7/29/11

ส่งเสริมการอ่านผ่านคาราวานผักทอดยอด:กศน.คำเขื่อนแก้ว





วันที่ 26 กรกฎาคม 2554: ส่งเสริมการอ่านผ่านคาราวานผักทอดยอด:กศน.คำเขื่อนแก้ว วันนี้ ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง เข้าร่วมงาน การส่งเสริมการอ่านคาราวานผักทอดยอด ณ ห้องสมุดประชาชน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน และ อาสาสมัคร กศน. จำนวน กว่า 200 คน ประธาน โดย นายสุพิช สามารถ ปลัดอำเภอ(อาวุโส)อำเภอคำเขื่อนแก้ว รักษาราชการแทน นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว มีแขก ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมงาน อาทิ ท่าน บุญจันทร์ สืบวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต ). ดงเจริญ ท่านปุณยวีร์ มาลัย วัฒนธรรมอำเภอคำเขื่อนแก้ว ร.ต.อ. ธนาวุฒิ ทองทั่ว รองสารวัตรฯ สถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว เป็นต้น

จากการรายงานของ ว่าที่ ร.ต. สานิตย์ เจือจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศรัย อำเภอคำเขื่อนแก้ว ทำให้ทราบว่า โครงการส่งเสริมการอ่านคาราวานผักทอดยอด นี้ เป็นการที่ดีมาก ส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่าน

จาก สถิติการอ่านหนังสือของคนไทยในปี พ.ศ. 2551 นั้น คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ย 39 นาทีต่อวัน ลดลงจากปี 2548 ซึ่งอ่านเฉลี่ย 51 นาทีต่อวัน

คนสิงคโปร์หรือเวียดนาม ซึ่งอ่านเฉลี่ยคนละ 40-60 เล่มต่อปีนอกจากนั้น แต่คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยคนละ 5 เล่มต่อปีซึ่งน้อยมาก เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านของเรา

กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดให้ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน และยังให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวันรักการอ่านอีกด้วย

การปลูกฝังนิสัยการรักการอ่านที่ดีควรเริ่มจากในครอบครัวเราเองก่อน โดยพ่อแม่อ่านหนังสือเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น ไม่ใช่เอาแต่ดูทีวี และพ่อแม่ควรอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง หรือตอนเป็นทารก และอ่านต่อเนื่องทุก ๆ วันได้จะยิ่งดี

นิดดา หงษ์วิวัฒน์ เรียบเรียงหนังสือเรื่อง "อ่านหนังสือให้ลูกฟัง", "The-Read-Aloud Handbook, Jim Trelease,2537 กล่าวว่า

"เด็กที่ไม่เคยมีใครเล่านิทาน อ่านหนังสือให้ฟัง ก็จะหมดความกระหายใคร่รู้หมดความอยากฝัน.. การอ่านหนังสือให้ลูกฟังวันละนิดนั้น.. ภาษาที่ลูกได้ฟัง ได้ซึมซับรับรู้ เป็นสะพานที่พ่อแม่ได้สร้างเชื่อมลูก โยงใยเข้าสู่การผจญภัย ความตื่นเต้น สนุกสนานสร้างจินตนาการอันเป็นรากฐานที่สำคัญของชีวิต"

การส่งเสริมการอ่านหนังสือจึงไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องทำกันทุกระดับตั้งแต่ พ่อ แม่ครู อาจารย์ ไปจนถึงรัฐบาล

มาร่วมด้วยช่วยกัน ให้ คนไทยอ่านหนังสือ เพิ่มขึ้นให้ มากกว่า 39 นาทีต่อวัน ให้เพิ่มขึ้น มากกว่า 5 เล่ม ต่อปี ให้ได้นะครับ ขอบคุณ ข้อมูล ส่งเสริมการอ่าน ที่ดีดี จาก สสส.

http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/14956

ขอบคุณ ทีมงาน จาก ศูนย์บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศรัย อำเภอคำเขื่อนแก้ว ทุกท่านที่ร่วมกัน สร้างสรรค์โครงการดีๆ นี้ เพื่อประชาชน

No comments:

Post a Comment