อปลา กล้วยน้ำหว้า ขนมตาล ไผ่เลี้ยงหวานเลื่องลือ ขึ้นชื่อผักสวนครัว รอบรั้วโรงเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุ่งสู่ปัญญา

โรงเรียนบ้านสีสุก แหล่งพัฒนาคน ให้ความรู้คู่คุณธรรม




วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม 2551 ที่โรงเรียนบ้านสีสุกสำหรับสิ่งใหม่ในวันนี้ มีสิ่งที่ประทับใจหลายอย่าง เป็นต้นว่า การประดับตกแต่งสวนหย่อม ไม้ดอก ไม้ประดับ สามารถทำได้ดีตามศักยภาพ ของ โรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งในปีนี้มีนักเรียนไม่ถึง 50 คน และสิ่งที่ ท่าน ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสีสุก ได้ทำเหล่านี้ล้วนภายใต้การมีสวนรวมของชุมชน เช่น คำขวัญ บทกลอน เรื่องคุณของโรงเรียน ที่ประพันธ์ โดย คุณพ่อชม พยุงวงษ์ ซึ่งเป็นข้อความ ที่น่าประทับใจ ท่าน ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง ท่านได้ขึ้นป้านถาวรขนาดใหญ่ ให้เห็น เป็นสง่าไว้ที่หน้า เช่น ดุจสะพานข้าม แม่น้ำขวาง เป็นหนทาง กลางดง ผ่านพงผา เป็นสื่อสำคัญ สร้างปัญญา แหล่งพัฒนา มหาชน เป็นคนดี .. กระถางต้นไม้ ใช้ไม้ สมอ ต้นใหญ่ ที่กลวงตรงกลาง มาตัด เป็นกระถางต้นไม้ และต้นสมอนั้นได้จากการบริจาคของ ชาวบ้าน (นายหวด จันทร์สว่าง) การได้มา โดยการไปช่วยกันตัดและเลื่อย ของเด็กๆ ซึ่งเป็นการสอนด้วยประสบการณ์จริง รวมทั้ง แท่นประธาน (Stand) ได้จาก ต้นไม้ ส้มเสี่ยว จากนาของพ่อมี เป็นต้น เมื่อนำมาประดับตกแต่งแล้ว สิ่งที่ได้มากกว่าความสวยงามแล้ว ผมคิดว่า คือการมีส่วนร่วมและปลูกฝัง ความเป็นเจ้าของโรงเรียนของชุมชนได้เป็นอย่างดี ทั้งความรู้สึกการเป็นเจ้าของร่วมกันของเด็กนักเรียน ทั้งความรู้สึกการเป็นเจ้าของผู้ปกครอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ผมคิดว่าอาจจะสำคัญมากกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยร้อยละที่สูงๆแต่เด็กๆ และผู้ปกครองขาดจิตสำนึกในสิ่งเหล่านี้ไป แต่ที่นี่ โรงเรียนบ้านสีสุก สิ่งที่ประชาชนในหมู่บ้านภูมิใจมากในปัจจุบันคือ การปลูกฝัง เรื่อง ความรู้ คู่คุณธรรม ดังจะเห็นได้จาก หลักคุณธรรมที่เขียนไว้หน้าโรงเรียน จำนวน 4 ข้อ นั้น นักเรียนส่วนใหญ่ สามารถทำได้จริง ทั้งนี้ผมประเมิน ง่ายๆ จาก หลานๆ ของผมเอง ที่เรียนอยู่ที่นี่ กว่า 10 คน ( ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การมีวินัยในตนเอง และการมีจิตสาธารณะ ) ซึ่ง ข้อที่ 4 การมีจิตสาธารณะนั้น เป็นเป้าหมายสูงสุดของกรพัฒนาคน แม้ว่าจะประเมินได้ยาก แต่ หาก ทั้ง 3 ข้อ สามารถบรรลุผลสำเร็จ เป้าหมายข้อที่ 4 ก็คงไม่เกินความสามารถที่พวกเราจะปลูกฝังให้แก่เด็กๆได้ โดยการประเมินของผม วัดง่ายๆจาก การรู้จักมีสัมมาคารวะ รุ้จัก ยิ้ม รุ้จักไหว้ รุ้จักทักทายกัน ...สำหรับสิ่งก่อสร้างที่โรงเรียนบ้านสีสุก กำลังจะสร้างเพิ่มเติมคือ การก่อสร้างพระรูป ร. 5 หากศิษย์เก่า โรงเรียนบ้านสีสุก หรือท่านใดที่มีจิตศรัทธา จะร่วมสมทุนทุนการทำบุญร่วมกัน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และครอบครัว ท่านสามรถติดด่อได้โดยรงที่ โรงเรียนบ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร หรือ ท่าน ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง โทร. 0892828166 หรือ นายวีระ ชายทวีป ผู้ใหญ่บ้านบ้านสีสุก ประธานคณะกรรมการศึกษาโรงเรียนบ้านสีสุก

กลับไปเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านสีสุก ตอนนี้กำลังพัฒนา


วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม 2551 เวลา 05.09 น. พา น้อง และญาติ ไปซื้อของที่ตลาดเช้าทรายมูล เพื่อเตรียมประกอบอาหารคาวหวาน พบ ท่าน ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง กำลังกลับมาจากออกกำลังกาย ถือโอกาสบอกบุญ ท่านว่า ที่บ้าน ครอบครัวจันทร์สว่าง จะมีการทำบุญ เลี้ยงพระเพล ถวายสังฆทานและ และ บังสุกุลทำบุญ ทำบุญ ครบรอบ 26 ปี วันคล้าย เสียชีวิต ของคุณแม่ สมร จันทร์สว่าง ที่วัด ศรีโสภณ บ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด ณ ตลาดทรายมูล พบ เพื่อนมัยเรียนทรายมูลวิทยา พัชรินทร์ โพธิ์แก้ว หรือ หนิง หนิง ไส้ผมยาว จนถึงเอว เป็นคนอัธยาศัยดี เป็นมิตร ที่ดีเช่นเดิม และที่สำคัญ ยังรักษาความสาวและความสวยไว้ได้ดีมาก ....ที่บ้านญาติๆ ต่างมาช่วยกันเตรียมอาหาร เพื่อไปทำบุญ นอกจาก ลูกๆ หลานๆ พ่อถวิล จันทร์สว่าง แล้ว เช่น ยายแหล่ ยายดร ยายเหลี่ยม อาลำ น้านง อาดม อานาง อาไล เป็นต้น
เวลา 07.39 น. ออกไปเดินเล่นที่ โรงเรียนบ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็น โรงเรียนที่ผมเรียนชั้น ป. 1-ป.6 ที่นี่ นอกจากอาคารต่างๆแล้ว อนุสรณ์ที่ผมจำไดดีคือ ตนไทร ด้านทิศเหนือของโรงเรียน ที่ผม และเพื่อนๆพร้อมทั้งรุ่นพี่ ได้ไปเอามาจากดอนปู่ตา ( บริเวณฝายในปัจจุบัน) มาปลูก ไว้ สมัยนั้น นายไพรินทร์ กล้าหาญ ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ โรงเรียนบ้านสีสุก และต้นไทรต้นนี้นับได้ถึงตอนนี้ ปี พ.ศ. 2551 อายุได้ 30 ปี พอดี การเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนาโรงเรียนที่เห็นเป็นรูปธรรม หลายอย่าง ด้วยความสามารถในการระดมทุนจากชุมชน .... สิ่งก่อสร้างที่แล้วเสร็จแล้ว เป็นต้นว่า เสาธง มูลค่า 97,980 บาท การก่อสร้างฐาน พระพุทธรูปหน้าเสาธง มูลค่า 20,750 บาท ห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ ประจำหมู่บ้าน มูลค่า 82,050 บาท และห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง มูลค่า 95,200 บาท รวมมูลค่า 295,980 บาท (สองแสนเก้าหมื่นห้าพันเก้าร้อยแปดสิบบาทถ้วน) ซึ่งผมถือว่าเป็นจำนวนที่มาก เมื่อเทียบกับบ้านเล็กๆ อย่างบ้านสีสุก และทั้งนี้ต้องให้เครดิต ความสามารถ ของ คณะครู โรงเรียนบ้านสีสุก ภายใต้การบริหารของ ท่าน ผอ.ประจิตร ผุดผ่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสีสุก

ไปเยี่ยมคุณพ่อ ถวิล จันทร์สว่าง ที่บ้านสีสุก ขุดต้นแคนา




วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2551 พา ครอบครัว กลับไปเยี่ยมคุณ ปู่ถวิล จันทร์สว่าง ที่บ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ซื้อ สิ่งของสำหรับ เตรียมถวายสังฆทาน หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จพา ภรรยา นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง ไป ทุ่งนา เพื่อ ขุดต้นกล้า ต้นแคนา มาเพาะชำ ซึ่งตอนนี้ไม่มีน้ำในนาเลย เพราะแห้งแล้มาก ตอนเย็นไปกับน้องก้อย ด.ญ. กนกวรรณ โสวะภาสน์ ไปช่วย นายอินทราพร จันทร์สว่าง น้องชายคนเล็กของครอบครัว เอาควายเข้าคอก และนำควายไปลงกินน้ำ ที่ ฝายข้างบ้าน น้ำแห้งแล้ง จนน้ำในฝาย เหลือน้อย เพราะชาวบ้านต่างอาศัย สูบน้ำในฝายไปหล่อเลี้ยงข้าวกล้าในนา
บรรยากาศ อาหารเย็นที่บ้านถามข่าวสารทุกข์ สุกดิบกับญาติ และ รับประทานอาหารร่วมกันกับญาติๆ พี่น้องทุกคน เมนูวันนี้ ไก่ล้วนๆ ต้มไก่ อาออ ไก่นึ่ง ป้าศิลป์ ไก่ปิ้ง อาบุญ ลาบไก่ คุณปู่ อร่อยมากๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พวกเราถือปฏิบัติตลอดระเวลา กว่า 20 ปี ที่ผมได้ทำงานมา วันนี้ นัด นายอินทราพร จันทร์สว่าง น้องชายคนเล็กของครอบครัว กลับบ้านด้วย กลางคืน มีข้อสรุปร่วมกัน จะไปทำบุญที่วัด เลี้ยงพระเพล ถวายสังฆทาน และ บังสุกุลทำบุญ ครบรอบ 26 ปี วันคล้าย เสียชีวิต ของคุณแม่ สมร จันทร์สว่าง ที่วัด ศรีโสภณ บ้านสีสุก ตำบลดู่ลาด ในวันพรุ่งนี้

