วันที่ 16 กันยายน 2554 สูตรเด็ด เคล็ดลับ 100 ปี ชีวีมีสุข: ทำอย่างไรจึงหุ่นดี ทำอย่างไรจึงแข็งแรง ทำอย่างไรจึงอายุยืนยาว ทำอย่างไรจึงไม่เจ็บป่วย ทำอย่างไรจึงไม่เป็นหวัดบ่อยๆ ทำอย่างไรจึงจะไม่ต้องกินยา ทำอย่างไรจึงจะหยุดยาเบาหวานได้ ทำอย่างไรจึงจะหยุดยาความดันได้ ทำอย่างไรจึงจะมีอายุเกิน 100 ปี เป็นคำถามที่ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง เคยได้ยินเป็นประจำ ณ วันนี้ ผมมีคำตอบแล้ว ที่นี่มีคำตอบ
จากการที่ผมมีโอกาส เข้าร่วม รับฟัง อาจารย์สง่า ดามาพงศ์ อุปนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในเวที ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 อ 3 ส เราทำได้ ไม่มีพุง หรือ โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเสี่ยงต่อโรค METABOLIC ณ โรงแรมกิจตรงวิลล์ อุบลราชธานี อำนวยการกจัดงานด้วยดี โดย นางประชุมพร กวีกรณ์ หัวหน้ากลุ่มงาน ควบคุมโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร และคณะ
ผู้เข้าร่วมประชุม นั้น นายสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว นำหัวหน้าส่วน ผู้บริหารโรงเรียน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน นักจัดรายการวิทยุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และ คณะผู้บริหารจาก สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยโสธร เข้าร่วมรับการอบรม กว่า 90 คน
อ.สง่า ดามาพงศ์ เผยคาถาให้มีสุขภาพดี ง่ายๆ คือ กิน อยู่ อย่าง สง่า นั่นคือ กิน อย่าง สง่า อยู่ก็ให้สง่า ซึ่ง ประกอบด้วย หลักสำคัญ คือ หลัก 3 อ. ง่ายๆ นั่นคือ ฉลาดกิน ฉลาด ออกกำลังกาย และ ฉลาด ควบคุมอารมณ์ ผู้เข้ารับการอบรมแทบทุกคนไม่อยากเชื่อเลยว่า อ.สง่า ดามาพงศ์ ณ วันนี้ จะมีอายุ ย่างเข้า 62 ปี เพราะท่านยังคงดูเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างดี, สุขภาพดี และยังดูหนุ่มกว่าอายุ “ผมทำเพียง 3 อ.ก็พอ เพราะทั้งง่าย ทั้งประหยัด ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพาราเซตามอลเม็ดสุดท้าย กินไปตั้งแต่เมื่อไหร่ (เพราะมันนานม้ากแล้ว) ” … “หลังเกษียณหลายคนใช้เงินส่วนใหญ่ในการรักษาตัวเอง ...ผมตั้งเป้าหมายว่า เกษียณแล้ว ผมจะไม่เอาเงินไปให้หมอ ปัจจุบันผมทำได้แล้ว ผมซื้อทัวร์ ไปเที่ยวรอบโลกอย่างสบายๆ ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง ผมจะไม่ทำตนเองให้เป็นภาระต่อลูกหลาน” อ.สง่า ดามาพงศ์ กล่าวอย่างชื่นชมต่อที่ประชุม
อย่าเพียงแค่คิด ทำให้ติด เป็น นิสสัย แล้ว สุขภาพดี จะเสพติดไปกับตัวท่านตลอดไป
