4/15/09

ยุติการชุมนุม : ปัญหายังไม่จบ


วันที่ 15 เมษายน 2552 บทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ จาก http://www.dailynews.co.th/
ยุติการชุมนุม : ปัญหายังไม่จบ
ในที่สุดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จ การแห่งชาติ (นปช.) ก็ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2552 พร้อมกันนี้ 4 แกนนำได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายสุพร อัตถาวงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากรัฐบาลตัดสินใจใช้ “ไม้แข็ง” ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552 โดยใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ใช้กำลังก่อเหตุจลาจลสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นทั้งกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและของภาครัฐ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ถือเป็นความสำเร็จเบื้องต้นของรัฐบาลในการยึดระบบ นิติรัฐมาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา โดยเรียนรู้จากบทเรียนในอดีตมาปรับใช้กับเหตุปัจจุบัน เพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรใด ๆ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ประชาชนทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และการใช้อำนาจของหน่วยงานหรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติงานจะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เพราะหัวใจของระบบนิติรัฐคือ การทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบสังคม ควบคุม ตรวจสอบการทำงานขององค์กรและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประการสำคัญยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนด้วย
จากนี้ไปรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังย่างก้าวสู่บททดสอบใหม่ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากผลพวงความเสียหายและความสูญเสียจากการก่อเหตุจลาจลป่วนเมืองนั้นต้องมีผู้รับผิดชอบ แม้ไม่ใช่เป็นผู้ก่อเหตุโดยตรงแต่ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนก็สมควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาเยียวยา เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บไม่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนทั่วไป หรือผู้ชุมนุม “เสื้อแดง” โดยเฉพาะกับญาติเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ “เสื้อแดง” ปะทะกับชาวชุมชนนางเลิ้งที่แสดงพลังบริสุทธิ์ต่อต้านการชุมนุมทางการเมืองที่กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ มิชอบด้วยกฎหมาย
เป็นที่แน่ชัดว่า การยอมสลายยุติการชุมนุมของ นปช. ครั้งนี้เป็นเพียงแค่ “พักรบ” ถอยกลับไปตั้งหลัก รอจังหวะพลิกฟื้นสถานการณ์เพื่อมาต่อสู้ใหม่ ขณะที่ต้นเหตุของปัญหาคือ การที่ประชาชน มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันคนละขั้วยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้รัฐบาลจะเสนอแนวทางปฏิรูปการเมืองเป็นกุญแจคลี่คลายปัญหา แต่ตราบใดที่ผู้มีบารมีนอกประเทศยังไม่หยุดทำร้ายประเทศไทย ความสุขสงบและยิ้มสยามของไทยทุกคนก็ยากจะหวนคืนมา....ชาวชุมชนดินแดง และ ชาวชุมชนนางเลิ้งที่แสดงพลังบริสุทธิ์ต่อต้านการชุมนุมทางการเมืองที่กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ มิชอบด้วยกฎหมาย คือ Hero ตัวอย่างของชุมชน อื่นๆ ในการแสดงพลังบริสุทธิ์ เพื่อสิทธิของชุมชนของเรา โดยไม่ต้องนิ่งดูดาย เพราะ หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นในพื้นที่ใด ไม่ว่าจะเกิดจากสีใด หรือฝ่ายไหนก็ตาม ...ล้วนแต่ไม่เกิดผลดี ต่อประเทศชาติส่วนรวมทั้งสิ้น...โดยเฉพาะผู้คนในชุมชนในพื้นที่นั้นๆนั่นเองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนผู้ที่มาก่อความรุนแรง นั้นเขามาชั่วคราวแล้วก็จากไป บางคนไม่ได้มาเลยมีแต่เพียงยุยงส่งเสริมให้คนอื่นเป็นเครื่องมือเท่านั้น ...ถึงเวลาแล้ว ที่ชาวชนชุนเราจะพิทักษ์ สิทธิ ความเป็นพลเมือง ความเป็นชุมชน ด้วยตัวของพวกเรา...

No comments:

Post a Comment