7/18/08

สามัคคีประเทศไทย สันติสุข ขอจังบังเกิดมีในทุกพื้นที่ทั่วโลก

วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม 2551 จาก bangkokpost.com Two men claiming to be behind the war in the South said on Thursday they have called a cease-fire ( หยุดยิง ) to end four and a half years of violence. Their claims were unverified.
The two men appeared in a pre-recorded videotape broadcast without notice by Channel 5, the army-operated TV station based in Bangkok.
There was no government participation or reaction to the claim.
The unidentified men, with an army reporter seated between them, claimed they had ordered a cease-fire in the South effective last Monday.
The claim seemed dubious. ( สงสัย ) There have been several killings and bombings since Monday. More than 3,500 people have died in the ongoing violence since January 2004.
The two middle-aged men claimed to be the head of Thailand United Southern Underground group. They claimed they now support peace in the South.
Former army commander Gen Chetta Thanajaro, leader of the Ruamjaithai Chartpattana political party in parliament, announced แจ้งให้ทราบ earlier that he would hold a press conference at 2pm on Thursday to provide further details.
Gen Chetta, who also has served as defence minister, said the plan by insurgent groups to stop the daily violence which has occurred since January 2004, came after several rounds of "unofficial negotiations" aimed at ending the unrest, mainly in the troubled southern provinces of Songkhla, Pattani, Yala and Narathiwat.
Whether the situation in the region would improve after a pledge เอา (เกียรติ) เป็นเครื่องประกัน
by the unknown men must be seen in what actually happens, he said, adding that no conditions were given for the stop to the violence.
"There's no political hidden agenda behind the plan," Gen Chetta said. "I will take the responsibility. This is considered a good sign and I'm confident the situation would improve compared to before."
However, he said he would not guarantee that no violence would erupt ปะทุ in future. (BangkokPost.com, TNA)
สรุปแล้ว …ไม่ว่าใคร ฝ่ายไหนจะคิดอย่างไร ต่ในความคิดส่วนตัวของผม ภาวนาขอให้ ว่า กรณีกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย แถลงหยุดปฏิบัติการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ นั้น เป็นสิ่งที่พวกเรารอคอยมานาน เมื่อบ้านเมืองกลับสู่ความสงบอีกครั้ง น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆๆ ขอให้เป็นจริงเสียทีเถอะ . ขอบคุณ แอ๊ดคาราบาว ที่ร้องเพลง สามัคคีประเทศไทย ..