คนเราต้องดูแลชีวิตตลอดชีวิต...ผมเริ่มดูแลสุขภาพจริงจังเมื่ออายุ 25-26 พูดง่ายๆ คือเมื่อผมเข้ามาทำงานเป็นนักวิชาการด้านโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุขนี่แหละ ...ทุกเช้าประมาณตี 5 ครึ่ง ผมจะตื่นมาวิ่งจ๊อกกิ้งบริเวณหน้าบ้านราวชั่วโมงครึ่ง ถ้าวันไหนไม่ได้ทำจะรู้สึกหงุดหงิดมาก มันเหมือนเป็นยาเสพติดไปแล้ว หลังจากนั้นก็จะทำธุระส่วนตัว เสร็จสรรพก็จะทานข้าวเช้าก่อนไปทำงาน (ท่านย้ำเสียงเข้ม ต้องเป็นข้าวนะครับยิ่งเป็นข้าวกล้องด้วยจะมีประโยชน์มาก ทานกับเมนูผัก ปลา เป็นหลัก) อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ แต่นิสัยคนไทยไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับอาหารมื้อนี้นัก จริงๆ ทุกมื้ออาหารสำคัญเหมือนกันหมด แต่เราต้องรู้จักเลือกกินให้เป็น ในขณะเดียวกันควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่กลัวอ้วนหลายคนเลือกทานอาหารแบบผิดๆ ผิดยังไง อดอาหารมื้อเช้า พอมื้อเที่ยงหิวจัดละซิทีนี้เห็นอะไรก็น่าทานไปหมด ทั้งข้าวกลางวันเอย ขนมหวาน เบเกอรี่ ทานหมดโดยไม่รู้ตัว บางรายยาวไปถึงมื้อเย็นยันมื้อดึก กำลังกายก็ไม่ได้ออกอีก แล้วอย่างนี้จะไม่ไห้ความอ้วนถามหาได้ยังไงผมขอถามหน่อย อย่างที่ผมบอกไว้แต่ต้นแล้วว่า ถ้าทุกมื้ออาหารเราหันมาเน้นทานผัก ทานปลา ตบท้ายด้วยผลไม้ล้างปากสักหน่อย หาเวลาออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งเท่านี้ความอ้วนก็ไม่มาถามหาแล้ว แต่คนไทยส่วนใหญ่มักจะละเลย จนติดเป็นคำพูด พรุ่งนี้ค่อยทำ กินมื้อนี้มื้อเดียวเอง ปัญหาที่ตามมาคือโรคต่างๆ ถามหาจะเป็นมากเป็นน้อยก็แล้วแต่คน
สรุปว่า การกินอาหารเพื่อสุขภาพ มื้อเช้า ต้องกินอย่างราชา มื้อกลางวัน อย่างนางฟ้า มื้อเย็นอย่างยาจก
สำหรับอาหารที่ควรกินในหน้าร้อน คืออาหารที่มีแคลอรีต่ำ หลีกเลี่ยงกะทิ อย่างอาหารคาว ควรเป็นแกงจืด แกงเลียง อาหารที่ไม่ใส่กะทิ ผัก ผลไม้ ไม่ว่าจะแตงโม ส้ม ส้มโอ เหล่านี้สามารถกินคลายร้อนได้ ส่วนผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงคือทุเรียน แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบก็ควรกินอย่างระมัดระวัง อย่างวันหนึ่งไม่ควรกินเกิน 2 เม็ด ขอย้ำว่า 2 เม็ดมิใช่ 2 พลูนะครับ เพราะการกินทุเรียนมากจะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย นอกจากนี้ อย่าไปกินทุเรียนแกล้มเหล้า แอลกอฮอล์ เพราะในทุเรียนจะมีกำมะถันไปละลายแอลกอฮอลล์ทำให้เมาเร็ว ระบบหายใจติดขัดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ หรือเกิดอาการเมาค้าง
สูตรเด็ด เคล็ดลับ 100 ปี ชีวีมีสุข
ปิดท้ายกับเคล็ด (ไม่) ลับกับ 3 อ. ของการมีสุขภาพดี แลดูละอ่อนกว่าวัยในสไตล์ของ อ.สง่า ดังนี้
อ. ตัวแรก อาหาร ซึ่งมีโภชนบัญญัติ 9 ประการ ประกอบด้วย
1.กินอาหารครบ 5 หมู่ หลากหลาย ได้สัดส่วน หมั่นดูแลน้ำหนักตัวเอง
