4/6/11

ผู้นำCUP_ระวังจะนำพาองค์กรให้เป็นไส้ติ่งของระบบ








วันที่ 5 เมษายน 2554 :ผู้นำCUP_ระวังจะนำพาองค์กรให้เป็นไส้ติ่งของระบบ: ผม นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง เข้าร่วมประชุมเป็นวันที่ 2 เรื่องการขับเคลื่อน ขับเคลื่อน นโยบายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ของโรงพยาบาลแม่ข่าย ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมลายทอง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี วิทยากรหลักในวันนี้ โดย นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 1 บรรยายพิเศษ ในเรื่อง ระบบบริการปฐมภูมิ ทางรอดของ สาธารณสุขไทย และท่านให้เกียรติเป็นประธานในการ ตอบคำถามในการเปิดอภิปรายทั่วไป

ประเทศไทย ได้รับความชื่นชม จากทั่วโลกมาก ในการ ประสบความสำเร็จจากชั่วข้ามคืน ในนโยบาย หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Coverage: UC) แต่ จากการศึกษาวิวัยในภาพกว้างในระดับพบว่า ประเทศไทย จะล้มละลาย บนความสำเร็จ ถ้า ไม่ทำ ในสิ่งต่างๆต่อไปนี้.. มีข้อเสนอแนะของท่านหลากหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น

... ปัจจุบัน ประเทศไทย มีเตียง ของ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 90,000 เตียง

รวม ภาครัฐอื่นๆ และมหาวิทยาลัย รวม ภาครัฐ 100,000 เตียง รวมภาคเอกชน อีก ประมาณ 50,000 เตียง รวม ประมาณ 150,000 เตียง

...ปัจจุบัน มีผู้สูงอายุ ร้อยละ 11 แต่ในอนาคต ประมาณ ปี 2563 จะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 20 ซึ่ง ผู้สูงอายุ จะมีทั้ง ช่วยเหลือตนเองได้ ติดเตียงบ้าง และแช่เตียงตลอดกาล ทั้ง 3 กลุ่มนี้ ต้องการเตียงประมาณ 90,000 เตียง ขณะที่ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่ ไม่ใช่ผู้สูงอายุ ยังต้องกการเตียงประมาณ 110,000 เตียง รวมแล้ว เราจะต้องมีเตียงประมาณ 200,000 เตียง สรุปว่าจากนี้ไปจนถึง ในปี 2563 หรือปี 2020 เราต้อง เพิ่มจำนวนเตียงอีก อย่างน้อยปีละ 10,000 เตียง

... ปัจจุบัน โรงพยาบาลชุมชนหลายแห่ง ทำองค์กรของท่านให้ เป็นไส้ติ่ง ของระบบสาธารณสุข

... ปัจจุบัน บางแผนกกของโรงพยาบาลทั่วไป หลายแห่ง ทำองค์กรของท่านให้ เป็นไส้ติ่ง ของระบบสาธารณสุข

... ปัจจุบัน บางแผนกกของโรงพยาบาลศูนย์ หลายแห่ง ทำองค์กรของท่านให้ เป็นไส้ติ่ง ของระบบสาธารณสุข

ทำตัวเป็นไส้ติ่งคือ...คิดเองว่าสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่นั้น ไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องสนับสนุนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ก็ยังได้รับเงินเดือนและสวัสดิการจากรัฐเหมือนเดิม .. การกระทำลักษณะนั้น ท่านโปรดรู้ไว้ด้วยว่า ท่านกำลังทำองค์กร ให้ เป็นไส้ติ่ง ของระบบสาธารณสุข เพราะ ท่านไม่ได้ สร้างประโยชน์ ให้กับประชาชนตามบทบาทที่คาดหวัง ซึ่ง บทบาทที่คาดหวัง หรือ บทบาทขององค์กรที่คาดหวัง

คือ โรงพยาบาลชุมชนต้องทำบทบาทในการสร้างศักยภาพและความศรัทธา ให้ประชาชนมีต่อ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพ.สต.)ให้เพิ่มมากขึ้น โรงพยาบาลศูนย์ ต้องสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของโรงพยาบาลทั่วไป

โรงพยาบาลทั่วไป ต้องสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของโรงพยาบาลชุมชน

สรุป ... โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ต้อง สนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของโรงพยาบาลขนาดกลาง

โรงพยาบาลขนาดกลาง ต้อง สนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของโรงพยาบาลขนาดเล็ก

โรงพยาบาลขนาดเล็ก ต้อง สนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพ.สต.)

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพ.สต.)ต้อง สนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของ ชุมชน

... KEY SUCCESS FACTOR ที่สำคัญ ในการสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพ ของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล คือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน และ สาธารณสุขอำเภอ .. ขอให้ กุญแจ ทั้ง 2 ดอกนี้ร่วมกัน ไขปัญหาต่างๆที่มีร่วมกัน ด้วยดี ปัญหาเกืบทุกสิ่งอย่างสามารถแก้ไขได้ ...

....ผมประทับใจ เนื้อหา และแนวคิดของท่าน มาก ณ วันนี้ ผมรู้แล้ว ว่า Slide เรื่อง หลุมพราง ของ รพ.สต. หรือ เรื่อง 3 ต้อง 2 ไม่ ของพยาบาล ใน รพ.สต. ที่ผมได้มาจากการไปประชุม เรื่อง การพัฒนาคุณภาพ จากเวทีการประชุมที่กระทรวง นั้น Original จริงๆ แล้ว มาจาก ท่าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 1 นี่เอง ต้องขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างมาก ครับ ...และ ขออนุญาต นำความรู้ที่ได้ จากการบรรยาย ของท่านไปเผยแพร่ต่อ เพื่อเป็น วิทยาทานนะครับผม ทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังจะให้เกิดประโยชน์ กับประชาชน ให้กับ บุคลากร สาธารณสุข โดยเฉพาะ บุคลากร ที่ปฏิบัติงาน ใน พื้นที่ ทั้ง โรงพยาบาลชุมชน และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพ.สต.)

... ข้อเสนอจาก ผู้เข้าร่วมประชุม ที่ประทับใจ จาก ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลกัณฑลักษณ์ เสนอให้การประเมิน ON TOP จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช .) เกี่ยวกับเกณฑ์ ที่ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ ให้ เป็นการประเมิน จากผลงานแทน เครือข่าย รพ.สต.ที่มีแพทย์ มีบุคลากรตามเกณฑ์ แต่ ผลงานไม่ได้ปฏิบัติตามเกณฑ์ ก็จะได้รับเงิน ON TOP จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รายหัวละ 100 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับ รพ.สต.ที่ไม่มีแพทย์ มีบุคลากรตามเกณฑ์ แต่เขาได้ปฏิบัติงานและมีผลงานตามเกณฑ์ ทุกอย่าง กลับได้รับเงิน ON TOP จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพียงรายหัวละ 50 บาท เท่านั้น

No comments:

Post a Comment