ภาวนา ขอให้เป็นจริง ภาคใต้ และ ประเทศไทย สันติสุข

วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม 2551 จากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และบางอำเภอของ จ.สงขลา ที่ปะทุเดือดขึ้นมา นับตั้งแต่เหตุการณ์กลุ่มโจรใต้บุกปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 4 ม.ค. 2547 ก่อนจะลุกลามขยายวงกลายเป็นไฟลามทุ่ง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตลอดจนข้าราชการครู นักเรียน นักศึกษา ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองต้องตกเป็นเหยื่อสังเวยความโหดเหี้ยม ถูกไล่ล่าสังหารทั้งการลอบวางระเบิด และดักยิงถล่มจนล้มตายเป็นใบไม้ร่วงตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีเศษ 35,00 ราย ล่าสุด พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ออกมาแถลงความสำเร็จในการเจรจาส่วนตัวกับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ พร้อมเผยแพร่เทปบันทึกคำแถลงการณ์ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมด นั้น
เหตุการณ์ต่อเนื่อง จากการแถงข่าวของกลุ่มโจรใต้ เมื่อวานนี้คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่รับรอง การออกแถลงการณ์ ที่นำเสนอ ซึ่งประสานงานการนำเสนอการแถลงข่าว โดย พอ.เชษฐา ฐานะจาโร สรุปจากไทนรัฐ ออนไลน์ ได้ดังนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีคำแถลงยุติการยิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า แม้ทางกลุ่มขบวนการจะดำเนินการอะไรออกมา ทางฝ่ายความมั่นคงรวมถึงรัฐบาลก็ไม่สามารถ ไปเจรจาหรือดำเนินการอะไรด้วยได้ เพราะเป็นผู้กระทำความผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานในพื้นที่ กระบวนการแถลงหรืออาจรวมไปถึงการไปเจรจากันมานั้น ก็ไม่ได้มีการยอมรับโดยฝ่ายความมั่นคงหรือรัฐบาล ซึ่งเท่าที่ทราบจากการตรวจสอบข้อมูล นายมะรีเป็ง คานผู้แถลงเป็นภาษายาวีนั้น เป็นแกนนำของขบวนการที่เคลื่อนไหวระหว่างปี 2527-2530 ซึ่งได้ยุติบทบาทและความเคลื่อนไหวไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ภายหลังไม่ประสบความสำเร็จในความพยายามฟื้นขบวนการรวบรวมเครือข่ายทุกกลุ่ม เพราะไม่ได้รับความเชื่อถือ ส่วนอีกคนยังตรวจสอบข้อมูล
พล.ท.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ เจ้ากรมทหารสื่อสาร ในฐานะผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 กล่าวว่า การที่ พล.อ.เชษฐามาใช้โทรทัศน์ช่อง 5 ในการแถลงและเผยแพร่ภาพการแถลงยุติก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ เพราะท่านติดต่อมาที่ ททบ. 5 และการอนุญาตให้ใช้ ททบ.5 ก็เพราะตนทำหน้าที่ของสื่อที่เสนอข้อมูลข่าวสาร หากเป็นเรื่องดีก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับประเทศ ทั้งนี้ ได้สอบถามไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ท่านก็บอกว่าอย่าไปยุ่ง แต่ถ้าจะใช้ ททบ. 5 ก็ปล่อยเขาไป เพราะเราทำหน้าที่ของสถานีสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเบื้องหลังแอบแฝง
พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงคำประกาศหยุดยิงของบุคคลที่อ้างเป็นแกนนำกลุ่มโจรใต้ว่า การประกาศหยุดยิงถือเป็นเรื่องที่ดี แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาก็เน้นการเจรจาอยู่แล้ว แต่จู่ๆก็มาโผล่พรวดออกโทรทัศน์เลย ตรงนี้น่าสงสัย ที่ผ่านมาเราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ใครทำอะไรอยู่ที่ไหน ต่อสู้กันมาเกือบร้อยปี จู่ๆก็ออกมาประกาศหยุดยิงเอาดื้อๆ โดยไม่มีเหตุผลที่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงหยุดยิง การแถลงข่าวในวันนี้ควรจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือกองทัพมากกว่าที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ทั้ง 3 คนที่ออกมาแถลงข่าวก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร และการแพร่ภาพออกอากาศทางช่อง 5 ก็ส่งไปออกอากาศใน 170 ประเทศทั่วโลก มีต่างประเทศมาช่วยเจรจาด้วย จึงหวั่นเกรงว่าอาจจะมีองค์กรต่างประเทศยื่นมือเข้ามาแทรกแซง เหมือนอาเจะห์ หรือติมอร์ เรื่องปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง หากรู้ไม่ทันอาจจะเสียหายในภายภาคหน้าได้ ถ้าเป็น ผบ.ทบ.ออกมาพูดเองจะน่าเชื่อถือกว่า การเมืองก็กำลังวุ่นวาย กำลังจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีด้วย มันเลยดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนยังไงชอบกล
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษาพิเศษกอ.รมน.กล่าวถึงเรื่องการประกาศหยุดยิงว่าได้ตรวจสอบไปยังหน่วยข่าวกรองที่เกาะติดกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่แล้ว หากเป็นเรื่องจริงก็ดี แต่อยากจะฝากไปถึงรัฐบาลและกองทัพไม่ควรเปิดเจรจาใดๆกับกลุ่มโจร เพราะจะกลายเป็นการยอมรับสถานะของกลุ่มโจรทันที อีกทั้งยังจะทำให้กลุ่มโจรมีคุณสมบัติครบเข้าข่ายขอรับความช่วยเหลือจากองค์การสมัชชาอิสลาม หรือโอไอซีให้เข้ามาแทรกแซงเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มก่อความไม่สงบได้ การประกาศหยุดยิงในวันนี้ยังไม่ทราบเจตนาที่ชัดเจนว่าต้องการอะไร การอ้างว่าเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจนั้น มีอำนาจอยู่เหนือกลุ่มก่อความไม่สงบทุกกลุ่มหรือไม่ ทั้ง 3 คนเป็นใครก็ยังไม่รู้แน่ชัด ดังนั้น ขอให้รัฐบาลใจเย็นๆ รอดูสถานการณ์ไปก่อน
ทั้งนี้ มีการตรวจสอบบุคคลทั้ง 3 คน อย่างละเอียด พบว่าแกนนำรายหนึ่งที่พูดเป็นภาษายาวี คือนายมะรีเป็ง คาน หรือนายฮาซัน ตอลิป เป็นชาวมาเลเซีย เคยมีประวัติเป็นแกนนำกลุ่มลังกาสุกะเคลื่อนไหวอยู่ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะยุติบทบาทลงเมื่อปี 2530 และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อต้นปี 47 บุคคลดังกล่าวก็ไม่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย ส่วนแกนนำที่แปลเป็นภาษาไทย ชื่อนายพุดดิน ไม่ทราบนามสกุล เป็นอุสตาซ สอนอยู่ใน ร.ร.สอนศาสนาแห่งหนึ่งในมาเลเซีย พื้นเพเดิมเป็นชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส การที่บุคคลที่อ้างเป็นแกนนำออกมาแถลงยุติการก่อเหตุในพื้นที่นั้น ยังไม่มั่นใจแน่ชัดว่าจะเป็นจริงหรือไม่ จึงต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มก่อความไม่สงบที่เป็นแกนนำในพื้นที่และเป็นผู้ปฏิบัติ มีหมายจับของทางราชการจะออกมาตอบโต้กับคำแถลงของแกนนำดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากหากระบุขอยุติการก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ที่มีหมายจับ หรือแกนนำที่ยังหลบหนีก็จะไม่มีจุดยืน อาจจะรวมตัวกันครั้งใหญ่เพื่อจัดหาแกนนำหลักในพื้นที่และหาผู้สนับสนุนในการรับจ้างก่อเหตุร้ายในพื้นที่ต่อไปอีก เช่นเดียวกับที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศตามร้านน้ำชาในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี หลังจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่องเสนอข่าวคำแถลงของกลุ่มแกนนำที่ระบุว่าเป็นแกนนำขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งทำให้ประชาชนต่างให้ความสนใจอย่างมากและได้เฝ้าฟังคำพูดของแกนนำที่พูดทั้งภาษายาวีและภาษาไทย ส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นว่าทั้ง 2 คนจะเป็นแกนนำตามที่กล่าวอ้าง โดยนายเจ๊ะอายีดิง เบ็ญอาบัส เปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจขึ้นหากเป็นอย่างที่แถลงจริง เพราะยังไม่รู้แก่นแท้ของคนที่ออกมาพูดว่าเป็นใคร เพียงแต่ได้ชมทางโทรทัศน์ แต่ถ้าหากเป็นจริงก็เป็นสิ่งที่ดีบ้านเมืองจะได้สงบสุข จึงขอให้องค์อัลเลาะบันดาลให้ 3 จังหวัดกลับมาสงบสุข ส่วนที่แกนนำพูดว่าเพื่อในหลวงของเรานั้น ในฐานะชาวบ้านคนหนึ่ง มีความซาบซึ้งอย่างมาก เพราะไม่มีอะไรที่เป็นความดีเท่าในหลวงได้ เพราะในหลวงเป็นศาสนูปถัมภ์ของพี่น้องมุสลิมทุกคน ตนภูมิใจที่แกนนำพูดถึงความดีของในหลวงของเรา ฉะนั้น จึงขอให้บ้านเมืองของเราสงบสุขเพื่อถวายแด่ในหลวง

