4/13/09

ประชาชน ไม่เอาสงครามวอนรัฐอดทนซัดเสื้อแดงหยุดป่วน


ปชช.ไม่เอาสงครามวอนรัฐอดทนซัดเสื้อแดงหยุดป่วน [13 เม.ย. 52 - 11:42]
วันนี้ (13 เม.ย.) กลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4 เรียกร้องดังต่อไปนี้ 1. ขอให้รัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่าที่มีความจำเป็น และไม่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน ขอให้รัฐบาลอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 2. ขอให้แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รับผิดชอบการใช้ความรุนแรงในสถานที่ต่าง ๆ ของผู้ชุมนุม รับผิดชอบต่อชีวิตประชาชนผู้ร่วมชุมนุม หยุดเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพราะไม่ใช่การชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย แต่มีเป้าหมายเบื้องหลังที่ต้องการให้มีการรัฐประหาร หยุดก่อการจลาจลในสถานที่ต่าง ๆ หยุดพฤติกรรมทำร้ายร่างกายแก่บุคคลต่าง ๆ ดังเช่นที่เกิดขึ้นแก่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำลายทรัพย์สินรัฐและเอกชน พร้อมหยุดการกระจายการชุมนุม ที่ไม่มีผู้นำ นปช.รับผิดชอบ
3. เรียกร้องให้ตัวแทนของรัฐและผู้นำการชุมนุมของ นปช. เปิดเวทีการเจรจา เพื่อหาทางออกยุติสถานการณ์อย่างเร่งด่วน 4. เรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยุติการสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่ม นปช. และเปิดประชุมสภาเพื่อหาทางออกเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน 5. เรียกร้องให้โทรทัศน์ทุกช่องหยุดรายการปกติและสื่อสารข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนการรายงานข่าว
สำหรับกลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง ประกอบด้วยเครือข่ายภาคประชาสังคมจากหลากหลายส่วน อาทิ เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายผู้ติดเชื้อ เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายสุขภาพ เครือข่ายภาคีองค์กรงดเหล้า เครือข่ายสลัมสี่ภาค เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายนักศึกษา ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) อดีตสมาชิกวุฒิสภา เป็นต้น.

7 องค์กรแถลงการณ์ร่วมใช้แนวทางสันติวิธี [13 เม.ย. 52 - 12:41]
จากการที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ปิดถนนบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 9 และ 10 เมษายน และบุกเข้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเมื่อวันที่ 11 เมษายน จนทำให้รัฐบาลต้องเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด และได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเมื่อวันที่ 12 เมษายน และเกิดเหตุการณ์รุนแรงในตอนเช้าตรู่วันที่ 13 เมษายน ที่สามเหลี่ยมดินแดงนั้น

องค์กรทั้งหลายตามรายชื่อข้างท้าย มีความห่วงใยในสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะลุกลามไปสู่วิกฤตการณ์ที่รุนแรงจนควบคุมไม่ได้ จึงขอเสนอความคิดเห็นดังต่อไปนี้

1. การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงอาจจะทำให้สถานการณ์ยิ่งร้ายแรงมากยิ่งขึ้น ขอให้รัฐบาลและกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ใช้กำลังของเจ้าหน้าที่เพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อควบคุมสถานการณ์เท่านั้น อย่าใช้ในการปราบปรามหรือสลายการชุมนุม เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปจนอาจกลายเป็นจลาจล และเมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลควรยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงโดยเร็วที่สุด

2. สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญนั้นจะต้องเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ และต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น แต่การชุมนุมของ นปช. ในขณะนี้มีการใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการบุกโรงแรม บุกกระทรวงมหาดไทย ทุบทำลายรถในขบวนของนายกรัฐมนตรี การปิดถนนสายต่างๆ การยึดรถเมล์ การยึดรถก๊าซ ล้วนแต่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพนอกขอบเขตของรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมายทั้งสิ้น แกนนำ นปช. ต้องยุติการใช้ความรุนแรง การละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และต้องควบคุมผู้ชุมนุมไม่ให้ใช้ความรุนแรง รวมถึงยุติการสร้างความเกลียดชังผ่านทางสื่อในเครือข่ายดังที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ สำหรับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ต้องยุติการยั่วยุและปลุกระดมที่นำไปสู่การใช้ความรุนแรง และถ้าหากเกิดเหตุร้ายแรงมากไปกว่านี้ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่อาจที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้

3. ขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาการชุมนุมที่ละเมิดกฎหมายโดยใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเหมาะสม และใช้กระบวนทางกฎหมายที่ให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง การดำเนินคดีกับ นปช. ก็ต้องดำเนินคดีกับประชาชนกลุ่มอื่นที่ใช้เสรีภาพเกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญด้วยอย่างเสมอกัน

4. ขอให้รัฐบาลใช้แนวทางสันติวิธีและการเจรจาในการแก้ปัญหา ซึ่งจะเป็นหนทางในการนำความสงบกลับคืนมาสู่ประเทศไทยได้อย่างแท้จริง รัฐบาลควรต้องเปิดการเจรจากับแกนนำ นปช. และพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ ในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง และขอให้ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยที่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. กลับมาใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

5. สื่อมวลชนทุกแขนง ต้องรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วนรอบด้าน รวมทั้งต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารที่จะรายงานออกไป เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนและเกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะตัวแทนเครือข่ายนักวิชาการไม่เอาความรุนแรง กล่าวว่า ขอเชิญชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงให้ประดับธงชาติไว้ที่หน้าบ้าน หรือบริษัทห้างร้านของตน เพื่อแสดงออกให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน และอยู่ในประเทศชาติเดียวกัน



วันนี้ พระเอก ในการแก้ไข ปัญหา นอกจาก พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้ว เฉพาะกรณี การแก้ปัญหา ผู้ชุมนุมยึดรถแก๊ส ที่แฟลตดินแดง ต้องยกให้และชื่นชม ความร่วมมือด้วยดี ของ แฟลตดินแดง นั่นเอง ที่ ร่วมมือกับกับเจ้าหน้าที่ ในการ นำรถน้ำไปฉีด รถแก๊ส แล้วฉวยโอกาส ถอนรถแก๊ส ออกมา ได้

No comments:

Post a Comment