4/30/09

เจ้าของ'ดอกบัวคู่'ใจบุญ ควัก12ล้านแจกผู้เฒ่าทั้งจังหวัด


วันที่ 17 เมษายน 2552 ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.dailynews.co.th
เจ้าของ'ดอกบัวคู่'ใจบุญ ควัก12ล้านแจกผู้เฒ่าทั้งจังหวัด ชื่นชม คนทำดี จิตใจดี คนนี้จัง: [17 เม.ย. 52 - 21:33
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (17 เม.ย.) ที่ลานหน้าโรงแรมทวินโลตัส ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้มีบรรดาผู้สูงอายุทั้งหญิงและชาย รวมถึงผู้พิการใน จ.นครศรีธรรมราช กว่า 3,000 คน เดินทางมารวมตัวกัน เพื่อรอรับบริจาคเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภค

ต่อมา นางสุนันทา ลีเลิศพันธ์ อายุ 69 ปี ประธานกรรมการบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด และเป็นเจ้าของโรงแรมทวินโลตัส พร้อมด้วยนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางมาถึงและนำเงินสด พร้อมด้วยของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ มอบให้กับบรรดาผู้สูงอายุ และผู้พิการที่เข้าแถวรอรับ โดยเงินที่นำมาแจกในวันนี้มีจำนวน 2 ล้านบาท และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
นางสุนันทา กล่าวภายหลังว่า เป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว ที่ตนและสามี คือนายบุญกิจ ลีเลิศพันธ์ แจกเงินให้กับผู้สูงอายุใน จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากตนและสามีเป็นชาวนครศรีธรรมราช ต่อสู้ชีวิตก่อร่างสร้างตัวมาจาก จ.นครศรีธรรมราช โดยนำเอาตำรายาโบราณของญาติผู้ใหญ่มาประยุกต์ผลิตเป็นยาสีฟันสมุนไพร และสบู่สมุนไพรดอกบัวคู่ ต่อสู้ชีวิตมาจากศูนย์ จนกระทั่งสินค้าขายดีทั่วประเทศและสามารถส่งขายต่างประเทศเกือบทั่วโลก ทำให้สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะมั่นคง มีกิจการเป็นของตนเอง ทั้ง บริษัทดอกบัวคู่ จำกัด และโรงแรมอีกหลายแห่ง
นางสุนันทา กล่าวต่อว่า หลังจากมีฐานะพอที่จะช่วยเหลือสังคมได้ ก็ไม่ลืมนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน ผู้สูงอายุผู้มีพระคุณ ทุกปีหลังจากนั้นจะเดินทางมายัง จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงเดือน เม.ย. เพื่อนำเงินมาแจกผู้สูงอายุในจังหวัดที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส กระทั่งต่อมาสามีได้เสียชีวิต ตนและลูกหลาน ก็ยังนำเงินมาแจกทุกปี และจะแจกต่อไปไม่หยุดแม้ตนจะตายไป หากลูกหลานยังมีกำลังช่วยเหลือตัวเองได้ และพอจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นได้
"ก็ได้สั่งเสียไว้ให้แจกและช่วยคนต่อไป เพราะได้สั่งสอนลูกๆ ว่าให้ดำรงตนอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ไม่ต้องสะสมความมั่งคั่งเหมือนเศรษฐีผู้มีอันจะกินอื่นๆ เพราะคนเราตายไปแล้วเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ นอกจากความดีกับความชั่วเท่านั้น ต้องช่วยเหลือและแบ่งปันให้เพื่อนร่วมสังคม ซึ่งลูกๆหลานๆได้รับปากแล้ว หากประชาชนยังอดหนุนสินค้าลูกหลานทุกคนก็จะนำผลกำไรกลับคืนสู่สังคมให้มาก ที่สุดเท่าที่จะมากได้" ประธานกรรมการบริษัทดอกบัวคู่ กล่าว

No comments:

Post a Comment