ทำดีเพื่อตนเอง และครอบครัว ผม งดเหล้า เข้าพรรษา เป็นปีแรก


วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม 2551 วันเข้าพรรษา .... คุณธรรม นำชีวิต ปฏิบัติดี เพื่อความดี สำหรับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และ ประเทศชาติ วันนี้ฤกษ์ดี ผม งดเหล้า เข้าพรรษา ...จะไดอานิสงค์ใดบ้าง ...เพื่อนๆลองดูนะครับ ขอชื่นชม สกู๊ปจากไทยรัฐ ที่เขียนบทความดีมาก ดังนี้..
ปฏิบัติกันอยู่บ้างแล้วในอดีตที่ผ่านมา สำหรับการ “งดเหล้าเข้าพรรษา” จนมาปีนี้ ปี พ.ศ. 2551 ครม. รัฐบาลปัจจุบัน สมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบตามที่เครือข่ายภาคประชาชนยื่นหนังสือขอให้พิจารณากำหนดให้ “วันเข้าพรรษา” เป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” อย่างเป็นทางการ ซึ่งแม้จะมิใช่การบังคับ แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีมากอีกเรื่องหนึ่งเพราะสุรา-น้ำเมาต่าง ๆ นั้นมีพิษภัยหลายด้าน แม้มิใช่สิ่งผิดกฎหมายโดยตรง...แต่ก็ใช่ว่าดี !!
ทั้งนี้ กับชาวพุทธ ในด้าน “ศีล-ธรรม” สุรา-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น การดื่มถือเป็นการผิดศีลพื้นฐาน-ศีล 5 ในข้อที่ 5 คือสุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี เว้นจากการดื่มสุราเมรัย ของมึนเมา อันเป็นสิ่งเสพติดให้โทษ ซึ่งทางพระท่านว่าการดื่มสุรามีผลร้าย 2 แบบคือ...1. ผลในปฏิสนธิกาล เกิดในนรก, ดิรัจฉาน, เปรตวิสัย และ 2. ผลในปวัตติกาล ถ้าเกิดเป็นคนแล้วจะรับผล 6 ประการหลัก ๆ คือ ทรัพย์ถูกทำลาย เกิดวิวาทบาดหมาง เป็นบ่อเกิดแห่งโรค เสื่อมเกียรติ หมดยางอาย ปัญญาเสื่อมถอยหรือพิการทางปัญญา
ถ้าไม่ดื่ม ผลดีมีอย่างน้อย ๆ ก็ตั้ง 35 ประการหลัก ๆ คือ...รู้กิจการ อดีต อนาคต ปัจจุบัน ได้รวดเร็ว, มีสติตั้งมั่นทุกเมื่อ, มีปัญญาดี มีความรู้มาก, มีแต่ความสุข, มีแต่คนนับถือยำเกรง, มีความขวนขวายน้อยหากินง่าย, มีปัญญามาก, มีปัญญาบันเทิงในธรรม, มีความเห็นถูกต้อง, มีศีลบริสุทธิ์, มีใจละอายแก่บาป, รู้จักกลัวบาป, เป็นบัณฑิต, มีความกตัญญู, มีกตเวที, พูดแต่ความสัตย์, รู้จักเฉลี่ยเจือจาน, ซื่อตรง, ไม่เป็นบ้า, ไม่เป็นใบ้, ไม่มัวเมา, ไม่ประมาท, ไม่หลงใหล, ไม่หวาดสะดุ้งกลัว, ไม่บ้าน้ำลาย, ไม่งุนงง ไม่เขรอะขระ, ไม่มีความแข่งดี, ไม่มีริษยาใคร, ไม่ส่อเสียดใคร, ไม่พูดหยาบ, ไม่พูดจาเพ้อเจ้อ-ไร้ประโยชน์, ไม่เกียจคร้านทุกคืนวัน, ไม่ตระหนี่, ไม่โกรธง่าย, ฉลาดรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และโทษ ซึ่งทั้งหมด “ล้วนเป็นสิ่งดีต่อการดำรงชีวิต”
จากด้านของศีล-ธรรม ผลจากการดื่ม-ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นส่งผลเกี่ยวเนื่องร้าย-ดีไปยังด้านอื่น ๆ ทุกด้าน ซึ่งหากจะขยายความให้เห็นกันชัด ๆ อีกสัก 4 ด้าน ก็เช่น...ด้าน “สังคม” ทั้งระดับครอบครัว ชุมชน ต่อเนื่องไปถึงระดับประเทศชาติ การไม่ดื่ม-ไม่ติดเครื่องดื่มมึนเมา ย่อมนำสุขมาสู่ชีวิต ทั้งชีวิตส่วนตัวในแง่มุมต่าง ๆ มีความอบอุ่นเป็นสุขในครอบครัว ครอบครัวไม่เป็นทุกข์ ไม่แตกแยก ลูกเต้า-คู่ชีวิตไม่ลำบาก ได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน-สังคม เป็นต้น แต่ถ้าเป็น “ขี้เมาหยำเป” ผลที่เกิดก็ตรงกันข้าม “มีแต่ที่แย่ ๆ”
“เศรษฐกิจ” ในด้านนี้ การไม่ดื่มน้ำเมาก็ไม่ต้องเสียเงิน มีเงินนำไปใช้สร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว ส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงชุมชน สังคม ประเทศชาติ แต่ถ้าดื่ม-ถ้าติดมัน...ก็ตรงกันข้าม
ด้าน “กฎหมาย” ยุคนี้-เดี๋ยวนี้ก็มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มมึนเมาในหลายประการ ซึ่งกับตัวผู้ดื่มเองนั้น “ถ้าเลิกได้-ไม่ดื่มได้ อย่างน้อย ๆ ที่จะดีก็คือไม่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย” โดยปัจจุบันประเทศไทยมีการประกาศใช้กฎหมายน้ำเมา พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับโทษของผู้ดื่มโดยฝ่าฝืนกฎหมายนั้นคือ “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ตามมาตรา 42 หากเป็นการดื่มโดยฝ่าฝืนมาตรา 31 ของพระราชบัญญัติ
มาตรา 31 นั้น เนื้อหาก็คือ...ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณดังต่อไปนี้ (1) วัด หรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธี กรรมทางศาสนา เว้นแต่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา (2) สถานบริการ สาธารณสุข ของรัฐ สถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และ ร้านขายยา ตามกฎหมายว่าด้วยยา ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล (3) สถานที่ราชการ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี (4) สถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือสถานศึกษาที่สอนการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ (5) สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง หรือร้านค้าในบริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (6) สวนสาธารณะ ของทางราชการที่จัดไว้ เพื่อการพักผ่อนของประชาชนโดยทั่วไป (7) สถานที่อื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ทั้งนี้ นักดื่มทั้งหลายสังวรมาตรานี้ไว้ให้จงดี !!
อีกด้านที่ก็มีการรณรงค์กันมานานแล้วคือด้าน “สุขภาพ” ซึ่งว่ากันอย่าง กระชับเลยก็คือ “การดื่มเครื่องดื่มมึนเมานั้นในทางการแพทย์ยืนยันได้ชัดเจนแน่นอนเลยว่า ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้มากกว่า 60 โรค” ส่งผลเสียทั้งกับสุขภาพจิต ที่บางรายถึงขั้นบ้า หรือฆ่าตัวตาย ส่งผลเสียทั้งกับสุขภาพกาย ที่รวมถึงโรคร้ายแรงสารพัด เช่น มะเร็งต่าง ๆ โรคหัวใจ ฯลฯ ตลอดจนการบาดเจ็บล้มตายเพราะเมาแล้วเกิดเหตุทะเลาะวิวาท การบาดเจ็บล้มตายเพราะเกิด อุบัติเหตุ จากการใช้ยานพาหนะขณะมึนเมา
ทั้งนี้และทั้งนั้น ว่ากันเฉพาะ 5 ด้านหลัก ๆ ที่ว่ามาข้างต้นซึ่งมีความเกี่ยวพันกันกับการ “ดื่ม-ไม่ดื่มน้ำเมา” กับ “ผลร้าย-ผลดี” จะเกิดขึ้น ก็มีอะไรที่สำคัญ ๆ มากมายจนเกินกว่าจะสาธยายได้หมด-โดยละเอียด
แต่สรุปแล้วก็คือถ้า “งด-ลด-เลิก” ได้...ย่อมมีคุณอนันต์ หากใครยังทำไม่ได้...ก็ “เข้าพรรษา” นี่ไง “ฤกษ์ขลัง” ที่จะ “หันหลังให้น้ำเมา” ที่เป็น...น้ำเสียทำลายชีวิต !!!.