2.กินข้าวเป็นอาหารหลัก โดยเฉพาะ ข้าวกล้อง มีประโยชน์มาก
3.กินพืชผักให้มากผลไม้กินเป็นประจำ เพราะในผลไม้มีสารอาหารช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน ไม่ทำให้เจ็บป่วย เป็นหวัด ประโยชน์ของผลไม้ จะนำเอาสารพิษ น้ำมัน น้ำตาล ออกจากร่างกาย ต้านมะเร็ง หากทานเป็นประจำ
4.กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และเมล็ดถั่วเป็นประจำ
5.ดื่มนมให้เหมาะกับวัย ในวัยเด็กควรดื่มนมรสจืด วันละ 2-3 แก้ว ส่วนในวัยผู้ใหญ่ที่ปกติ ดื่มนมรสจืดวันละ 1-2 แก้ว แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพควรดื่มนมพร่องมันเนยวันละ 1-2 แก้ว หรือปลาที่กินได้ทั้งกระดูก ผักใบเขียว
6.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล เกลือโซเดียม ที่มากับอาหารเค็ม ของดอง กะปิ น้ำปลา เหล่านี้ก่อให้เกิดความดันโลหิตสูง หรือถ้าหวานมากเป็นพลังงานสูญเปล่า ถ้าร่างกายนำไปใช้ไม่หมดก็จะกลายเป็นไขมัน
7.กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร ให้พอดี ไม่มากเกินไป อย่างอาหารจำพวก ผัด-ทอด ไขมัน เนย กะทิ พยายามกินให้น้อยลง
8.รับประทานอาหารสะอาดปราศจากสารปนเปื้อน และสุดท้ายข้อ
9.งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาถึง อ. ที่ 2 ออกกำลังกาย ควรปฏิบัติทุกวันครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือจ๊อกกิ้ง (แม้ในบริเวณบ้านของเราเอง) หรือวิธีง่ายๆคือ ตางราง 9 ช่อง และ เดินขึ้นลงบันได ขั้นเดียว
สำหรับ อ. สุดท้าย อารมณ์ ไม่ให้กินตามปาก อยากตามใจ แต่ให้กินตามความจำเป็นของร่างกาย หรือ เมื่อมีอาการเครียดเข้ามา พยายามสลัดออกให้เร็วอย่าหมกมุ่น หาทางออกด้วยวิธีนั่งสมาธิ ไหว้พระ ออกกำลังกาย
พลัง 3 ส 3 อ คนกลุ่มนี้(จะ)ไม่มีพุง: 3 ส คืออะไร ในบรรดา 3 อ. อ. ทียากที่สุดคือ อารมณ์ เพราะ
ยากที่ 1 ไม่ให้กินตามปาก อยากตามใจ แต่ให้กินตามความจำเป็นของร่างกาย
ยากที่ 2 ต้อง หมั่นบังคับใจตนเองให้ออกกำลังกาย เผาผลาญไขมันเป็นประจำทุกวัน
ฉะนั้น จึง ต้อง มี 3 ส. เข้ามาเกี่ยวข้องคือ ใช้ 3 ส. เป็นอาวุธ สำคัญ ในการ ต่อสู้กับอารมณ์ นั่นคือ
ต้อง สะกิด สะกด สกัด
สะกิดกัน เมื่อตัวเรา หรือเพื่อนๆ จะมีพฤติกรรมการกินที่เกินความจำเป็น หรือ ให้อยู่ใน บัญญัติการกิน 9 ข้อด้านบน
สะกด ใจตนเอง ให้นึกถึง เป้าหมาย หรือแรงบันดาลใจ ที่เราตั้งไว้ เช่น จะอยู่ รอดู เหลนรับปริญญาเอก เป็นต้น
สกัด เมื่อ หักห้ามใจไม่ได้ พลั้งมือ เผลอปาก ไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่ต้อง หมั่น สกัด ออก โดยการ ออกกำลังกาย จนให้ ติดเป็นนิสสัย
พลัง 3 ส 3 อ คนกลุ่มนี้(จะ)ไม่มีพุง คนเหล่านี้ ก็จะรวมตัวคุณเอง เข้าไปในเหล่าด้วย ลองทำดูนะครับ
No comments:
Post a Comment