ประวัติศาสตร์ ปี 2551 ฝนแล้งมากที่สุด เข้าพรรษา ฝนยังไม่ตก


วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม 2551 หยุดราชการวันเข้าพรรษา แต่งานประจำ ที่รับผิดชอบ หยุดไม่ได้ ประมวลผล และตรวจสอบการขึ้นทะเบียน โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า งวดที่ 2 กรกฎาคม สำหรับ สถานีอนามัยทุกแห่ง
บันทึก ประวัติศาสตร์ การทำนาของชาวบ้าน บ้านบกน้อย นับตั้งแต่ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ บ้านบกน้อย ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มาตั้งแต่ปี 2535 ถึงปีนี้ นับได้ 16 ปี ปีนี้ พ.ศ. 2551 เป็นปีที่ฝนแล้ง มากที่สุด เพราะจนถึงวันนี้ วันเข้าพรรษา แล้ว ยังไม่ฝีน้ำตามทุ่งนา ข้าวกล้า บางแปลงเสียหาย ตายไปแล้ว สิ่งที่ประชาชนทำได้ คือ รอ และ รอ จนกว่าจะมีฝนตก

7/17/08

โจรใต้หยุดยิง คนร้าย กลายเป็นคนดี


วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม 2551 ข่าวที่ผม ประทับใจและภูมิใจมากที่สุด ประจำปีนี้ คือข่าวนี้ครับ เนื่องจาก เป็นจิตสำนึกลึกๆ ของผม ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ทุกครั้งที่ผมไหว้พระ หรืออธิษฐานใดๆ ผมจะไม่ลืม คำอธิษฐาน 2 ข้อคือ ข้อที่ 1. ขอให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป ข้อที่ 2 ขอให้ ทุกศาสนาอาศัยอยู่ร่วมกัน ภายใต้พะบรมโพธิสมภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างสงบสุข ฉะนั้น ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง จึงขอยกให้ข่าวนี้เป็นข่าวดี ที่สุดสำหรับผม และสำหรับประเทศไทย ข่าวจาก Daily news Online วันนี้ (17 ก.ค.2551 ) เมื่อเวลา 12.00 น. สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเผยแพร่เทปบันทึกคำแถลงการณ์ยุติก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกลุ่มที่อ้างว่าเป็น "ฝ่ายทหารใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย" ที่อยู่เบื้องหลังเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหัวหน้ากลุ่มได้แถลงเป็นภาษายาวีความยาวประมาณ 5 นาที ก่อนโฆษกของกลุ่มจะแปลคำแถลงเป็นภาษาไทยมีเนื้อหาระบุว่า ทางกลุ่มได้มีคำสั่งให้หยุดยิงตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป เพื่อให้หน่วยต่อสู้ทุกกลุ่มยุดติความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดสันติภาพ ขอให้ทุกหน่วยทหารของกลุ่มใต้ดินและทางการหยุดยิงและเพิกถอนคำสั่งปฏิบัติการทุกชนิดทันที เนื่องจากกลุ่มเริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี 2452 หรือ ค.ศ.1909 ซึ่งใกล้จะครบกำหนด 100 ปี สำหรับหน่วยที่ยังไม่ทราบคำสั่งก็ขอให้รับทราบและปฏิบัติตาม หากมีการก่อเหตุใด ๆ ขึ้นอีกทางกลุ่มจะถือว่าผู้ก่อการคืออาชญากร พวกเราพร้อมที่จะอยู่ภายใต้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกฎหมายของรัฐบาลไทย นอกจากนี้จะมีการเฉลิมฉลองเพื่อให้เห็นผลดีของความสงบจากการหยุดยิงเพื่อให้ชาวไทยพุทธกับชาวไทยมุสลิมได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขยุติการนองเลือด และขอย้ำว่าหน่วยกำลังใต้ดินทุกหน่วยจะต้องยึดหลักปฏิบัติตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป "ขอย้ำให้ทุกหน่วยหยุดปฏิบัติการทันที โดยทางกลุ่มจะขออยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูต่อประเทศที่เรารักให้เกิดความสงบสุขและสันติภาพต่อไป"

ประเทือง- นิศารัตน์ -ป่านตา ธงศรี มาเยี่ยมที่บกน้อย


วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม 2551 อาการภูมิวันนี้ ตุ่มสุกใส กำลังดำแล้ว เช้า โทรไปสอบถามครูภูมิ ครูเลิศลักษณ์ ท่านบอกว่า วันจันทร์ ให้ ภูมิไปร่วมงานแข่งขันกีฬา ของเด็ก EP ห้อง 16 กับ ห้อง 17 กลับจากไปปลูกต้นไม้ที่ไร่
 เวลา 12.39 น. ขอบพระคุณพี่ประเทือง ธงศรี พร้อมด้วย ภรรยา คุณครู นิศารัตน์ ธงศรี และลูกสา น้อง ป่านตา ธงศรี มาแวะเยี่ยม ที่บ้าน
ตอนเย็นวันนี้ นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง ไปงานศพ แม่ไฮ รวมธรรมที่บ้านหนองแปน

7/16/08

ประเมินสถานบริการเพื่อขึ้นทะเบียนตามโครงการUC ปี 52




วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม 2551 หลังกลับจาก ป็นประธานเปิดการอบรม โครงการป้องกันและเฝ้าระวัง ปัญหาการฆ่าตัวตาย ณ พื้นที่เสี่ยง บ้านแหล่งหนู หมู่ที่ 6 ตำบลดงเจริญ อำเภอคำเขื่อนแก้ว แล้ว ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ทั้ง บ้านแหล่งหนู หมู่ที่ 6 และ บ้านแหล่งหนู หมู่ที่ 7 จากนั้น เวลา 11.09 น. ต้อนรับคณะกรรมการประเมิน สถานบริการ เพื่อขึ้นทะเบียน ตาม โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประจำปี งบประมาณ 2552 จาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ซึ่งวันนี้ ประเมิน PCU และ โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร สถานีอนามัยโพนทัน สถานีอนามัย ทุ่งมน สถานีอนามัยกู่จาน คณะกรรมการนำโดย นพ.จิณณพิภัทร ชูปัญญา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร นางชฎาภรณ์ ชื่นตา หัวหน้ากลุ่มงานประกันสุขภาพ สสจ.ยโสธร นางณัทชุดา จิรทวีธรรม นางจุฑารัตน์ แก้วคูณ นักวิชาการสาธารณสุข 7 งานประกันสุขภาพ สสจ.ยโสธร นางเพ็ญแข สะอาดยิ่ง นักวิชาการสาธารณสุข 7 งานประกันสุขภาพ สสจ.ยโสธร เป็นต้น
เวลา 13.09 น.ต้อนรับ และอำนวยความสะดวก คณะกรรมการ ตรวจสอบภายใน ซึ่งเข้าตรวจสอบ ณ สถานีอนามัยเหล่าไฮ สถานีอนามัยทุ่งมน สถานีอนามัยโพนทัน คณะกรรมการนำโดย นายวีระพงษ์ ยางเดี่ยว นักวิชาการสาธารณสุข 7 สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ยโสธร และ เจาหน้าที่การเงิน จาก โรงพยาบาลยโสธร
หมายเหตุ วันนี้ นายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นายณัฐวุฒิ จันทร์สว่าง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว นางอภิญญา บุญถูก นักวิชาการสาธารณสุข 7 สสอ.คำเขื่อนแก้ว ไปเป็นกรรมการตรวจสอบภายใน ที่อำเภอเมืองยโสธร
ตอนเย็น ได้เนื้อวัว จากลุง คร จำนวน 1 พูด (1 ส่วน) ราคา 200 บาท ไปทำอาหารเย็นที่บ้านป้าณี และ กินเบียร์ ขวด สุดท้าย ก่อนจะเข้าเทศกาล เข้าพรรษา ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งได้ตั้งปณิธาณ ไว้ว่า จะ งดเหล้า เข้าพรรษา